ภาคบทสวดมนต์ พระแม่กวนอิม
บทสวดมนต์นี้
ข้าพเจ้าได้ฟังจากบทสวดและถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือ พร้อมกำหนดเสียงสูง ต่ำ
ให้สอดคล้องกับบทสวด ซึ่งบทที่ข้าพเจ้าสวดเป็นทำนองมีทั้งสิ้น 5 บทสวด และมีบทกลอนอีก 8 บทสวด เป็นบทสวดที่ข้าพเจ้าสวดเพื่อเป็นหนทางในการปฏบัติกระทั่งบรรลุธรรมอรหันต์ได้
บทสวดทำนอง 5 บทสวดได้แก่
1. คาถาพระมหาโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร “โอม มา นี เปก เม ฮง
2. บทสวดมหากรุณาธารณีสูตร
3. บทสวดพระแม่กวนอิมพันมือ (พระอวโลกิเตศวร)
4. บทสวดแผ่เมตตาจีน
5. บทสวดมหาปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร (ภาษาจีน)
บทกลอน 8 บทสวด ได้แก่
1. บทสรรเสริญพระคุณพระแม่กวนอิม
2. บทสวดมนต์ แกมึ้งเผ่งอังเกง (กวนอิมสูตรคุ้มครองครอบครัวให้ประสบสันติสุข)
3. บทสวดมนต์ ไป่ ที ตี่ (กราบไหว้บูชาฟ้าดิน)
4. บทสวดมนต์ หมั่งสิ่วจิงเกง (สวดภาวนาเพื่อคลายอาถรรพณ์)
5. บทสวดมนต์ เจี่ย เถี่ย จุ่ย ฮู่ เกง (สวดภาวนาเพิ่มเติมมนต์พระแม่คงคา)
6. บทสวดมนต์ กิ้วโค่วจิงเกง (ช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ยาก)
7. บทสวดมนต์ ขิ่วใช้เต็งเกง (ขอประทานบารมีให้เกิดลาภสักการะ)
8. บทสวดมนต์ กวงอิมฮุกโจ้วป๋ออุ่งเกง (ขอประทานบารมีให้ทรงคุ้มครองดวงชะตา)
ทั้งนี้ข้าพเจ้าได้จัดนำมาบันทึก เพื่อให้บุตรหลานและบุคคลทั่วไปสามารถสวดมนต์ได้ สำหรับสื่อเซียงนั้น แม้จะยังอ่านหนังสือไม่ค่อยออก แต่ก็สามารถสวดได้ทุกบทสวดภายหลังได้ฟ้งจากเทปเพียงไม่กี่ครั้ง เนื่องด้วยพระแม่ทรงสอนให้
บทสรรเสริญพระคุณ
พระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ (พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์)
นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโค่ว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิม ผู่สัก (กราบ)
นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโค่ว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิม ผู่สัก (กราบ)
นำโมไต๋ชื้อ ไต๋ปุย กิวโค่ว กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิม ผู่สัก (กราบ)
นำโมฮู๊ก นำโมหวบ นำโมเจ็ง นำโมกิ้วโค่ว กิวหลั่ง กวงสี่อิมผู่สัก
ทั่งจี้โต โอม เกียล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต เกียออฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ล้อเกียฮวดโต
ซำผ่อออ เทียงล้อซิ้ง ตี่ล้อซิ้ง นั่งลี่หลั่ง หลั่งลี่เซ็ง เจ็กเฉียก
ใจเอียงห่วยอุ่ยติ๊ง นำมอมอออ ป่อเยี๊ย ปอหล่อบิ๊ก (กราบ)
คาถาพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
โอม มา นี เปก เม ฮง (คาถาหัวใจของพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์)
โอม ม๊า นี๊ เป้ก เม ฮง • โอม มา นี เปก เม ฮง •โอม มา นี เปก เม ฮง โอ๊ม มา นี เป้ก เม ฮง•โอม ม๊า นี๊ เป้ก เม ฮง • โอม มา นี เปก เม ฮง
โอม มา นี เปก เม ฮง โอ๊ม มา นี เป้ก เม ฮง• โอม ม๊า นี๊ เป้ก เม ฮง •โอม มา นี เปก เม ฮง
โอม มา นี เปก เม ฮง โอ๊ม มา นี เป้ก เม ฮง•โอม ม๊า นี๊ เป้ก เม ฮง •โอม มา นี เปก เม ฮง
โอม มา นี เปก เม ฮง โอ๊ม มา นี เป้ก เม ฮง•โอม ม๊า นี๊ เป้ก เม ฮง •โอม มา นี เปก เม ฮง
สัญลักษณ์ทำนอง (• จบวรรค) (ลากเสียงยาว)
บทสวดมหากรุณาธารณีสูตร
นำ มอ ฮัล ไล ตัน ล้า ตอ ลา ย๊า เย นำ มอ อ๊อ ลี เย • พอ ลู เสี่ย ตี • ซู เปิน ลา เย ผู๊ ที สัก ต๊อ พอ เย มอ ฮอ สัก ตอ พ๊อ เย•มอ ฮอ เจี้ย ลู หนี่ เจี่ย เย อัน •สัก ฟัน ไล ฟา แฮ ซู๊ ตัน น๊อ ตัน แซ • นำ มอ ซื๊อ เจีย ลี ตอ • อี ตง อ้อ เลีย พอ ลู เจีย ตี ซือ ฟอ ไล• ลี ทอ พอ นำ มอ •นา ไล้ จิน จือ ซี ลี้ มอ ฮอ พัน ตอ ซา เม สั๊ก พ๊อ ออ ทัน ตอ • ซือ ฟง ออ สื่อ ยิน • สัก พอ สัก ตอ นา มอ พ๊อ สั๊ก ตอ นา มอ พอ เจีย มอ ฟา เทอ โตว ทั๊น จือ ทา •อัน อ๊อ พ๊อ ลู ซี๊ ลู เจีย ตี่ • เจี่ย ลู ตี๊ อี ซี๊ ลี •มอ ฮ๊อ ผู๊ ที สั๊ก ตอ สัก พอ สัก พอ ม๊อ ไล ม๊อ ไล มอ ซี มอ ซี ลี ทอ ยึน •จี ลู จี ลู เจีย มง • ตู๊ ลู๊ ตู๊ ลู๊ ฟา เซ๊อ เย ตี ม๊อ ฮ๊อ •ฟ๊า เซ๊อ เย้ ตี่ ทอ ไน้ ทอ ไน๊ ตี๊ ลี นี •สื่อ ฟอ ลา เย • เจอ ไล้ เจอ ไล้ มอ มอ ฟ๊า มอ ไล • มก ตี ลี• อี๊ ซี อี๋ ซี สือ นา สือ นา ออ ไหล่ เซิน •มอ ไล เซ๊อ ลี้ ฟ๊า เซิ๊น ฟา เซิน ฟอ ไล• เซ๊อ เย •ฟู ลู ฟู ลู มอ ไล • ฟู ลู ฟู ลู ซี๋ ลี • ซา ไล้ ซา ไล้ สี่ ลี สี่ ลี สู่ ลู้ ซู๊ ลู ผู่ ที เย • ผู่ ที เย๊ ผู่ ทอ เย ผู่ ทอ เย• มี ตี ลี เย นา ไล จิน จือ ตี๊ ลี้ • สื๊อ นี นา พอ เย มอ นา ซ๊ำ พอ ฮอ•ซี ทอ เย ซำ พอ ฮอ•มอ ฮอ ซี ทอ เย้ ซ๊ำ พอ ฮ๊อ•สื้อ ตอ ยี้ อี สื่อ เฟิน ลา เย ซ๊ำ พอ ฮอ • นา ไล จิน จือ ซำ พอ ฮอ •มอ ไล นา ไล้ ซ๊อ พ๊อ ฮอ สื๊อ ไน เซิ๊น • อ๊อ ม๊อ เชี๊ย เย ซำ พอ ฮอ •ซ๊ำ พอ ม๊อ ฮ๊อ ออ ซี ตอ เย ซำ พอ ฮอ • เจอ จี ไล ออ ซี ตอ เย ซ๊ำ พ๊อ ฮ๊อ•ป๊อ ท๊อ มอ จิด สื๊อ ตอ เย • ซ๊ำ พอ ฮอ • นา ไล้ จิน จื๊อ เฟิน เจีย ไล เย๊ ซ๊ำ พอ ฮอ
•มอ พอ ลี เซิน เจียไล เย๊ ซ๊ำ พอ ฮอ •นำ มอ ฮัล ไน๊ ตัน นา ต๊อ ล้า ยา เหย่ น๊ำ ม๊อ •อ๊อ ลี้ เย๊ •พอ ลู๊ เจีย ตี สู่ เฟิน ลา เย ซ๊ำ พอ ฮอ •อัน สึด เตี๊ยน ตอ • มั๊น ตอ ไล ปั๊นทอ เย้ ซ๊ำ พอ ฮอ
บทสวดพระแม่กวนอิมพันมือ (พระอวโลกิเตศวร)
นำ โม ย๊านา จา ยา • ย๊า นำ โม๊ อัลลี ยา จ๊า นา • ซา ก๊า ลา • เอ โล จ๊า นา • ยู ฮา ลา จา ย๊า นำ โม๊ ยา กา ยา • อัล ลา ฮ๊า เต • ซัน ยา ซัน • ปู กา ยา •
นำ โม ซัน วา กัต ตา กัต เต เต๊อั๊ล ล๊า มัต ตา เต •
ซัน ย๊า ซัน • อุ เจ เต • นำ โม๊ อัลลี ยา
อัง วา ปู เก เต • ซัว ลา ย๊า โป ตี๊ ซั๊ว วา ยา •
มะ หะ ซั๊น ว๊า ยา • มา หา กา ลู นี กา ยา •
อัล ลียา • อา โอ๊ม • อา ด๊า จ๊า ดา • จี่ ดี่ จี๊ ดี • จู๊ ดู๊ จู๊ ดู • อี ตี เว •
อีตี๊ จ๊าเด๊ จ๊า เด • อู ดา จ๊า เด •
อู ดา จ๊า เด • ตู ซู เม • อู ซู มา วา •
เต๋ อี๊ ตี๊ มี ดี จี ดี จัว ดา มัต ต๊า ม๊า ยา โซวา
บทแผ่เมตตาจีน
นำ โม ฮัล ไล ปัน นา ตอ ไล ยา เย๊ • น๊ำ โม๊ โอ๊ ลี๊ เย • โต เจ๊ต เต๊ สื๊อ เฟิ๊น น๊า เย๊ • ปุน ตี๊ สัก ต๊อ พ๊อ เย • ม๊อ สัก ตอ พอ เย๊ ม๊อ จา ลู ยี จ๊า เย๊ •บ่ง ซัด ฟัด ไน๊ ฟ๊า ยี • ซู๊ เฟิน ฮา นัน จา • นำ โม เสก เก ยี๊ ต๊อ ยี โม๊ โอ ลี๊ เย • ม๊อ เก๊ต เต๊ สื๊อ โฟ๊ น๊า น๊ำ ม๊อ ตอ • น๊ำ โม๊ นา ไล กิน ตี่ • เย ลี โม โอ ฟัน โต ซา เม๊ • ซั๊ม ป๊อ โฮ นา โต๊ สื่อ ตง • ฟัด สื่อ ยี๊ • ซัด โม๊ ซ๊า โต • น๊ำ โม โอ ซัน โต • นำ โม โป เช โม ฟา เทอ โตว ทัน จือ ทา โอ๊ม โอ โป ลู เต๊ ลู๊ จา ตี่ • จา เม๊ ยี๊ เต่ ลี • โม๊ ปุน ตี ซัน โต ซัน โต ซ๊า โต • ม๊อ นา มอ ไน มอ เล มอ เล ลี ตอ ยี๊น จี๊ ลู๊ จี๊ ลู เจี๊ย มง • ตู หลู่ ตู๊ ลู๊ ฟัด เซ๊อ เย๊ ตี• โม๊ ฟัด เซ๊อ เย๊ ตี • มอ นา มอ ไน ติ ลิ นี ยี๊ ซื๊อ โฟ๊ นา เย เจิน ไน๊ เจิน ไน๊ ม๊อ น๊อ ฟัน ต๊อ ไน๊ • มอ ตี่ ลี๊ ยี๊ เต๊ ยี๊ เต• ซือ น๊า ซือ นา อา ลา เซิน • มอ ไน๊ เซ๊อ หลี่ • ฟา เซิน ฟ๊า เซิน ฟอ ไน๊ เซ๊อ เย๊ ตู๊ ลู๊ ตู๊ ลู๊ มอ ไน๊ ตู ลู้ ตู้ ลู๊ เย๊ หลี่ • ซา ไน ซา ไน๊ ซิ๊ ลิ๊ ซิ๊ ลิ๊ • ซู๊ ลู๊ ซู๊ ลู๊ ผู ที เย๊ ผู ที เย •ผู ทอ เย๊ ผู ทอ เย๊ มิ ติ๊ ลี เย นา ไล กิ๊น ตี่ • อี่ ตี่ เซ๊อ หลี่ นา • ม๊อ เย๊ มอนา ซำ พอ ฮอ • สิด ตอ เย ซำ พอ ฮ๊อ มอ ฮ๊อ สิด ตอ เย ซ๊ำ พอ ฮอ• สิด ตอ ลิ๊ ยี๊ ซื๊อ เฟิ๊น น๊า เย๊ ซ๊ำ พอ ฮอ • นา ไล๊ กิน ตี ซ๊ำ พอ ฮอ • มอ ไล๊ นา ไล ซำ พอ ฮ๊อ ชี ไล๊ เซิ๊น โต ชี เย๊ ซำ พอ ฮอ • ซำ พอ ม๊อ ฮ๊อ ฮ๊อ ชี๊ ตอ เย๊ ซ๊ำ พอ ฮอ • จัง เก๋ ไน ออ ซือตอ เย ซำ พอ ฮอ • พอ ตอ มอ จิด ซือ ตอ เย ซำ พอ ฮ๊อ นา ไล๊ กิน ตี๊ ฟั๊น เจ๊ นา เย๊ ซ๊ำ พอ ฮอ • มง โก๋ว เซด เจ๊ น๊า เย๊ ซ๊ำ พอ ฮอ• นำ โม๊ ฮัล ไน ตัน นา ตอ ไน๊ ย๊า เย • นำ โม ออ ลี เย พอ ลู เก เต๊ ซื๊อ เฟิ๊น น๊า เย๊ ซ๊ำ พอ ฮอ • โอ่ม จูเซ๊น ต๊อ มั๊น ต่อ ไน • ปัด ต๊อ เย๊ ซ๊ำ พ๊อ ฮอ
มหาปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร
ปว๊อ เหริ๊น ปว๊อ ลั๊ว หนี่ ตัว ซิ๊น สี่ • กว๊าน จื๊อ ไจ๊ ผู๊ ซ๊า สิ่ง เซิน • ปว่อ เหริ่น ปว๊อ ลัว นี ตัว ซือ • เตา เทียน ปู๊ เยวี๊ยน เทียน กว่อ •ปู๊ อี๊ เชี่ยน ปู๊ เอ๊อ เซ๊อ ลี๊ จื๊อ •เซิน ปู ยี้ โค้ว โค๊ง ปู่ ยี้ เซ้อ เสิ๊น ตี่ สื่อ โค่ว โค่ง ตี่ สื่อ เซอ • โซ๊ว เซี๊ยง ซี่ สื่อ • ยี ปู่ • หลู่ สื่อ • เซอ หลี่ จือ •ซื๊อ จู๊ ฟ๊า โค๊ง เซียง • ปู๊ เซิ๊ง ปู๊ เมี๊ยง • ปู๊ โค๊ว ปู๊ จิ๊ง ปู๊ เจิ๊ง ปู๊ เจี๊ยน • ซื่อ กู๊ คง จ๊ง อู๊ เซ่อ •อู๋ โซ่วเซียงซิงซือ โซ่วเสี่ยงซิ่งสื่อ • อู่ เหยียนเอ่อร์ปี๋เซ่อ อู่ เสิ่น ตี่ • อู๋ เซ่อ เซิน เซียน เหว่ย จื่อ ป่า •อู๋ เอยี่ยน เจี๊ย • ไหน่ จื๊อ อู๊ อี้ซื๊อ เจีย • อู๊ อู๊ มิ๊ง• อี๊อู๊อู๊ มิ๊ง จิ๊น • ไหน่ จื๊อ อู๊ เหลา ซื๊อ • อี๊ อู๊ เหลา ซื่อ จิ้น • อู่ ขู่ จี๊ เมี๊ย เต๊า • อู่ จื๊อ อี๊ อู๊ เต๊อ • อี๊ อู๋ ซว่อ เต๊อ กู่ • ผู่ ถี๊ ซ๊า ตว่อ • อี๊ ปว๊อ เหริ่น ปว๊อ หลั๊ว นี๊ ปว๊อ กู๊ •ซิน อู๊ กว๋า ไอ๊ อู่ กว๊า ไอ๊ กู่ • ปู โหย่ว ปู โหย่ว ข่ง ปู๊ เหวียน หลี่ เมี๊ยน เต่า คง เสี่ยง เจี๊ยว จิง เมี๊ยง อั๊น เซิ๊น สื่อ จู๊ กว่อ อี๊ ปว๊อ เหริ๊น ปว๊อ ลั๊ว มี๊ ตว๊อ • จู๊ เต๊อ โอ๊ว เนี๊ยน กู๊ ลั๊ว ซั๊น เหมี๊ยว ซั๊น ผู๊ ถี๊ • ปู่ จื่อ ปว๊อ เหริ๊น ปว๊อ ลั๊ว มี๊ ตัว • ซือ ต๊า เสิ๊น โจ้ว สื่อ ต้า หมิ๊ง โจ้ว ซื่อ อู๊ สั่ง โจ่ว ซื๊อ อู๊ เติ๊ง โต๊ว โจ่ว • หนั่ง ฉู่ อู่ เซี่ย ขู๊ • เจิ่น สื่อ ปู่ อู่ ชวี • กู๊ ซว๊อ ปวอ เหริ่น ปว๊อ ลั๊ว นี๊ ตวั๊อ โจ๊ว • จี๊ เซิน โจ๊ว เยวี๊ยน เจี๊ย ตี๊ • เจี๊ย ตี๊ • ปว๊อ ลั๊ว เจี๊ย ตี๊ • ปว๊อ ลั๊ว เซิน เจี๊ย ตี๊ ผู๊ ถี่ ซ่า ปว๊อ เฮ้อ •กวั่น จื๊อ ไจ๊ ผู๊ อู๊ ซ่า
บทสวดมนต์ ไป่ ที ตี่
(กราบไหว้บูชาฟ้าดิน)
ห่งไป่กวงซีอิมผ่อสัก นำมอออนี้ถ่อฮุก
นำมอออนี้ถ่อฮุก นำมอออนี้ถ่อฮุก
อู่คิ้วเตกเเอ่ขิ่วใช้เตกใช้ ขิ่วหกเตกหก
เอกไป่ทีตี่กงอึงชิม หยี่ไป่ป๋อเกี๋ยเกี่ยเหมงซิม
ซาไป่ซือจุงไหล่ก้าหวบ สี่ไป่เตียเนื้ยเอี๋ยงหยกอึง
โหงวไป่โหงวกกหอชงกี ลักไป่ใจหลั่งเหล่งถุกลี้
เฉกไป่นำมอออนี้ถ่อหุก โป้ยไป่ไหน่เฮวยไคมั๋วตี๊
เก้าไป่เส็กเกียยู่ไล้หุก จั๊บไป่จูฮุกเหี่ยเทียงไถ่
ไชยไป่บ้วงไป๋ไป้ทีตี่ ไป่เก่าทีเจื่ยเทียงมึ้งไค
ไป่เก่าใช้เซ๊งไล้สื่อหก ไป่เก่ากวนอิมกั้งหลิ่มไล้
นำมอออนี้ถ่อหุก นำมอกวงสี่อิมผ่อสัก
นำมอกวงสี่อิมผ่อสัก นำมอกวงสี่อิมผ่อสัก
บทสวดมนต์ เจี่ย, เถี่ย จุ่ย - ฮู่ – เกง สวดภาวนาเพิ่มเติมมนต์พระแม่คงคา
ชิวเอกจับโหงวเทียงสื่อกิม หน่ำไฮ่กวนอิมเฮว่เสี่ยงซิม
นั่งไป่จูฮุกจูผ่อสัก ไป้เก้าเทียงฮู่ตี่ฮู๋เซ้ง
ไป้เก่าจุ๋ยฮู่เส่งซิมกี จงเยกเอ่งจุ้ยบ่อสี่ลี้
หนั่งแซตอสี่โตวเอ่งจุ้ย จุ๋ยแซจุ๋ยเอี้ยงจุ๋ยเถี่ยตี๊
เขงคิ้วจุ๋ยกั๋วไหล่ถำเฮว่ เซียงไจทุกหลั่งเซี่ยเจว่ลี้
เส่งซิมไป้ฮุกอิ่วเหนี่ยมเกง ไป้เก่าจื่อซุงโอ๋ยชงเม้ง
ไป้เก้าแกไหลตั่วปู้กุ่ย ขิ่วฮุกป๋ออิ๋วเทียมไฉ่เต็ง
เจ็กแอ่บักโก้วซาแอ่เจ็ง ตะเจื๋ยผู่ฮุ้งคื่อซิวเฮ้ง
บู๋ตึ่งซัวเท้าขื่อเอาะหวบ ไป้เก้าเต็กหวบเห่งกิมเซง
ฮุกโจ้วจ่อต่อป๋อไหน่เฮวย คาตะผู่ฮุ๊งบั๋วทีเปว
เจ็งซิมเหนียมฮุกอู่เหล่งเอ่ง เซ่งนึ่งคิ้วฮุกเม๋งไจ้แซ
แกไหลผ่อสักจูฮุกไล้ ขิ่วเก้าแกมึ้งตั่วฮวดใช้
เขงขิ่วฮุกโจ้วไล้เซว่หวบ ป๋ออิ๋วเซ่งนึ่งเทียงฮกไล้
จูฮุกผ่อสักมอออปวกเยี่ยปอลอบิก เทียงเซ็งเช็งตี่เหล่งเล้ง
อุ้งโท๋ยเซ็งฮ่อซ่งเก่ง อุ้งโท๋ยหยะฮ๋อไป้เซ้ง
เสี่ยเก้าเส่งเซียนไล้โก๋ยหง่วง เหล่าหงวงเซ็งซ่วงโก้ยเก้าเซ้ง
เทียงชิ่วเทียงอิมอิม หชี่วเต้งฮ๋อส่งเกง
หชิ่วแอ๋ฮ๋อไป้เซ้ง เจ้งอุ่ยเส่งเซียนไหล่โก๋ยหง่วง
เหล่าหงวงเซ็งหงวงโก๋ยเก้าเซ้ง เทียงสิ่วป๋อป้อสิ่วเต้งฮ๋อเทกท้อ
สิ่วแอ๋ฮ๋อโก๋ยหง่วงเหล่าหง่วงเซงหง่วงโก๋ยเก้าบ๋อ
บทสวดมนต์ แกมึ้งเผ่งอังเกง
(กวนอิมสูตรคุ้มครองครอบครัวให้ประสบสันติสุข)
ฮุบทสวดมนต์ กวงสี่อิมผ่อสักแกมึ้งเผ่งอังเกง
ฮุกสื่อกวงอิมแกหมึ่งเกง ป๋ออั้วแกมึ้งบ่วงสื่อเฮง
ป๋ออั้วแกไหลตั่วปู้กุ่ย ป๋ออั้วแกมึ้งเทียมไฉ่เตง
เย็กเย็กส่งเกงอู่เฉกเพียง เส่งฮุกเทียใจปุกกำเฮี๊ยม
ไจ๊เย็กอู่เจว๋กิมเย็กโก้ย กิมเย็กโก๋ยเจว๋อู่บ่วงเพียง
หมวยเย็กส่งเกงอู่ชัยปัว โก่วเซ้งโก่วฮุกจ้อไถ้ซัว
เอกไหล่ป๋อนั้มหยีป๋อนึ่ง ป๋ออั้วหะแกโตวเผ่งอัง
ไป้เซ้งไป้ฮุกไป้ฉื่อปุย ขิ่วเซ้งขิ่วฮุกไหล่ป๋ออุ๊ย
แกตังตั่วโส่ยฮุกไหล่ป้อ แกไหลอู่สื่อฮุกบัวะไค
ไป้เก้าโหล่วโต๊ยงเฮียงอิ่วเฮียง ไป้เก่าเต็งกวงเจ็กอิ่วอั๊ง
ไป้เก่าแกไหลตั่วปู้กุ่ย ไป้เก่าจื๋อซุงโตวเผ่งอัง
กวงอิมจู่ต่อโผวถ่อซัว แกไหลห่งเก่งโตวเจกปัว
อู่หนั่งส่งเตกกวงอิมเกง ไชยใจแปะหนั่งเจ่งเซียวเชง
กวงอิมเนื่ยเนื๊ยต่อแกปี จ๋าจ้าหมึ่งมึ๊งเนื้ยหู่ที้
หม่อออหุกโจ้วไหล่สื่อหก ซื่ออั้วแกไหลหกหลกช๊วง
หม่อออผ่อสักหม่อออสัก หม่อออจูฮุกป๋อเผ่งอัง
นำมอออหนี่ถ่อฮุก หน่ำเหมียวออเหล่งแคย่เคี้ยว
บทสวดมนต์ หมั่งสิ่วจิงเกง
(สวดภาวนาเพื่อคลายอาถรรพณ์)
นั้มมอกวงซี่อิมผ่อสัก นั้มมอฮุก
นั้มมอหวบ นั้มมอเจง
อื๋อฮุกอู่อิง อื๋อฮุกอู่อ๊วง
หุกหวบเซียงอิง เสี่ยลักงอเจ๋ง
เจียวเหนียมกวงซี่อิม หมอเหนียมกวงซี่อิม
เหนี่ยมเหนี๋ยมฉ่งซิมคี่ เหนี่ยมฮุกปุกหลี่ซิม
เทียงหล่อซิ้ง ตี่หล่อซิ้ง
นั้งหลี่หลั่ง หลั่งลี่ชิง
เจ๊กเฉียกใจเอียงฮ่วยอุ่ยติ้ง
นัมมอหม่อฮอปวกเยี่ยปอหล่อบิ้ก
บทสวดมนต์ กิ้วโค่วจิงเกง (ช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ยาก)
นัมมอกิ้วโค่วกิ้วหลั่งกวงซี่อิมผ่อสัก แป้ะไชยบ่วงเอ้กฮุก
เห่งฮ้อซาซู่ฮุก บ่อเหลียงกงเต็กฮุก
ฮุกเก่าออหลั่งงั้ง ซือเกงไต้เสี่ย
เหล่งกิ้วเง็กชิ้ว เหล่งกิ้วตั่งแป่
เก๋งกิ่วไชยใจแปะหลั่งโค่ว เหยียกอู่นั้งส่งเต็กเจ็กไชยเพียง
เจ็กเซ็งหลี่โค๋วหลั่ง ส่งเต็กเจ็กบ่วงเพียง
ฮะแกหลี่โค๋วหลั่ง นั้มมอหุกลักอุย
นัมมอหุกลักหู ไสนั้งบ่ออั้กซิม
เหล่งนั้งเซ็งเต็กโต่ว เฮว่กวงผ่อสักเฮว่เสียงผ่อสัก
ออเนื้ยไต่เทียงอ๊วง เจียโต๋ยผ่อสัก
ท้อฮิวม้อฮิว เซ็งเจ็งปี๋คิ๊ว
กัวสื่อเต็กช๊วง สงสื่อเต็กฮิว
จูไต่ผ่อสักโง๋วแปะออหล่อหั่ง กิวหู่ตี่จื้อ
เจ็กไก่หลี่โค๋วหลั่ง สื่อเอี้ยงกวงซี่อิม
เอ็งลกปุกซูโก้ย เข่งสงไชยบ่วงเพียง
ใจหลั่งจื่อเอี้ยงเต็กโก๋ยถุก เจ้งกิ่วหงเกี๊ย
เจี๊ยกเสว่จิงงั๋งเอียก กิมพ้อกิมผ่อตี่
ขิ่วออขิ่วออตี่ ถ่อล้อนีตี่
หนี่ออหล่อตี่ ปีลี้นีตี่
หม่อฮอเกียตี่ จิงเล้งเคียงตี่ ซำผ่อออ
บทสวดมนต์ ขิ่วใช้เต็งเกง
(ขอประทานบารมีให้เกิดลาภสักการะ)
ทีแอ๋หน่ำเกียงซีโป่วจิว ไชยซั๊วบ่วงจุ้ยเฮี้ยงไซคิ้ว
กงเมี้ยหกลกฮุกไหล่สื่อ ไฉ่เต็งปู้กุ่ยโจ้วไหล่คิ้ว
กวงอิมสี่ซี้ต่อคงตัง หึ่งเซ็งเสี่ยต่อแปะฮุ้งตัง
ไชยแกอู่คิ้วไชยแกเอ่ง บ่วงแกอู่คิ้วบ่วงแกลิ้ม
กวงอิมหุกโจ๊วหกหอคิ้ว เจ๊กเนื๋ยปั้งฉุกบ่วงเนื๋ยซิว
แซโจ๊ยซิวไล้กิมซี่เอ่ง ซี่สี่ปู้กุ่ยหกไชยซิว
กวงอิมจ่อต๋อปั้วคงตัง ไป้เซ็งหลักกะจ้าเต็กนั้ม
จ้าเต็กหนั่มยี้แซกุ้ยสื่อ คีคิ้วฮกลกสิ่วหนี๊เชี้ยง
กวงอิมฮุกโจ้วเชื่ยหงิ่มงิ้ม เฉื่ยลื้อเซ่งนึ่งฮ๋วกฉื่อซิม
เสี่ยงยิ้งสี่ซี้เทียงซื่อหก เทียงสื่อกุ้ยจื่อเหง็กขี่เล้ง
เทียงสื่อฮกลกเก้าแกเท้ง หะแกปู้กุ่ยเสี่ยเทียงซิ้ง
สิ่งเซียงจิ่วสื่อซังเล่งป้อ เอียงซัวก้าจื่อโหงวหกไล้
หมวยง้วยเหนี่ยมเกงไป้สิ่งเม้ง หมึ่งโจ้ยฮีขี่ฉ่วงหมัวเท้ง
จื๋อซุงหมัวตึ๊งแกปู้กุ่ย ต้อต่ออั่งเต้งใจ้กวงเม้ง
ใจ้เหนี่ยมแกมึ้งเสี่ยกิ๊กเข่ง ซาไชยจูฮุกกั่งเจงเซี้ยง
บ่อเหลียงจูฮุกจูผ่อสัก หม่อออปวกเยี่ยปอหล่อบิ้ก
นัมมอออนี้ถ่อฮุก
บทสวดมนต์ กวงอิมฮุกโจ้วป๋ออุ่งเกง
(ขอประทานบารมีให้ทรงคุ้มครองดวงชะตา)
เจียง้วยตุ้ยฮวยสี่ซัวแต๊ เกียวซิ่วกวงอิมเก้าหวมแก
เกียวซิ่วกวงอิมไหล่ป๋ออุ่ง ไหล่ป๋อจือซุงฮกหลกแซ
นัมมอออนี้ถ่อหุก กวงอิมฮุกโจ้วป๋อเผ่งอัง
หยีง้วยตุ้ยฮวยสี่โบวตัว เกียวคิ้วกวงอิมจ้อจูซัว
เกียวคิ้วกวงอิมไหล่ป๋ออุ่ง ไหล่ป๋อหนั่มนึ่งเซ็งเผ่งอัง
นัมมอออนี้ถ่อหุก กวงอิมฮุกโจ้วป๋อเผ่งอัง
ซาง้วยตุ้ยฮวยสี่จีเกง เกียวคิ้วกวงอิมเหี่ยเทียงเท้ง
เกียวคิ้วกวงอิมไหล่ป๋ออุ่ง ไหล่ป๋อห่วมเย้งแกหมึ่งเฮง
นัมมอออนี้ถ่อหุก กวงอิมฮุกโจ้วป๋อเผ่งอัง
สี่ง้วยตุ้ยฮวยสี่จุยเซียง เกียวคิ้วกวงอิมชุกโพวแก
เกียวคิ้วกวงอิมไหล่ป๋ออุ่ง ไหล่ป๋อห่วมเย้งบ่อหั่วเอียง
นัมมอออนี้ถ่อหุก กวงอิมฮุกโจ้วป๋อเผ่งอัง
โหงวง้วยตุ้ยฮวยสี่อั่งโน้ย เกียวคิ้วกวงอิมชุกปอไตย่
เกียวคิ้วกวงอิมไหล่ป๋ออุ่ง ไหล่ป๋อจือซุงหกสิ่วเชี้ยง
นัมมอออนี้ถ่อหุก กวงอิมฮุกโจ้วป๋อเผ่งอัง
ลักง้วยตุ้ยฮวยสี่ผู่ท้อ กวงอิมป๋อนั้งบ่วงสื่อบ้อ
เกียวคิ้วกวงอิมไหล่ป๋ออุ่ง ไหล่ป๋อจือซุงฮกสิ่วตอ
นัมมอออนี้ถ่อหุก กวงอิมฮุกโจ้วป๋อเผ่งอัง
เฉ็กง้วยตุ้ยฮวยสี่เสียะลิ้ว เกียวคิ้วกวงอิมชุกโพวจิว
เกียวคิ้วกวงอิมไหล่ป๋ออุ่ง ไหล่ป๋อจือซุงหั่วสื่อฮิว
นัมมอออนี้ถ่อหุก กวงอิมฮุกโจ้วป๋อเผ่งอัง
โป้ยง้วยตุ้ยฮวยสี่จือลั้ง เกียวคิ้วกวงอิมกั่งหวมกัง
เกียวคิ้วกวงอิมไหล่ป๋ออุ่ง ไหล่ป๋อจือซุงเซ็งบ่อหลั่ง
นัมมอออนี้ถ่อหุก กวงอิมฮุกโจ้วป๋อเผ่งอัง
เก้าง้วยตุ้ยฮวยสี่เซาะไล้ เกียวคิ้วกวงอิมเหี่ยเทียงไท้
เกียวคิ้วกวงอิมไหล่ป๋ออุ่ง ไหล่ป๋อจือซุงบ่อหั่วใจ
นัมมอออนี้ถ่อหุก กวงอิมฮุกโจ้วป๋อเผ่งอัง
จั๊บง้วยตุ้ยฮวยสี่หง่อท้ง เกียวคิ้วกวงอิมกิ่วโค่วหลั่ง
เกียวคิ้วกวงอิมไหล่ป๋ออุ่ง ไหล่ป๋อจือซุงซิงคิงซง
นัมมอออนี้ถ่อหุก กวงอิมฮุกโจ้วป๋อเผ่งอัง
จับเอ็กง้วยตุ้ยฮวยสี่กุ๊ยกี กวงอิมเล่งป๋อสี่กังนั้ง
เกียวคิ้วกวงอิมไหล่ป๋ออุ่ง ไหล่ป๋อจือซุงถุกไต๊หลั่ง
นัมมอออนี้ถ่อหุก กวงอิมฮุกโจ้วป๋อเผ่งอัง
จับหยีง้วยตุ้ยฮวยสี่เองท้อ กวงอิมป๋อนั้งแปะแป่บ๊อ
เกียวคิ้วกวงอิมไหล่ป๋ออุ่ง ไหล่ป๋อจือซุงซงโต้วเฉี่ยวทง
นัมมอออนี้ถ่อหุก กวงอิมฮุกโจ้วป๋อเผ่งอัง
จับหยี่ไก่ง้วยป๋ออุ่งเกง ป๋อเต็กเผ่งอังฮกไหล่เจง
กวงอิมผ่อสักต่อหุ่งตวง ชิ่วจับบักโก้วไหล่ส่งเกง
นัมมอออนี้ถ่อหุก กวงอิมฮุกโจ้วป๋อเผ่งอัง
ส่งเต็กสี่นั้งเทียมฮกสิ่ว เทียมเต็กฮกสิ่วป๋อเผ่งอัง
เจงโก้วซาเซียอู่ฮุงเม้ง สี่เย้งอู่หลั่งใจ้ส่งเกง
นัมมอกวงซี่อิมผ่อสัก กวงอิมผ่อสักป๋อเผ่งอัง
ผ่อสักเหย็กเย็กเหี่ยหวมกัง กวงเกี่ยงสี่กังเสี่ยงอั้กนั้ง
เกี่ยเสียงจือนั้งใจหลั่งเสี้ยว จั้กอักจือจั้งหกหลั่งตัง
นัมมอกวงซี่อิมผ่อสักหม่อออสัก เหย็กเย็กส่งเกงป๋อเผ่งอัง
สี่ซี้ส่งเกงเทียมฮกสิ่ว ไจเทียมฮกสิ่วป๋อเผ่งอัง
บรรยายบทสรรเสริญพระคุณ พระแม่กวนอิม
ขอนอบน้อมพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร(กวนอิม)
พระผู้เปี่ยมล้นด้วยมหาเมตตา มหากรุณาอันยิ่งใหญ่ไพศาล ขอได้โปรดปัดเป่าทุกข์โศก
โรคภัยอันตรายทั้งปวง
ข้าพเจ้าขอน้อมถึง พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ ขอได้โปรดปัดเป่าทุกโศกโรคภัยทั้งปวงให้หมดสิ้นไป
ขอความสุข สมปรารถนาทุกประการ จงมีแด่ข้าพเจ้า ขอเทพเจ้าเบื้องบน
และเทพเจ้าเบื้องล่างทั้งหมด ได้โปรดปัดเป่าให้เวรกรรม และสรรพเคราะห์ทั้งมวลจงหมดสิ้นไป
บรรยาย โอม มานี เปก เม ฮง
คาถาพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ความหมายในพระคาถาหัวใจของพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ โอม มานี เปก เม ฮง
เป็นมหามนต์ 5 คำที่ศักดิ์สิทธิ์ สามารถชำระล้างกาย วาจา ใจของผู้ที่สวดมนต์ ท่องบ่นภาวนา และปฏิบัติสมาธิด้วยเสียงมหามนต์ 5 คำนี้ ทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณที่มีความเป็นสัตว์นรก เปรต เดรัจฉาน อสูร หรือแม้กระทั่งความเป็นเทพในตัวเราให้หมดสิ้น ให้เป็นกาย วาจา ใจ ที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ ประดุจหนึ่งเดียวกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
มานี - คือ เสียงอันศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถขจัดความเป็นอสูร คือ ความอิจฉาริษยา อาฆาต ปองร้าย พยาบาท และ ความเป็นสัตว์โลก รัก โกรธ เกลียด ให้หมดสิ้นไปจากใจของเราได้
เปก - คือเสียงอันศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถขจัดความเป็นเดรัจฉาน สภาพที่เป็นสัตว์ให้หมดสิ้นไปจากใจของเราได้
เม - คือเสียงอันศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถขจัดความเป็นเปรต ความโลภให้หมดไปจากใจ
ฮง - คือเสียงอันศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถขจัดความเป็นสัตว์นรก ดุร้าย ป่าเถื่อน ไร้ศีลธรรมให้หมดไปจากใจเราได้
บรรยายบทสวดมนต์มหากรุณาธารณี
มนต์บทนี้ผูกเป็นคาถา ๘๔ ประโยค มีคำแปลดังนี้
๑. ขอนอบน้อมนมัสการพระไตรรัตน์ทั้งสาม หมายถึง..การน้อมเอาพระไตรสรณคมน์, พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึก ผู้ต้องการปฏิบัติให้ถึงพระองค์จะต้องสาธยายมนตราด้วยความมีเมตตากรุณา และเปี่ยมด้วยศรัทธา ไม่ควรสวดด้วยเสียงอันดัง เกรี้ยวกราด และเร่งร้อน
๒. ขอนอบน้อมนมัสการแด่องค์พระอริยะ ผู้ห่างไกลจากบาปอกุศล วัตถุประสงค์แห่งบทนี้... พระโพธิสัตว์ทรงสั่งสอนชาวโลกให้ปฏิบัติทางจิตเป็นมูลฐาน พระสัทธรรมทั้งหลายล้วนกำเนิดมาแต่จิต เหตุนี้ผู้ปฏิบัติจะต้องมีความชัดแจ้งแห่งจิต และมองเห็นสภาวะแห่งตน จึงจะสามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ เมื่อไม่แจ้งชัดในจิตก็ไม่สามารถเห็นสภาวะแห่งตน หากแต่จิตเป็นอจล มีความมั่นคง ก็สามารถเดินทางสู่พระนฤพานได้
๓. ขอนอบน้อมนมัสการ ขอนอบน้อมคารวะแด่องค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ผู้เพ่งเสียงแห่งสรรพสัตว์ผู้ยาก พระโพธิสัตว์ผู้สงสารชีวิตแห่งสรรพสัตว์ผู้ตกอยู่ในกองทุกข์เขาเหล่านั้นล้วนมีความทุกข์อันเกิดจากการหลงลืมสภาวะเดิมของตน จำต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ พระองค์พิจารณาตามนี้ จึงเกิดเมตตาจิตที่จะโปรดสัตว์
๔. ขอนอบน้อมคารวะต่อผู้ให้ความตรัสรู้แก่ทุกชีวิต หากตั้งใจในธรรม นอบน้อมต่อความแจ้งในสภาวะเดิม ก็จะถึงความหลุดพ้น...
๕. เมื่อน้อมคารวะผู้กล้าหาญก็มีโอกาสที่จะหลุดพ้น มวลสรรพสัตว์ในโลกอันไพศาล ถ้ารู้สึกตัวแล้วลงมือปฏิบัติ ล้วนถึงความหลุดพ้นได้
๖. ขอนอบน้อมคารวะต่อผู้มีมหากรุณาจิต
๗. ขอนอบน้อม บูชาถวาย พระโพธิสัตว์เป็นผู้มีความเมตตากรุณาไม่มีประมาณ นำสัทธรรมอันเป็นความดับสูญโดยแท้จริง ปลุกให้มนุษย์ฟื้นคืนสภาวะเดิมที่มีอยู่ เข้าถึงสัทธรรมอันบริสุทธิ์
๘. องค์อริยะผู้อิสระ ผู้มีกายใจอันบริสุทธิ์สะอาด กาย ใจ จะบริสุทธิ์ได้ ต้องตั้งอยู่ในสัจธรรม ปฏิบัติตนอยู่ในศีล
๙. การปฏิบัติธรรมต้องถือความสัจเป็นพื้นฐาน ใช้ความเพียรเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุสู่อริยสัจ หากการปฏิบัติธรรมไม่ประกอบด้วยความสัจ ก็จะไม่พบหนทางสู่ความสำเร็จ เนื่องจากความสัจนั้นเป็นธรรมที่ปราศจากการหลอกลวง จิตจึงรวมเป็นหนึ่งได้ เมื่อมีความสัจ ก็จะมีความเข้าใจ เมื่อเข้าใจก็จะมองเห็นความปลอดโปร่ง เมื่อปลอดโปร่งก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลง และกลับกลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
๑๐. ผู้ปฏิบัติธรรมย่อมได้รับความคุ้มครองจากพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ การปฏิบัติธรรมจะรีบร้อนให้ได้ผลในทันทีย่อมเป็นไปไม่ได้ ผู้ที่จะน้อบน้อมเข้าถึงองค์อริยะ จำต้องปฏิบัติธรรมโดยมานะพากเพียร มีจิตใจมั่นคงเป็นหนึ่ง จะกระทำโดยเร่งรีบไม่ได้ ต้องทำใจให้ว่างเข้าถึงองค์แห่งพระธรรมคัมภีร์ หมั่นในการปฏิบัติตามหลักธรรม มีความคิดดำริมั่นที่จะก้าวข้ามห้วงแห่งโอฆ จะคิดจะกระทำประโยชน์แก่สรรพชีวิต
๑๑.
จิตต้องกับธรรม ท่องเที่ยวไปอย่างอิสระ เนื่องด้วยสำเร็จในมรรคผล
ผู้ปฏิบัติต้องจงใจมุ่งไปข้างหน้า ฝึกฝนให้กายและจิตรวมเป็นหนึ่ง
(เอกัคคตา)
๑๒. การคุ้มครองคนดี นักปราชญ์ นักปฏิบัติ ด้วยความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์ ทรงย้ำเตือนให้ยึดถือพระไตรสรณาคมน์ ต้องปฏิบัติตนอยู่ในมนุษยธรรม ทำตนเป็นตัวอย่างเพื่อให้สาธุชนรุ่นหลังได้รับรู้เป็นแบบอย่างและเจริญรอยตาม สาธุชนผู้ปฏิบัติตามพระพุทธองค์และพระธรรมยิ่งต้องมีความเมตตากรุณาจิตและโพธิจิตเพื่อโปรดสัตว์ รักษาพระธรรมยิ่งกว่าชีวิตและเผื่อแผ่ทั่วไปไม่มีประมาณ
๑๓. ความเมตตากรุณาอันไพศาล
สามารถบำบัดทุกข์บำรุงสุขได้
ผู้มีบุญวาสนาจะได้รับการคุ้มครองจากเทพเจ้า
มารทั้งหลายไม่สามารถมารบกวนได้
...พระโพธิสัตว์เล็งเห็นว่าชาวโลกถือเอาความรวย, มีชื่อเสียง, ศักดินา เป็นที่นิยมศรัทธา อันเป็นการเพิ่มพูนความทุกข์ พระองค์จึงเตือนจิตให้มนุษย์
จงผ่อนใจในทางโลก โน้มน้าวจิตใจมาในทางมรรคผล เมื่อจิตว่างแล้ว
พระสัทธรรมอันพิสุทธิ์ก็จะเจริญขึ้น
๑๔. ทุกคนที่ปฏิบัติสามารถรู้ได้เห็นได้ และบรรลุสู่พระพุทธภูมิได้โดยเสมอกัน
๑๕. ผู้ที่ทำความดีย่อมได้รับการชมเชย ผู้ทำบาปจะต้องสำนึกและขอขมาโทษ
๑๖. พุทธธรรมอันไม่มีขอบเขตสิ้นสุด สรรพสัตว์ในโลกนี้ล้วนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าได้ พุทธธรรมเป็นความเสมอภาค มิได้แบ่งแยกเป็นสูงหรือต่ำ พุทธธรรมมีความไพศาล ผู้ปฏิบัติตามจะสามารถระงับภยันตรายทุกสิ่ง ไม่ว่านักปราชญ์หรือผู้โง่เขลา เบาปัญญา คนหรือสัตว์ ล้วนสามารถหลุดพ้นได้ ถ้าเขาเหล่านั้นปฏิบัติธรรมด้วยความสัจ
๑๗. ผู้ปฏิบัติต้องถือพระสัทธรรมเป็นสูญ
ไม่ข้องแวะ ไม่ติดในรูป ไม่ยึดในจิต
ถือเอาสัจธรรมเป็นใหญ่ และต้องละความวิตกกังวล กำจัดความโกรธ
ความโลภ ความหลง
โดยใช้หลักแห่งปัญญาดับกิเลสให้จิตสงบ เป็นอยู่ในโลกนี้โดยสันติสุข
๑๘. ความศรัทธาจริงอันต่อเนื่องกัน จิตต้องตรงกับพระธรรม ห้ามมิให้มีความคิดทางโลกเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ เนื่องจากว่าหากปล่อยให้ความคิดทางโลก เกิดขึ้นในจิต กาย ใจ ก็จะไม่บริสุทธิ์ ทำให้เกิดการขัดแย้งกับพระธรรม ไม่อาจจะพบความสันติสุขได้
๑๙. นอบน้อม เป็นบทนำ เป็นพระโพธิสัตว์ หมายถึงพระธรรมคือความสะอาดจิตสะอาดสดใสไร้ราคะ ผู้ปฏิบัติธรรมต้องมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยว ไม่หวั่นไหวต่อการก่อกวนของเหล่ามาร(กามกิเลส) หากสามารถตั้งจิตข่มจิตสำรวมกาย วาจา และจิต ละทิ้งโลกาวิสัยทั้งหมดก็จะเข้าถึงพุทธสภาวะที่มีอยู่เดิม ถ้าทำให้จิตมีความสงบนิ่งอยู่ทุกขณะ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ก็จะมีความสำเร็จในธรรมโดยมิรู้ตัว พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ รวมทั้งพระโพธิสัตว์เจ้าได้หลุดพ้นในขณะที่อยู่ในโลกอันมากล้นไปด้วยกิเลสนี้
๒๐. เป็นโลกนาถ มีความเป็นอิสระ มีกุศลจิตสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มัวหมอง มีรัศมีสว่างรอบกาย และสามารถร่วมกับดินฟ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน รักษาความมีกุศลจิต อย่าทำลายตนเอง อย่าหลงผิดเป็นชอบ สิ่งสำคัญ...ต้องรักษาจิตให้บริสุทธิ์
๒๑. ผู้มีความกรุณา ผู้ปลดปล่อยทุกข์ เป็นผู้มีจิตในทางธรรม ดำรงมรรคมั่นคง มีสติปัญญาเฉียบแหลมยิ่งใหญ่ เมื่อจิตมีความสงบก็สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งชั่วร้ายให้กลับกลายเป็นดี
๒๒. กระทำตามโอวาท อย่ามีจิตหลงผิด
๒๓. ความไพศาลของพุทธธรรม ทุกคนน้อมนำไปปฏิบัติได้ เห็นโลกนี้เป็นสูญ การเน้นปฏิบัติอนัตตธรรม มองเห็นสรรพธรรมเป็นสูญ มองความรุ่งเรืองแห่งลาภยศ สรรเสริญเป็นสูญ มองให้เห็นเป็นเงาลวง ทำจิตใจร่างกายให้หมดจด
๒๔. พุทธธรรมมีความเสมอภาค อีกทั้งยังอำนวยประโยชน์สุขแก่สัตว์โลก ผู้ที่มีปัจจัยแห่งบุญย่อมได้รับความสุข
๒๕. ผู้ปฏิบัติจะได้มีมโนรถแก้วมณี
แก้วมณีนี้แจ่มใสไม่มีอะไรขัดข้อง
ความคิดคำนึงเกิดมาแต่จิต จิตเป็นใหญ่ จิตเป็นประธานแห่งบุญและบาป
ผู้ปฏิบัติต้องกำจัดความคิดอันเป็นอกุศล ความคิดฟุ้งซ่าน
ระงับความวิตกกังวล
เพียรพยายามเสาะหาสัจธรรม ชำระล้างอายตนะภายในให้สะอาดพิสุทธิ์
ละความห่วงใยใดๆให้สิ้นเชิง
๒๖. ความมีอิสระทันที
ผู้ปฏิบัติไม่มีเวลาใดที่ไม่เป็นอิสระคือมีอิสระทุกเมื่อ
การปฏิบัติกระทั่งสำเร็จวิชชาธรรมกาย มีอาสน์ดอกบัวรองรับ โดยปกติแล้วผู้ที่มีจิตว่างก็จะมีความสะอาดทั้งกายและจิต
เมื่อลงมือปฏิบัติแล้วก็สามารถบรรลุมรรคผลได้ และก็จะตั้งอยู่เช่นนั้น
ไม่มีวันเสื่อมถอย
๒๗. การเกิดความคิดปฎิบัติธรรมสามารถบันดาลให้เทพเจ้ามาปกปักรักษาผู้ปฏิบัติจะต้องสร้างสมบุญบารมีเพื่อเป็นพื้นฐานในการบรรลุสู่มหามรรค (มรรคผล-นิพพาน)
๒๘. ผู้ปฏิบัติจะต้องยืนให้มั่นตั้งใจปฏิบัติ ไม่หลุ่มหลงด้วยพวกเดียรถี มีความแน่วแน่ มีสมาธิ มีความสงบ มีความบริสุทธิ์อันยิ่งใหญ่สามารถข้ามพ้นสังสารวัฏได้
๒๙. พระสัทธรรมอันไพศาล สามารถระงับความเกิดดับแห่งกิเลสได้ ภัยพิบัติต่างๆไม่แผ้วพาน ทุกคนสามารถสำเร็จเป็นพุทธะได้เหมือนหัน กำจัดความหลงผิด ความเห็นแก่ตัว ปล่อยวางปัจจัยทางโลก
๓๐. เมื่อปฏิบัติจิตให้มีสภาพเหมือนอากาศอันโปร่งใส ไร้ละอองธุลีแม้แต่น้อย ก็จะได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นพรหมได้
๓๑. สัตว์ทั้งหลายล้วนสามารถรับการโปรดได้ พรหมจาริณีที่ปฏิบัติธรรมอยู่
๓๒. เมื่อปฏิบัติธรรมเข้าถึงความสมบูรณ์แห่งสภาวะเดิมแล้ว จะมีความสว่างปรากฏในกายของตน
๓๓. ความโกรธ ดุ สุรเสียงที่เปล่งออกมาดุจเสียงคำรามของฟ้า กระหึ่มไปทั่วสารทิศธรรมเหมือนดังฟ้าร้องคำรามไปทุกสารทิศ เป็นเสียงแห่งพรหมเมื่อเหล่ามารได้ยินศัพท์สำเนียงนี้ ก็จะเกิดความสะดุ้งกลัว
๓๔. การกระทำดี สามารถทำลายความกังวลแห่งภยันตรายได้ ธรรมะเป็นสิ่งลึกซึ้ง เข้าใขยาก และมีความศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถประมาณ หรือคาดคิดได้ เป็นประโยชน์ที่ไม่มีสิ่งใดทัดเทียม
๓๕. หลุดพ้น ผู้ปฏิบัติได้เช่นนี้ ย่อมบรรลุสู่ภูมิแห่งพุทธ
๓๖. การชักชวนตามพระศาสนา ทุกสรรพสิ่งให้ดำเนินไปตามธรรมชาติ ทุกสิ่งปล่อยให้ดำเนินไปตามเหตุปัจจัยปรุงแต่ง อย่าฝืนกระทำตามใจชอบ
๓๗. เป็นมหาสติ มีจิตใจมั่นคงสามารถเข้าสู่มหาปัญญา ผู้ปฏิบัติธรรม มีความสว่างแห่งสติปัญญาอยู่ ถ้าใช้จิตนี้เป็นฐานใช้ธรรมให้เป็นประโยชน์ ก็จะได้รับฐานธาตุที่สดชื่น แต่หากไม่มีจิตใจมั่นคงกำจัดกิเลสในตนไม่หมด ก็ไม่มีทางที่จะให้ความว่างแห่งสติปัญญาที่มีอยู่ดั้งเดิมปรากฏออกมาได้เลย.
๓๘. ความผ่านธรรมไปถึงธรรมราชา มีความอิสระในธรรม การได้พระธรรมกายอันบริสุทธิ์ ได้ดวงแก้วแห่งพระรัตนะ
๓๙. ผู้ที่มีธรรม ตั้งอยู่ในขันติธรรม ผู้บรรลุธรรม มีความสุขอันแท้จริงยากจะบรรยายเป็นการอนุโมทนาตามเหตุตามปัจจัย ความสุขที่แท้จริง จะต้องได้จากการปฏิบัติที่ยากลำบาก ถ้าสามารถอดทนต่อความยากลำบากก็จะเข้าถึงความสุขอันยิ่งได้
๔๐. จะต้องมีความรู้ด้วยตนเอง ผู้จะบรรลุธรรมหากสามารถละการยึดเกี่ยวเข้าถึงสภาวะดั้งเดิม ก็จะพบพระพุทธเจ้าได้ทุกพระองค์
๔๑. การประกอบพิธีตามปรารถนา ประกอบพิธีกรรมไม่ละจากตัวตน
๔๒. การประกอบธรรม โดยปราศจากความคิดคำนึงมีความเป็นอิสระสูง
๔๓. ผู้ปฏิบัติเพียงแต่มีความมุ่งมั่น มีความเพียรพยายามอย่างต่อเนื่อง มีจิตอันเป็นหนึ่งเดียว ก็จะได้เห็นองค์พระโพธิสัตว์
๔๔. ความเป็นมหามงคลอันสูงสุด สามารถอำนวยประโยชน์ และคุ้มครองสรรพสัตว์โดยไม่ละทิ้ง
๔๕. น้ำอมฤตทานสามารถอำนวยประโยชน์แก่สัตว์โลกทั้งปวง
๔๖. การตรัสรู้ธรรม ตรัสรู้ถึงภูมิจิต ผู้ที่ปฏิบัติจะต้องมีความวิริยะพากเพียรอย่างแรงกล้า ปฏิบัติทุกวันทุกคืนเสมอต้นเสมอปลายไม่ท้อถอย
๔๗. เป็นการรู้ในธรรม รู้ในจิต ผู้ปฏิบัติจะต้องถือ “ตัวเขา-ตัวเรา” เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่เพียงแต่ไม่เห็นลักษณะตัวเขาตัวเรา แม้สรรพสัตว์ในทุคติ ก็ต้องถือว่าเท่าเทียมกับเรา
๔๘. มหากรุณา ให้ผู้ปฏิบัติต้องเจริญเมตตากรุณาจิต เพื่อให้สรรพสัตว์เข้าถึงโพธิมรรค รักในตนเองเท่าใด ก็ให้รักผู้อื่นเท่านั้น
๔๙. นักปราชญ์ผู้รักษาตนเองได้ มีมหากรุณาจิต ผู้ปฏิบัติจะต้องเคารพนักปราชญ์ เห็นผู้ทำดีจะต้องช่วยกันรักษา ผู้ที่เกิดความท้อถอยก็ต้องส่งเสริมให้กำลังใจ
๕๐. ความคมของวัชระ ให้คนเรามีความมั่นคงในการปฏิบัติธรรม
๕๑. สุรเสียงก้องไปสิบทิศ เป็นสุรเสียงแห่งความปิติยินดี
๕๒. ความสำเร็จผล มงคล นิพพาน ระงับภัยเพิ่มพูลประโยชน์ พระสัทธรรมไม่เกิดไม่ดับ เป็นสภาวะอันสงบมาแต่เดิม
๕๓. ความสำเร็จในธรรมทั้งหลาย
เข้าถึงพระวิสุทธิมรรคปราศจากขอบเขตอันจำกัด
สรรพสัตว์เพียงแต่ละวางจากลาภยศชื่อเสียง ก็จะเข้าถึงความหลุดพ้นได้
๕๔. ผู้ปฏิบัติถ้าเห็นแจ้งในพระสัจธรรมและความหลอกลวง(ไม่แท้) ก็จะสำเร็จได้ง่าย
๕๕. ความไพศาลของพระพุทธธรรม ผู้ใดน้อมนำไปปฏิบัติจะสำเร็จในพระพุทธผล
๕๖. เน้นย้ำประโยชน์ในการปฏิบัติธรรม
๕๗. ความสำเร็จ ความว่างเปล่า ทวยเทพเจ้าต่างได้รับความสำเร็จอันเป็นความว่างเปล่า (สุญญตาธรรม)
๕๘. เป็นความอิสระสมบูรณ์ เป็นการกล่าวถึงบรรดาเทพีที่ต่างสำเร็จในอิสระธรรม
๕๙. อสังสกฤตธรรมนั้น เป็นสภาวธรรมที่สมบูรณ์โดยอิสระ เป็นการประกาศมหามรรคที่ยิ่งใหญ่มีผลที่ลึกซึ้ง
๖๐. ความสำเร็จด้วยความรัก ความเมตตากรุณา การปกปักษ์รักษา
๖๑. แสดงถึงความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์
๖๒. มโนรถ ความหวัง ความประสงค์ อนุตตรธรรม การปฏิบัติอนุตตรธรรมสมดังประสงค์
๖๓. พระโพธิสัตว์มุ่งเน้นให้คนปฏิบัติธรรม อีกทั้งยังเปิดเผยหัวใจอันลึกซึ้งของมหามรรคนี้
๖๔. เป็นการแสดงความรักของพระโพธิสัตว์ต่อหมู่ชน
๖๕. คนเรานั้นมีโรคทางจิตเป็นภัยคุกคาม พระธรรมโอสถเท่านั้นที่สามารถรักษาให้หายได้
๖๖. สัตว์ทุกประเภทมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน สามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิได้เหมือนกัน สรรพสัตว์มีโอกาสร่วมรับความสุขสบายทั่วถึงกัน บุคคลมีขันติธรรมก็จะเข้าถึงธรรมได้ด้วยดี สามารถสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณได้ไม่จำกัด
๖๗. ความเมตตาอันสูงสุด
๖๘. การใช้วชิรจักรปราบเหล่ามาร ความสำเร็จอันไม่มีสิ่งใดเทียบได้ การใช้วชิรธรรมจักร ปราบเหล่ามารศัตรูได้รับความสำเร็จ
๖๙. สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนสำเร็จในความบริสุทธิ์ได้ จึงไม่ควรประกอบอกุศลกรรมทั้งหลาย
๗๐. พุทธธรรมเป็นธรรมที่ไม่มีขอบเขต จะต้องปฏิบัติเพื่อได้รับความสุขร่วมกัน ย้ำเตือนให้ผู้ปฏิบัติจะต้องประกอบด้วยสติปัญญาเพื่อการหลุดพ้น ละจากกิเลส
๗๑. ผู้ปฏิบัติไม่ยึดในทางใดทางหนึ่ง ปฏิบัติโดยการพิจารณา พร้อมทั้งมีหิริโอตตัปปะ มรรคผลนั้นสำเร็จได้ด้วยตนเอง สำเร็จได้ด้วยการพิจารณาในทุกขณะจะต้องพิจารณาจิตของตน รักษาไว้ในทุกเหตุปัจจัยไม่ให้วิตกจิตเกิดขึ้นได้
๗๒. รักษาไว้ด้วยความเป็นภัทร เถระเพ่งโดยอิสระ เป็นที่รักของผู้เจริญ เป็นที่รักของพระอริยะ
๗๓. การปฏิบัติให้ถือเอาสัมมาจิต และความมีสัจเป็นหลัก
๗๔. ผู้กล้า สภาวะเดิม คุณธรรมจะสำเร็จได้ ด้วยสภาวะแห่งเมตตาธรรม หากจิตตั้งอยู่ในอกุศลก็ย่อมเป็นการยากที่จะสำเร็จพระอนุตตรธรรม
๗๕. เป็นการรวมเอาพระคาถาทั้งหมดแห่งมหากรุณาธารณีสูตรมาไว้ในประโยคนี้ มีนัยบ่งบอกถึงความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์ เพื่อโปรดเหล่าสรรพสัตว์ทั้งปวงให้ได้รับหิตานุหิตประโยชน์ มีพระสัมมาสัมโพธิเป็นหลักชัย
๗๖. เน้นย้ำให้พยายามควบคุมกายใจไม่ให้ลื่นไหลไปตามอารมณ์ที่มากระทบ
โน้มนำเอาฌานสมาธิเพ่งการเกิดการดับ
๗๗. เป็นการสาธยายมนต์สรรเสริญพระอริยะ และกล่าวย้ำถึงการปฏิบัติธรรมต้องละความเป็นตัวตน, บุคคล, เรา-เขา จึงสามารถไม่ให้เกิดความคิดนึกอันเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ได้ความนึกคิดติดยึดไม่เกิด ความเข้าใจถึงธรรมก็จะเป็นที่หวังได้
๗๘. พระสัทธรรมไม่มีความสิ้นสุด บรรดาผู้ปฏิบัติธรรมย่อมมีความบริสุทธิ์เป็นเครื่องอยู่ นำทางสู่แดนสุขาวดี มีการเกิดย่อมต้องมีการตาย มีความชนะย่อมต้องมีความพ่ายแพ้... แต่ชาวโลกผู้ตกอยู่ภายใต้อวิชชากลับยินดีต่อการเกิดเกลียดชังความตาย ท้ายที่สุดก็ต้องตายอยู่นั่นเอง ฉะนั้นหากต้องการรอดพ้นจากความตาย จะต้องค้นหาความเป็นในความตายให้ได้เสียก่อน
๗๙. ผู้ปฏิบัติต้องสำรวมตาเห็นรูป ไม่ปรุงแต่งไปตามรูปที่มองเห็น
๘๐. สำรวมหูฟังเสียง ไม่ปรุงแต่งไปตามเสียงที่ได้ยิน
๘๑. สำรวมจมูกดมกลิ่น ไม่ปรุงแต่งไปตามกลิ่นที่จมูกดม
๘๒. สำรวมลิ้นรับรส ไม่ปรุงแต่งไปตามรสที่ลิ้นรับ
๘๓. สำรวมกายถูกต้องสัมผัส ไม่ปรุงแต่งไปตามที่ร่างกายถูกต้องสัมผัส
๘๔. สุดท้ายสำรวมใจรับรู้อารมณ์ ไม่ปรุงแต่งให้เกิดอารมณ์ใดๆที่ใจรับรู้ รวมเรียกว่าสำรวมอินทรีย์ ๖ อันมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ บรรลุเป็นโพธิสัตว์อันบริสุทธิ์
บรรยายบทสวดมนต์ ไป่ ที ตี่ (กราบไหว้บูชาฟ้าดิน)
กราบแรกกราบบูชาบุญคุณของฟ้าและดิน
กราบสองกระจกวิเศษส่องใจประจักษ์แจ้ง
กราบสามกราบอาจารย์ที่สอนธรรม
กราบสี่กราบบุญคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมา
กราบห้ากราบธัญชาติทั้งห้าที่แก้หิวได้
กราบที่หกให้รอดพ้นจากภยันตรายทั้งสิ้น
กราบที่เจ็ดกราบอมิตาพุทธ
กราบแปดดอกบัวเบ่งบานสะพรั่งเต็มสระ
กราบที่เก้ากราบพระศากยมุณีพุทธเจ้า
กราบที่สิบกราบพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่เสด็จลงจากสวรรค์
หมื่นกราบพันกราบกราบบูชาฟ้าและดิน
กราบถึงสวรรค์กระทั่งประตูสวรรค์เปิด
กราบถึงเทพเจ้าแห่งโชคลาภมาประทานโชคพร
กราบถึงพระแม่กวนอิมเสด็จมาหา
บรรยายบทสวดมนต์ เจี่ย, เถี่ย จุ่ย - ฮู่ – เกง สวดภาวนาพระแม่คงคา
ขึ้นหนึ่งค่ำสิบห้าค่ำฟ้าประทานทอง
กวนอิม ณ นำไฮ้บันดาลจิตใจอันดีงาม
เรากราบพระพุทธเจ้าโพธิสัตว์ทั้งหลาย
กราบถึงเทวดาบนเทพวิมานเมืองบาดาล
กราบถึงชลเทพด้วยความศรัทธา
ใช้น้ำทั้งวันไม่มีขาดระยะเวลา
มนุษย์ในผิวพื้นโลกล้วนต้องใช้น้ำ
ชั่วระยะของบ่อนับแต่เราเกิดต้องหล่อเลี้ยงด้วยน้ำ
ขอวิงวอนขุนนางคงคามาขมาบาป
อภัยโทษหลีกห่างจากภยันตราย
กราบไหว้พระสวดมนต์ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา
กราบจนกระทั่งลูกหลานมีความเฉลียวฉลาด
กราบจนกระทั่งในครอบครัวร่ำรวยมหาศาล
ขอให้พระคุ้มครอง เพิ่มพูนลูกหลานและทรัพย์สิน
ตีกลองหนึ่งทีระฆังสามที
เหยียบเมฆที่ลอยบนฟ้าไปบำเพ็ญพรต
ไปหัดธรรมบนยอดเขา ณ สำนักบู้ตึ้ง
กราบจนกระทั่งเทพเจ้าปรากฏกาย
พุทธองค์ประทับบนดอกบัว
ขาเหยียบเมฆบินบนฟ้า
พยายามสวดมนต์พุทโธจะได้ผลดี
ขอพุทธองค์ให้ลูกศิษย์ไม่ต้องเวียนว่ายต่ายเกิดอีก
ในบ้านมีพระพุทธองค์และพระโพธิสัตว์
ขอวิงวอนให้บ้านร่ำรวยมหาศาล
ขอวิงวอนให้พุทธองค์มาแสดงธรรม
คุ้มครองลูกศิษย์ให้มีบุญบารมี
พุทธองค์และโพธิสัตว์ล้วนมีสติปัญญา
ฟ้าสว่างไสว และแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์
จะให้ดวงดีต้องไหว้เจ้า
ขออันเชิญเทพเทวามาแก้สินบน
สินบนเก่าบนใหม่แก้จนสำเร็จ
ใต้ร่มฟ้าร่มเย็น
บนต้นไม้ก็สวดมนต์ได้
ใต้ร่มไม้ไหว้เจ้าได้
บรรดาเทพเทวาทั้งหลายมาแก้สินบนให้
สินบนเก่าและใหม่แก้สำเร็จ
ใต้ร่มฟ้าวิเวก บนต้นไม้เที่ยวเล่นได้
ใต้ร่มไม้แก้สินบนได้
สินบนเก่าและใหม่แก้จนหมด
บรรยายบทสวดมนต์ กวงสี่อิมผ่อสักแกมึ้งเผ่งอังเกง
พระพุทธเจ้าโปรดให้ครอบครัวปลอดภัย ปกป้องครอบครัวให้เจริญ
ให้ครอบครัวร่ำรวย ให้ครอบครัวมีลูกหลาน เงินทองมากมาย
ทุก ๆ วันสวด 7 ครั้ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะอนุโมทนาบุญนี้
กรรมแต่ชาติภพก่อนวันนี้จะแก้กรรม วันนี้จะปลดปล่อยบาปกรรมเป็นหมื่นครั้ง
ทุก ๆ วันสวดมนต์พันครั้ง ท่านจะโปรดให้ร่ำรวยดังภูเขาทอง
สิ่งแรกจะปกป้องลูกชาย ลูกสาว ปกป้องครอบครัวให้ปลอดภัย
ไหว้พระสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระโพธิสัตว์ผู้เมตตา ขอทุกพระองค์มาปกป้อง
ลูกหลานใหญ่เล็กสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สิ่งไม่ดีในบ้านพระองค์ขจัดภัยทั้งปวงให้
ไหว้จนกระถางธูปหอมแล้วหอมอีก ไหว้จนกระทั่งเทียนแดงมีแสงสว่างสีแดงเจิดจ้า
ไหว้จนทุกคนในครอบครัวร่ำรวย ไหว้จนลูกหลานปลอดภัย
กวนอิมอยู่ที่ผู่โถวซัว ทุกครั้งที่สวดกวนอิมก็ช่วยแล้ว
ถ้าแม้นใครสวดกวนอิมเกง สิ่งไม่ดีทุกอย่างพระแม่ขจัดภัยให้
กวนอิมอยู่ที่บ้านเราอยู่กับเรา ทุกเช้าค่ำคืนพระแม่จะเห็นเสมอ
พระพุทธองค์จะทรงโปรดตลอด ให้ทุกอย่างในบ้านล้วนดีหมด
สวดถึงพระแม่ สวดถึงพระแม่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์คุ้มครอง
บรรยายบทสวดมนต์ หมั่งสิ่วจิงเกง (สวดภาวนาเพื่อคลายอาถรรพณ์)
ขอน้อมสักการะพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม
ขอน้อมสักการะพระพุทธเจ้า
ขอน้อมสักการะพระธรรมเจ้า
ขอน้อมสักการะพระสังฆเจ้า
เพื่อให้บังเกิดสายใยแห่งกรรมพัวพันกับพระองค์
ด้วยพุทธานุภาพสามารถที่จะคุ้มครองและบันดาลให้ข้าน้อยได้พบแสงสว่างแห่งธรรมะ
ขอระลึกถึงพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมเสมอทุกค่ำเช้า
ด้วยจิตที่มั่นคงต่อพระองค์
และขอภาวนาให้พระองค์ทรงสถิตในจิตใจตลอดไป
ขอระลึกถึงท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่และยมทูตทั้งสี่
โปรดช่วยปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายอย่าให้มาพ้องพาน
โปรดจงขจัดสิ่งที่ไม่ดีให้ออกจากสังขารของข้าน้อยไป
โดยที่ไม่มีวันจะหวนกลับมาและจงให้สลายไปในที่สุด
ขอน้อมระลึกให้บังเกิดปัญญาบารมีด้วยเทอญ
บรรยายบทสวดมนต์ กิ้วโค่วจิงเกง (ช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ยาก)
ขอน้อมสักการะพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมผู้ทรงสามารถปลดเปลื้องความทุกข์ยาก
ขอน้อมสักการะพระพุทธเจ้าอันมีจำนวนร้อยพันหมื่นแสนประมาณจำนวนมิได้ดุจดั่งเมล็ดทรายในมหาคงคา และอมิตคุณของพระองค์ด้วย
ลำดับนั้นพระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า “ดูก่อนอานนท์ พระสูตรบทนี้เป็นมหาเมธาจารย์ สามารถช่วยเหลือผู้ถูกพันธนาการ สามารถปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ สามารถขจัดทุกข์ยากทั้งปวง หากผู้ใดภาวนาสักพันจบผู้นั้นจักพ้นความทุกข์ยากทั้งปวง หากผู้ใดภาวนาสักหมื่นจบผู้นั้นจักพ้นความทุกข์ยากทั้งครอบครัว ผู้ที่หมั่นระลึกถึงพุทธานุภาพและพุทธรักขิต จะปราศจากอกุศลจิตและสามารถบำเพ็ญตนให้พ้นจากวัฏฏะได้ในที่สุด
ด้วยบารมีของพระโชติกาลโพธิสัตว์ พระคุณากาลโพธิสัตว์ พระสุธรรมโพธิสัตว์ เทพเจ้าผู้เป็นใหญ่ในอโนดาต เทพเจ้าม้อฮิว และปกตัตตภิกษุ สามารถบันดาลให้อรรถคดีต่างๆยุติได้และด้วยบารมีของบรรดาพระมหาโพธิสัตว์ตลอดถึงพระอรหันต์ทั้ง 500 พระองค์ จะเป็นที่พึ่งช่วยสานุศิษย์พ้นจากความทุกข์ยาก
โดยปกติพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมจะทรงช่วยปลดเปลื้องความทุกข์แก่สรรพสัตว์เสมอ และหากภาวนาพระสูตรนี้สักพันจบสักหมื่นจบ ความทุกข์ยากทั้งหลายก็จะสลายสิ้นไปโดยอัตโนมัติ ผู้ใดศรัทธานำไปปฏิบัตก็จักบังเกิดผลแล”
ครานั้น เทพพรหมทุกชั้นฟ้าได้สดับตรับฟัง ต่างแซ่ซ้องสรรเสริญสาธุการโดยทั่วกัน
บรรยายบทสวดมนต์ ขิ่วใช้เต็งเกง (ขอประทานบารมีให้เกิดลาภสักการะ)
ในแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งชมพูทวีป การขอลาภสักการะจากสวรรค์ต้องกระทำด้วยความยากเย็นแสนเข็ญ สวรรค์จึงจะประทานชื่อเสียงและเกียรติยศ ตลอดถึงแก้วแหวนเงินทองตามที่ขอ
พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงสถิตอยู่บนนภากาศทุกเวลา และทรงปรากฏพระวรกายอยู่บนปุยเมฆเสมอ ครอบครัวใดซึ่งขอประทานบารมีครอบครัวนั้นจักได้รับตอบสนอง ครอบครัวใดซึ่งขอประทานบารมีครอบครัวนั้นจักได้สมปรารถนา
การขอลาภสักการะจากพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม จะได้รับตอบสนองอย่างสุดคณนา แต่ในอดีตชาติต้องบำเพ็ญบารมีนี้มาด้วย ก็จะประสบความสมบูณณ์พูนสุขทุกภพตลอดไป
พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงสถิตอยู่บนนภากาศ ผู้ที่กราบไหว้พระองค์ท่านอยู่ประจำจะได้บุตรชาย และบุตรชายที่จะได้เป็นผู้มีบุญวาสนา ทั้งสมปรารถนาและมีความสมบูรณ์พูนสุขตลอดไป
พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงยินดี ที่ศาสนิกชนทั้งหลายได้บังเกิดการุณจิต และสวรรค์จะประทานพรแก่ผู้มีศีลธรรมทุกเวลา อีกทั้งความเป็นสิริมงคลให้แก่ลูกหลานด้วย
สวรรค์ได้ประทานความสมบูรณ์พูนสุขแก่ครอบครัว จึงควรขอบคุณสวรรค์ที่ประทานความสมบูรณ์พูนสุขมาให้ และเทพพรหมจะประทานสิ่งของมีค่า อีกทั้งพร 5 ประการจากเขาเอียงซัว (พรทั้ง 5 ประการ หรือ “โหงวหก” ได้แก่ อายุยืน ร่ำรวย สุขภาพดี มีบุญวาสนา และตายดี)
การสักการะเทพพรหมเป็นประจำ จะบังเกิดความปิติทั้งครอบครัว ตลอดถึงลูกหลาน ในครอบครัวจะประสบแต่ความร่ำรวยและมียศศักดิ์ มีความรุ่งโรจน์ทุกภพทุกชาติตลอดไป
หากหมั่นสวดมนต์ครอบครัวจะประสบแต่ความสวัสดี และพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะเสด็จมาโปรดเพื่อเป็นมงคล ด้วยบารมีแห่งพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย จะประทานปัญญาบารมีให้โดยดุษฎี
บรรยายบทสวดมนต์ กวงอิมฮุกโจ้วป๋ออุ่งเกง
(ขอประทานบารมีให้ทรงคุ้มครองดวงชะตา)
เดือนอ้ายเป็นฤดูใบชาเขียวสะพรั่งทั้งภูเขา ขออ้อนวอนพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมเสด็จมาโปรดข้าน้อยทั้งหลาย
ขออ้อนวอนพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองดวงชะตา ทรงโปรดคุ้มครองลูกหลานให้บังเกิดแต่ความสมบูรณ์พูนสุข
นะโมอนันตพุทธะ
ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้งครองให้ประสบสันติสุข
เดือนยี่เป็นฤดูดอกโบตั๋น ขออ้อนวอนพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงเป็นผู้บันดาล
ขออ้อนวอนพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองดวงชะตา ทรงโปรดคุ้มครองชายหญิงทั้งหลายให้ประสบความสวัสดี
นะโมอนันตพุทธะ
ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้งครองให้ประสบสันติสุข
เดือนสามเป็นฤดูดอกจี่เกง ขออ้อนวอนพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมเสด็จจากสวรรค์
ขออ้อนวอนพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองดวงชะตา ทรงโปรดคุ้มครองครอบครัวข้าน้อยทั้งหลายให้เจริญรุ่งเรือง
นะโมอนันตพุทธะ
ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้งครองให้ประสบสันติสุข
เดือนสี่เป็นฤดูดอกจุ้ยเซียง ขออ้อนวอนพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมมาโปรดสัตว์โลก
ขออ้อนวอนพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองดวงชะตา ทรงโปรดคุ้มครองมนุษย์โลกให้ปราศจากภัยพิบัติ
นะโมอนันตพุทธะ
ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้งครองให้ประสบสันติสุข
เดือนห้าเป็นฤดูดอกบัวแดง ขออ้อนวอนพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมเสด็จจากที่ประทับ
ขออ้อนวอนพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองดวงชะตา ทรงโปรดคุ้มครองลูกหลานให้ได้รับกุศลตลอดไป
นะโมอนันตพุทธะ
ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้งครองให้ประสบสันติสุข
เดือนหกเป็นฤดูดอกองุ่น ขออ้อนวอนพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้มครองให้พ้นภัยทั้งมวล
ขออ้อนวอนพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองดวงชะตา ทรงโปรดคุ้มครองลูกหลานให้ได้กุศลมากๆ
นะโมอนันตพุทธะ
ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้งครองให้ประสบสันติสุข
เดือนเจ็ดเป็นฤดูดอกทับทิม ขออ้อนวอนพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมเสด็จจากสากลโลก
ขออ้อนวอนพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองดวงชะตา ทรงโปรดคุ้มครองลูกหลานให้ปราศจากภัยพิบัติ
นะโมอนันตพุทธะ
ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้งครองให้ประสบสันติสุข
เดือนแปดเป็นฤดูดอกจือลั้ง ขออ้อนวอนพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมมาโปรดมนุษย์โลก
ขออ้อนวอนพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองดวงชะตา ทรงโปรดคุ้มครองลูกหลานให้พ้นทุกข์
นะโมอนันตพุทธะ
ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้งครองให้ประสบสันติสุข
เดือนเก้าเป็นฤดูดอกเซาะไล้ ขออ้อนวอนพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมเสด็จจากสวรรค์
ขออ้อนวอนพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองดวงชะตา ทรงโปรดคุ้มครองลูกหลานให้ปราศจากภัยพิบัติ
นะโมอนันตพุทธะ
ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้งครองให้ประสบสันติสุข
เดือนสิบเป็นฤดูดอกง่อท้ง ขออ้อนวอนพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดช่วยให้พ้นทุกข์
ขออ้อนวอนพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองดวงชะตา ทรงโปรดคุ้มครองลูกหลานให้พ้นทุกข์
นะโมอนันตพุทธะ
ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้งครองให้ประสบสันติสุข
เดือนสิบเอ็ดเป็นฤดูดอกกุ้ยกี พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงสามารถคุ้มครองมนุษย์ทั้งโลก
ขออ้อนวอนพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองดวงชะตา ทรงโปรดคุ้มครองลูกหลานให้พ้นทุกข์
นะโมอนันตพุทธะ
ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้งครองให้ประสบสันติสุข
เดือนสิบสองเป็นฤดูดอกเอ็งท้อ ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงคุ้มครองให้ปราศจากโรคภัย
ขออ้อนวอนพระองค์ทรงโปรดคุ้มครองดวงชะตา ทรงโปรดคุ้มครองลูกหลานให้มีอายุยืนนาน
นะโมอนันตพุทธะ
ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้งครองให้ประสบสันติสุข
บทสวดคุ้มครองดวงชะตาทั้งสิบสองเดือน คุ้มครองให้ประสบสันติสุขและเพิ่มพูนโชคลาภ
พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงสถิตย์อยู่บนปุยเมฆ พระหัตถ์ทรงถือกลองไม้เพื่อสวดมนต์
นะโมอนันตพุทธะ
ขอพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงโปรดคุ้งครองให้ประสบสันติสุข
การสวดมนต์สามารถบันดาลให้มนุษย์โลกเพิ่มความสมบูรณ์พูนสุข เมื่อความสมบูรณ์พูนสุขเพิ่มขึ้นก็จะเกิดสันติสุข
เสียงระฆังเสียงกลองดังกังวานเป็นสัญญาณบอกเวลาสวดมนต์ มนุษย์ในโลกผู้มีทุกข์ต้องพยายามสวดมนต์
นะโมพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม พระองค์ทรงโปรดคุ้มครองให้ประสบสันติสุข
พระองค์เสด็จมาโปรดสัตว์ทุกเวลา ทรงดูแลมนุษย์โลกทั้งผู้มีศีลธรรมและผู้ไม่มีศีลธรรม
ผู้ที่หมั่นบำเพ็ญกุศลทุกข์ภัยจะน้อย ผู้ที่ขาดศีลธรรม ยากที่จะประสบโชคลาภ
นะโมพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมผู้ทรงเมตตา สวดมนต์ทุกๆ วันจะประสบสันติสุข
สวดมนต์ทุกๆ เวลาจะได้รับโชคลาภเพิ่มขึ้น และจะประสบสันติสุขตลอดไป
บรรยายบทสวดมหาปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ผู้ประกอบด้วยโลกุตรปัญญาอันลึกซึ้ง ได้มองเห็นว่า โดยธรรมชาติแท้แล้ว ขันธ์ทั้งห้านั้นว่างเปล่า และด้วยเหตุที่เห็นเช่นนั้น จึงได้ก้าวล่วง พ้นจากความทุกข์ทั้งปวงได้สารีบุตร รูปไม่ต่างจากความว่าง ความว่าง ก็ไม่ต่างไปจากรูป รูปคือความว่างนั่นเอง และความว่างก็คือรูปนั่นเอง เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็เป็นดังนี้ด้วย สารีบุตร ธรรมทั้งหลาย มีธรรมชาติแห่งความว่าง ไม่ได้เกิดขึ้นและไม่ได้ดับลง ไม่ได้สะอาดและไม่ได้สกปรก ไม่ได้เพิ่มขึ้นไม่ได้ลดลง
ดังนั้น ในความว่างจึงไม่มีรูป ไม่มีเวทนา หรือสัญญา ไม่มีสังขาร หรือวิญญาณไม่มีตาหรือหู ไม่มีจมูกหรือลิ้น ไม่มีกายหรือจิต ไม่มีรูปหรือเสียง ไม่มีกลิ่นหรือรส ไม่มีโผฏฐัพพะหรือธรรมารมณ์ ไม่มีโลกแห่งผัสสะ หรือวิญญาณ ไม่มีอวิชชา และไม่มีความดับลงแห่งอวิชชา ไม่มีความแก่และความตายและไม่มีความดับลงซึ่งความแก่ และความตาย ไม่มีความทุกข์ และไม่มีต้นเหตุแห่งความทุกข์ ไม่มีความดับลงแห่งความทุกข์ และไม่มีมรรคทางให้ถึง ซึ่งความดับลงแห่งความทุกข์ ไม่มีการประจักษ์แจ้งและไม่มีการลุถึง เพราะไม่มีอะไรที่จะต้อง ลุถึง
พระโพธิสัตว์ผู้วางใจในโลกุตรปัญญา จะมีจิตที่เป็นอิสระจากอุปสรรคสิ่งกีดกั้น เพราะจิตของพระองค์เป็นอิสระจาก อุปสรรคสิ่งกีดกั้น พระองค์จึงไม่มีความกลัวใดๆ ก้าวล่วงพ้นไปจากมายาหรือสิ่งลวงตาลุถึงพระนิพพานได้ในที่สุด พระพุทธในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผู้ทรงวางใจในโลกุตรปัญญา ได้ประจักษ์แจ้งแล้วซึ่งภาวะอันตื่นขึ้น อันเป็นภาวะที่สมบูรณ์และไม่มีใดอื่นยิ่ง ดังนั้น จงรู้ได้เถิดว่า โลกุตรปัญญา เป็นมหามนต์อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นมนต์แห่งความรู้อันยิ่งใหญ่ เป็นมนต์อันไม่มีมนต์อื่นยิ่งกว่า เป็นมนต์อันไม่มีมนต์อื่นใดมาเทียบได้ซึ่งจะตัดเสียซึ่งความทุกข์ทั้งปวง
นี่เป็นสัจจะ เป็นอิสระจากความเท็จทั้งมวล
ดังนั้น จงท่องมนต์แห่งโลกุตรปัญญา ไป ไป ไปยังฟากฝั่งโน้น ไปให้พ้นอย่างสิ้นเชิง
ลุถึง การรู้แจ้ง ความเบิกบาน