วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บันทึกปาฏิหาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์และนิมิตภัยพิบัติ 1-16

สมาธินิโรธสมาบัติ เห็นองค์ชายองค์หญิง

 

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม  พ.ศ. 2558  

                เช้ามืดวันนี้ขณะที่กำลังปฏิบัติสมาธิ ได้เห็นองค์ผู้ชายวัยรุ่น สวมกางเกงสมัยอดีตกาล ไม่ได้สวมเสื้อ มีเครื่องประดับทอง นั่งบนบัลลังก์ พระแม่ชี้แจงคือองค์ชายและองค์หญิงรวมร่าง เพื่อต้องการให้ข้าพเจ้าได้รู้ว่าเตรียมจะได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

 

สมาธินิโรธสมาบัติ พระแม่อุมาเทวีมายืนไหว้แสดงความเคารพเบื้องหน้าข้าพเจ้าด้วยความนอบน้อมเพื่อแสดงความยินดี

 

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม  พ.ศ. 2558  

                ค่ำนี้ปฏิบัติสมาธิเข้านิโรธสมาบัติในเวลา 18.00 – 19.00 น. ได้มีนิมิตจากดวงตาทิพย์ หญิงสาวผู้หนึ่ง แต่งกายคล้ายทางพระศิวะ ชุดสีแดงน้ำเงิน หน้าตาเหมือนองค์ที่ข้าพเจ้าได้วาดไว้ สวมชุดเต็มยศ รูปร่างเพรียว หน้าตางดงามอย่างมาก มายืนปรากฏเบื้องหน้าข้าพเจ้าพร้อมทั้งยิ้มให้ รอยยิ้มองค์ท่านอ่อนหวานมาก และองค์ท่านได้ยกมือไหว้ข้าพเจ้าด้วยความนอบน้อม

                พระแม่ชี้แจ้ง ขณะเข้านิโรธสมาบัติองค์ท่านที่มาปรากฏคือ พระแม่อุมาเทวี มาเพื่อแสดงความยินดีกับข้าพเจ้าเพื่อเตรียมเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์


 


ภาพตัวอย่างพระแม่อุมาเทวีแสดงความเคารพต่อข้าพเจ้าเพื่อแสดงความยินดี


               

นิมิตดวงตาทิพย์  เห็นมวลชนมากมายประท้วงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเป็นวันที่โดนอัดของเต็มที่อีกครั้งหนึ่ง

 

วันพฤหัสบดีที่ 30  กรกฎาคม  พ.ศ. 2558  

                ก่อนนอนคืนนี้ ข้าพเจ้าได้นิมิตเห็นมวลชนมากมายประท้วงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย  อีกทั้งคืนก่อนได้เห็นเท้าของวิญญาณคุณไสย ตลอดทั้งคืนจวบจนรุ่งเช้า ให้รู้สึกหายใจไม่สะดวก แต่ไม่ถึงกับแน่นหน้าอก ทรมานเหมือนที่ผ่านมา

                พระแม่ชี้แจ้ง หมอผีทั้งหลายได้อัดของเต็มที่ใส่ข้าพเจ้า เนื่องด้วยเป็นวันพระใหญ่              วันอาสาฬหบูชา ค่ำนี้นรกภูมิได้ถูกเปิด หยุดการทรมาน เพื่อปล่อยเหล่าดวงวิญญาณไปรับบุญ          สิ่งศักดิ์สิทธิ์คืนนี้ และคืนพรุ่งนี้ไม่ว่าง ต้องอยู่ที่วัดเพราะมีผู้คนไปสวดมนต์ที่วัดมาก ดังนั้นหมอผีทั้งหลายจึงอาศัยวันพระใหญ่ที่นรกเปิด ทำการอัดของได้เต็มที่  ยกตัวอย่างเช่น วันเนา ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็ถือเป็นวันที่เหมาะสำหรับการปล่อยของเต็มที่  ทั้งนี้ของทั้งหลายจะกลับไปที่คนสั่งทำเช่นเดิม

                สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่างจนถึงวันจันทร์ ที่ 3 สิงหาคมนี้ เพราะวันจันทร์เป็นวันตรัสรู้เป็นพระโพธิสัตว์ของพระแม่กวนอิม  สวรรค์มีการจัดงานเลี้ยงฉลอง พรุ่งนี้มีการจัดตั้งเวทีการแสดง วันอาทิตย์เตรียมงาน  องค์ชาย องค์หญิง องค์พระพิฆเนศ องค์หญิงนานา และเซียงน้อย ได้เตรียมจัดคอนเสิร์ตแสดง โดย   เซียงน้อยเป็นนักร้องนำ ก็ได้ซ้อมร้องเพลงทุกคืนที่ผ่านมาให้ข้าพเจ้าได้ฟัง  สำหรับองค์ที่เหลือก็เป็นหางเครื่อง จัดงานอย่างครึกครื้น

                องค์พระศิวะได้เดินทางกลับมาถึงที่บ้านแล้ว แต่คืนนี้ต้องไปอยู่วัด องค์พระพิฆเนศจึงได้ออกเดินทางไปหาพระองค์ท่าน โดยได้จัดเตรียมสัมภาระ มาม่า อาหาร น้ำดื่มสำหรับการเดินทางในค่ำคืนนี้ รุ่งเช้าจึงจะกลับมา

                สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ยังต้องทำงานต่ออีกระยะหนึ่ง เมื่องานเสร็จแล้ว ข้าพเจ้าจึงจะได้เห็น      สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์


 

นิมิตดวงตาทิพย์  เห็นพระแม่กาลีกำลังเตรียมระดมมวลชนออกมากว่า 60% ของคนในประเทศ ท่านยมบาลเตรียมให้ท่านหน้าวัว ท่านหน้ากระทิงรับคนลงสู่นรกภูมิ

 

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม  พ.ศ. 2558  

                ก่อนตื่นนอนนั่งทำสมาธิในเวลา 04.25 น. ได้มีนิมิต พระแม่ชี้แจ้ง ในเวลานี้ พระแม่กาลิบ  (ในที่นี้ข้าพเจ้าก็ยังไม่รู้จักองค์ท่าน) หรือพระแม่กาลี  ซึ่งเป็นปางหนึ่งของพระแม่ลักษมี มีรูปหน้าที่คล้ายพระแม่ลักษมี (ปัจจุบันคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นปางหนึ่งของพระแม่อุมาเทวีนั้นเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง)  เป็นพระแม่ผู้มีอำนาจฤทธิ์ในการปราบปรามสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง มีเทวานุภาพอันแรงกล้า สร้างความวิบัติแก่เหล่าอสูรอย่างรุนแรง เด็ดขาด แฝงเร้นไว้ซึ่งความน่ากลัว มีพลังอำนาจในการขจัดคุณไสย ลบล้างไสยเวทย์ด้านมืด ขจัดสิ่งอาถรรพ์ชั่วร้ายให้มลายหายไป

ในเวลานี้ องค์ท่านกำลังระดมคนสำหรับการออกมาประท้วง เบื้องต้นองค์ท่านจัดเตรียมไว้ 40% ของคนในประเทศ  อีกทั้งได้เห็นท่านยมบาลเตรียมให้ท่านหน้าวัว และท่านหน้ากระทิงเตรียมสำหรับการขึ้นมารับดวงวิญญานลงสู่นรกภูมิ

 

 


ภาพตัวอย่างพระแม่กาลิบจาก

 

                

                ภายหลังข้าพเจ้าจึงรู้ว่า พระแม่กาลิบ หรือพระแม่กาลีนั้น เป็นสหายที่สนิทมากกับข้าพเจ้าเมื่อครั้งอยู่สรวงสวรรค์ ข้าพเจ้าและพระแม่กาลี ชอบที่จะแอบหนีพระแม่กวนอิมไปขับรถเล่นกับน้องไป๋ทู่ และลูก ๆ เสมอ และทำให้พระแม่กวนอิมวุ่นวายเป็นประจำ ข้าพเจ้ามักจะเรียกพระแม่กาลีว่า พี่มาลี แทนกาลี เพราะเห็นว่าไพเราะกว่า

 

 

พระแม่ชี้แจ้ง ให้สวดคาถาเตรียมก่อนการปฏิบัติภารกิจ

 

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม  พ.ศ. 2558  

                พระแม่ชี้แจ้งให้ข้าพเจ้าสวดถาคาต่าง ๆ เตรียมก่อนปฏิบัติภารกิจ ดังนี้

·       คาถาแผ่เมตตา

·       คาถาแผ่เมตตาตนเอง

·       คาถาแผ่ส่วนกุศล

·       คาถาแคล้วคลาด

·       คาถาต่อสู้

·       คาถาปลุกผีลุก

·       คาถาป้องกันงู

·       คาถาป้องกันตัว

·       คาถาป้องกันผี

·       คาถาป้องกันผีพราย

·       คาถาป้องกันภัยพิบัติ

·       คาถารอด

·       คาถาหนังเหนียว

·       คาถาหัวใจโจร

·       คาถาขับรถ

·       คาถาคลอดลูกง่าย

·       คาถาเงินล้าน

·       คาถาเดินทางไกล

·       พระบูชาประจำวันเกิด

·       คาถาบูชาพระพิฆเนศ

·       คาถาปลุกใจ

·       คาถาพืชผล

·       คาถามหาลาภ

·       คาถารักษาไข้

·       คาถาร่ำรวย

·       คาถาเรียกทรัพย์

·       คาถาฤทธิ์เดช

·       คาถาลงน้ำ

·       คาถาสะเดาะเคราะห์ (ต่ออายุ)

·       คาถาเสกขี้ผึ้ง

·       บทสวดขอพรพระตรีมูรติ

·       หัวใจนะโม และการบูชาพระราหู

 


 

นิมิตดวงตาทิพย์ แผนที่โลก แผนที่ประเทศไทยเปลี่ยนภายหลังจากเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่

 

วันจันทร์ที่ 10  สิงหาคม  พ.ศ. 2558  

                ก่อนตื่นนอนในเวลา 04.00 น. เพื่อนั่งทำสมาธิ ได้มีนิมิตฝันเห็น พระองค์ท่านให้เห็นว่า    แผนที่โลกมีการเปลี่ยนแปลง พระแม่ชี้แจ้ง  แผนที่โลก พื้นดินจะหายไป 2 ส่วนจากที่มีอยู่เดิม และแผนที่ประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ภายหลังจากเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ จะมีเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 10 จังหวัด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะหายไป

                ทั้งนี้พระแม่ให้ข้าพเจ้าวาดแผนที่ประเทศไทยใหม่ ซึ่งเป็นแผนที่ภายหลังจากเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่แล้ว

 

 


แผนที่ปัจจุบัน


 


 


ภาพแผนที่ประเทศไทยปัจจุบัน

 

 

 


ภาพแผนที่ประเทศไทยเส้นวงนอก ภายหลังจากเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่

3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หายไป เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 จังหวัดเห็นจะได้

 

 

 


สำหรับแผนที่โลกจากภาพปัจจุบัน ภายหลังเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ พื้นดินจะหายไป 2 ส่วนจากที่มีอยู่เดิม


 

นิมิตดวงตาทิพย์ องค์ชายองค์หญิงทำนายดวงชะตาให้ข้าพเจ้า และการสิ้นอายุขัยของข้าพเจ้า

 

วันจันทร์ที่ 10  สิงหาคม  พ.ศ. 2558  

                ภายหลังจากนิมิตเห็นแผนที่โลก และแผนที่ประเทศไทยเปลี่ยนใหม่ ได้มีนิมิตฝันเห็น องค์ชายองค์หญิงเนรมิตร่างเป็น เทพธิดาพยากรณ์ เพื่อทำนายดวงชะตาให้ข้าพเจ้า พระแม่ชี้แจ้งดังนี้

                     ดวงชะตาของข้าพเจ้านั้นแปลก ไม่เหมือนผู้ใด เมื่อชะตาถึงจุดสูงสุดแล้ว ในท้ายที่สุดจิตของข้าพเจ้ากลับไม่ต้องการในสิ่งใด มุ่งเข้าหาแต่ทางธรรมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

                ข้าพเจ้าจะได้อยู่จนถึง พระศรีอริยเมตตรัย ลงมาจุติ และตรัสรู้เป็นพระบรมศาสดาองค์ต่อไป (ในที่นี้ขอไม่บันทึกช่วงเวลาที่จะสิ้นอายุขัย เพียงแต่ข้าพเจ้าทราบเท่านั้น)  

                เมืองหลวงแห่งใหม่ที่จะสร้างขึ้นที่เชียงใหม่ จะสร้างแล้วเสร็จก่อนจะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่

                ในชาติภพนี้ ข้าพเจ้าจะสิ้นอายุขัยด้วยโรค….. ซึ่งจะละสังขารอย่างสงบ         สำหรับ   องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว จะอยู่กับข้าพเจ้าจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต  เราทั้งสองนุ่งห่มขาว องค์ท่านนอนกอดข้าพเจ้าละสังขารอย่างสงบ


 

นิมิตดวงตาทิพย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทดสอบจิตความพร้อมสำหรับการเห็นวิญญาณ

 

วันจันทร์ที่ 10  สิงหาคม  พ.ศ. 2558  

                ก่อนตื่นนอนในเวลา 06.55 น. ได้มีนิมิตเห็น ข้าพเจ้าอยู่กับอาม่า และเห็นผู้คนมากมาย ขณะนั้นข้าพเจ้าได้เห็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง รูปร่างผอมเพรียว ไว้ลองทรงสั้น แต่งกายชุดดำ ใส่เสื้อลำลอง สีดำ ใบหน้าซีดเผือก มองข้าพเจ้าอยู่ตลอดเวลา  ข้าพเจ้าบอกอาม่า ว่า นั่นเป็นผี ไม่ใช่คน  อาม่าบอกว่างั้นเราเอาผ้าห่ม 2 ผืนนี้ให้ผีดีไหม ข้าพเจ้าบอกว่า 2 ผืนนี้เราใช้แล้ว เดี๋ยวซื้อผืนใหม่ให้ดีกว่า แต่มาคิดอีกที ถ้าให้แล้วจะมีผีอีกมากมายตามมาไหม  อาม่าบอกว่า นั่นสินะ  ใจก็ยังรู้สึกหวั่นกลัวนิด ๆ

                พระแม่ชี้แจ้ง วิญญาณนั้นคือ พระพุทธองค์ท่านเนรมิตกายมา เพื่อทดสอบจิตข้าพเจ้าว่าพร้อมจะเห็นวิญญาณหรือยัง สรุปว่า ยังไม่พร้อม ให้ข้าพเจ้ารอไปอีก 4-5 วัน จึงจะพร้อมเห็นวิญญาณได้

 

 

นิมิตดวงตาทิพย์ มวลชนออกมามากมายเต็มกรุงเทพฯ เหล่าดวงวิญญาณและสัมภเวสี สี่แยกราชประสงค์มาขอบคุณ

 

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม   พ.ศ. 2558  

                ภายหลังจากช่วงบ่ายของวันนี้ ข้าพเจ้าได้นั่งปฏิบัติสมาธิ และได้แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล ให้แก่เหล่าดวงวิญญาณทั้งหลายที่สี่แยกราชประสงค์ ค่ำคืนนี้ขณะปฏิบัติสมาธิอีกครั้ง ได้มีนิมิตเห็นมวลชนมากมายออกมาเต็มทั่วทั้งกรุงเทพฯ  และได้เห็นเหล่าดวงวิญญาณมากมายที่หน้าศาลพระพรหม สี่แยกราชประสงค์

                พระแม่ชี้แจ้ง เหล่าดวงวิญญาณและสัมภเวสีทั้งหลายมาขอบคุณ พระแม่กวนอิม องค์ชาย   องค์หญิง และข้าพเจ้า ที่ได้อุทิศบุญกุศลให้

 

นิมิตดวงตาทิพย์ เจ้าปุกปุย โดนคุณไสย

 

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม   พ.ศ. 2558  

                ก่อนตื่นนอนเช้านี้ในเวลา 05.00 น. ได้นิมิตเห็นเจ้าปุกปุย มีตัวบุ้งสีแดงสลับดำ ตัวใหญ่เท่านิ้วก้อย เต็มไปทั่วทั้งตัว ข้าพเจ้าพยายามจับตัวบุ้งออกมาฆ่าทิ้ง ซึ่งต้องใช้ค้อนทุบให้แหลกทั้งตัว ตัวบุ้งนี้จึงจะตาย และมีแมลงอีกชนิด ตัวยาว หางแหลม สีดำ  แต่ยังไม่ทันกำจัดหมด ได้ตื่นเสียก่อน

                พระแม่ชี้แจ้ง ให้ล้างน้ำมนต์ให้เจ้าปุกปุย และให้ข้าพเจ้าล้างหน้าด้วยน้ำมนต์ทุกวัน เนื่องด้วยตั้งแต่ ป่าป๊ากู๋ ไปขอเจ้าปุกปุยมาจากลูกค้าคนหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา  ข้าพเจ้าจากที่หน้ากำลังจะหายเป็นปกติ ได้กลับบวมแดงขึ้นมาอีก จึงรู้ได้ว่าโดนคุณไสยอีกครั้ง

                  สำหรับเจ้าปุกปุยนั้น เดิมที ที่บ้านไม่อยากเลี้ยงเนื่องจากที่บ้าน หลายคน เป็นภูมิแพ้     อีกทั้งอากงเคยประสบอุบัติเหตุเนื่องจาก สุนัขวิ่งตัดหน้า จึงไม่ค่อยอยากจะเลี้ยง แต่พระแม่เห็นว่าน่ารักดี ให้เลี้ยงไว้ ซักระยะหนึ่งภายหลังจึงจะให้บริวารพระแม่เลี้ยงต่อ



 

ภาพหนอนคุณไสยที่อยู่ในตัวเจ้าปุกปุย ตัวใหญ่ขนาดเท่านิ้วก้อย

 

 

นิมิตดวงตาทิพย์ ข้าพเจ้าสู้กับอสูร

 

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม   พ.ศ. 2558  

                ก่อนตื่นนอนเช้านี้ได้มีนิมิตดวงตาทิพย์ เห็นว่า ข้าพเจ้าอยู่ในบ้านหลังใหญ่กับคนอื่น ๆ พร้อมครอบครัว ในระหว่างนั้น นอกบ้านมีเหตุการณ์วุ่นวายมากมาย ท้องฟ้าขมุกขมัว  มีการต่อสู้โจมตีกันมากมาย ข้าพเจ้าแต่งชุดขาวล้วน ได้ออกไปสู้รบข้างนอก สู้รบกับเหล่าอสูรกายที่ไม่ยอมกลับลงนรกภูมิ

       ขณะต่อสู้ที่กลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ได้มีเสือตัวหนึ่งเข้ามาจู่โจมข้าพเจ้า จนข้าพเจ้ากระเด็นไปไกลและได้รับบาดเจ็บที่แขน ทันใดนั้นได้มีสิงโตสีขาวตัวหนึ่งเข้ามาช่วยจัดการเสือตัวนั้นจนเสือกระเด็นไปไกลมาก ข้าพเจ้าได้สู้รบจนชนะได้สำเร็จและข้าพเจ้าได้ขี่สิงโตนั้นกลับเข้าบ้านด้วยสภาพที่สะบักสะบอม  ครั้นพอไปถึงในบ้าน ผู้คนในบ้านต่างรับประทานอาหารอย่างมีความสุข 

                พระแม่ชี้แจ้ง อนาคตข้าพเจ้าจะต้องสู้รบอย่างมากมาย  และการรบนี้คือช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่

 


นิมิตดวงตาทิพย์  เห็นการระเบิดซ้ำที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่

 

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม   พ.ศ. 2558  

                ก่อนตื่นในเวลา 01.00 น. ได้มีนิมิตเห็นศาลพระพรหม ซึ่งจำได้ว่าเป็นแถวแยกราชประสงค์ จะมีการระเบิดเกิดขึ้นอีกครั้ง และได้เห็นว่าที่เชียงใหม่นี้ จะมีการระเบิดเกิดขึ้นหลายจุด ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน

                พระแม่ชี้แจ้ง สำหรับการระเบิดนั้นจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้


 

นิมิตดวงตาทิพย์ เห็นระเบิดที่กรุงเทพฯ และคนตายหลังระเบิด

 

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม   พ.ศ. 2558  

                ก่อนตื่นนอนในเช้านี้นิมิตเห็นเหตุการณ์ระเบิด สถานที่คล้ายย่านสำคัญในกรุงเทพฯ ร้านค้า ต่าง ๆ ล้วนปิดจนหมด มีชายผู้หนึ่งเป็นศพหลังจากโดนระเบิด สวมกางเกงสีดำ เศษหิน  ต่าง ๆ กระจัดกระจายตามร่างชายผู้นั้น

                พระแม่ชี้แจ้ง เหตุการณ์จะเกิดในเร็ววันนี้


 

พระแม่ชี้แจ้ง ผ่านการทดสอบเรื่องวิญญาณ

 

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม   พ.ศ. 2558  

                ก่อนตื่นนอนในเวลา 01.30 น. ได้มีนิมิตเห็นดวงวิญญาณหลายตน ซึ่งขณะที่เห็นข้าพเจ้ารู้สึก  เฉย ๆ และรู้สึกเมตตาต่อเหล่าดวงวิญญาณที่ได้เห็น   จิตนั้นไม่ได้มีความกลัวแต่อย่างใด  มีเพียงจิตที่ต้องการช่วยให้เหล่าดวงวิญญาณนั้นได้หลุดพ้นจากบ่วงกรรม

                พระแม่ชี้แจ้ง ข้าพเจ้าผ่านการทดสอบเรื่องดวงวิญญาณแล้ว จากนั้นให้รอเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์

                2-3 วันก่อนพระแม่ชี้แจ้ง ข้าพเจ้าได้เห็นพระแม่แล้ว แต่ยังไม่เห็นหน้าองค์ท่านเท่านั้น


 

นิมิตดวงตาทิพย์ เห็นการระเบิด การตาย มวลชนออกมามากมายเต็มกรุงเทพ

 

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม   พ.ศ. 2558  

                ก่อนตื่นนอนในเช้านี้ ได้มีนิมิตเห็นมวลชนออกมามากมายเต็มกรุงเทพฯ มีการระเบิด มีการ  เผาบ้านเผาเมือง มีผู้คนล้มตาย คนตายก็ช่วยกันหามออกไปที่อื่น มวลชนยังคงประท้วงอยู่ที่เดิม ต่างไม่หนี  ไม่มีใครกลัวตาย ทั้งนี้จะมีคนตายมากมาย พระแม่ชี้แจ้งกำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้


 

พระแม่ชี้แจ้ง ข้าพเจ้าจะสามารถมองเห็นอิริยาบถ การเคลื่อนไหวและได้ยินเสียง จากภาพที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ได้ และกำลังจะแยกร่างได้

 

วันพุธที่ 26 สิงหาคม   พ.ศ. 2558  

                เช้านี้ก่อนออกไปเปิดร้าน ได้ทำการบันทึก และเปิด facebook เพื่อดูข่าวสารบ้านเมือง ขณะมองภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เห็นในภาพนั้นกำลังเคลื่อนไหว พูดคุยอยู่  จากนั้นได้เห็นภาพของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จากภาพ เห็นกำลังขยับมือ

                พระแม่ชี้แจ้ง จะให้ข้าพเจ้าสามารถเห็นอิริยาบถ การเคลื่อนไหว เสียงที่พูดคุยจากภาพหรือ  สื่อต่าง ๆ ที่เป็นภาพนิ่งได้ เพื่อให้ข้าพเจ้าสามารถรู้เหตุการณ์ทุกอย่างได้ โดยไม่ต้องเสียเวลานั่งอ่านหรือหาข้อมูล

                อีกทั้งช่วงนี้ข้าพเจ้าจะรู้สึกมีอีกร่างหนึ่ง อยู่ในร่างข้าพเจ้ากำลังขยับตัวไปมา โน้มไปมาเพื่อที่จะออกจากร่าง พระแม่ชี้แจ้ง ข้าพเจ้ากำลังจะแยกร่างได้

 


นิมิตดวงตาทิพย์ เหล่าสัมภเวสีมากมายกำลังรอรับเพื่อนใหม่ที่แยกราชประสงค์

 

วันพุธที่ 26 สิงหาคม   พ.ศ. 2558  

                บ่ายนี้ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังนั่งฟังข่าว คุยโขมงบ่าย 3 โมง ขณะกำลังหลับตาจะพักสักครู่ ได้ฟังข่าวว่า จะมีการบวงสรวงครั้งใหญ่ที่แยกราชประสงค์ในวันที่ 4 กันยายนนี้ ข้าพเจ้าฟังแล้วให้รู้สึกตกใจอย่างมาก เนื่องด้วยจะมีการตายเกิดขึ้นอีกครั้ง อีกทั้งได้เห็นภาพเหล่าสัมภเวสีมากมายนับร้อย ใส่ชุด    สีดำหรือกลมท่าเข้ม เห็นแต่ด้านหลัง ยืนเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ และนิ่งสงบ บรรยากาศสลัว ๆ วังเวงมาก ยืนอยู่ที่แยกราชประสงค์ ที่เพิ่งเกิดระเบิดไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา  พระแม่ชี้แจ้ง สัมภเวสีเหล่านี้กำลังมายืนรอรับเพื่อนใหม่ ที่กำลังจะมา ให้ข้าพเจ้าไปช่วยเพื่อยังคงไม่ให้เกิดเหตุระเบิดซ้ำในระยะนี้

 

 


ภาพตัวอย่างเหล่าสัมภเวสีกำลังรอเพื่อนใหม่


 

พระแม่ชี้แจ้ง เวลานี้ข้าพเจ้าสามารถสื่อสารทางจิต เห็นและพูดคุย กับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ได้แล้ว

 

วันพุธที่ 26 สิงหาคม   พ.ศ. 2558  

                ค่ำนี้ในเวลา 20.00 น. ขณะกำลังนั่งคุยกับองค์ชายองค์หญิง องค์หญิงนานา องค์พระพิฆเนศ และเซียงน้อย เกี่ยวกับเรื่องขนมที่ซื้อให้ในวันนี้ ขณะคุยก็ได้ยินเสียงตอบจากแต่ละองค์ ทำให้ไม่แน่ใจว่า ตนเองคุยกับองค์ท่านได้แล้วจริงหรือ  องค์หญิงนานาบอกว่า ถ้าหม่าม๊า ไม่เชื่อก็ลองไปถามพระแม่สิ (เสียงจะเล็ก ๆ แหลม ๆ ทุกองค์)   พระแม่ชี้แจ้ง เป็นความจริง เวลานี้ข้าพเจ้าสามารถสื่อสารทางจิตกับ องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว พระแม่ องค์ชายองค์หญิง องค์หญิงนานา องค์พระพิฆเนศ เซียงน้อย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ รวมทั้งทั่วปฐพีทั้ง 3 ภพ และสรรพสัตว์ต่าง ๆ ได้แล้ว


 

นิมิตดวงตาทิพย์ เห็นคนตายครั้งใหม่แยกราชประสงค์ พระแม่ให้นั่งปฏิบัติสมาธิแผ่เมตตาเพื่อลดจำนวนคนตาย

 

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม   พ.ศ. 2558  

                เช้ามืดนี้ในเวลา 03.30 น. ได้มีนิมิตเห็นคนตายที่แยกราชประสงค์ เหตุจากการระเบิดครั้งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง คนตายนั้นกำลังมองมาทางข้าพเจ้า สภาพเศษหินกระจัดกระจายจากแรงระเบิดไปทั่ว

                พระแม่ชี้แจ้ง ให้ข้าพเจ้าปิดร้าน 2 วันเพื่อสวดมนต์ ปฏิบัติสมาธิ ให้เหล่าสัมภเวสีทั้งหลาย เพื่อให้สัมภเวสีลดการเอาจำนวนคนไป ไม่เช่นนั้นในรอบต่อไปจะมีผู้คนต้องตายมากมาย


 

นิมิตดวงตาทิพย์ ข้าพเจ้าแยกร่าง ไปให้บุญรุกขเทวดา เจ้าที่เจ้าทาง ดวงวิญญาณและสัมภเวสี เห็นคลื่นน้ำมหึมา ซัดเข้ากลางกรุงเทพฯ ผู้คนต่างถูกพัดพาไปตามกระแสน้ำ

 

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม   พ.ศ. 2558 

                วันนี้นั่งทำสมาธิในเวลา 10.00-11.00 น. พระแม่ชี้แจ้ง ขณะนั่งทำสมาธิ ข้าพเจ้าได้รู้สึกมีอีกร่าง โยกขยับไปมา ลักษณะคล้าย ๆ มีใครมาเขย่าร่างเบา ๆ ตลอดเวลา จากนั้นได้เห็นอีกร่างออกจากร่างไป

ข้าพเจ้าถามว่า จะไปไหน

อีกร่างตอบว่า จะไปสังเกตการณ์ที่แยกราชประสงค์ 

ร่างแยกนั้นเมื่อไปถึงแยกราชประสงค์ ได้เห็นเหล่า    รุกขเทวดา เจ้าที่เจ้าทาง ดวงวิญญาณ สัมภเวสี มากมาย ต่างออกมานั่งเรียบร้อยและก้มหน้าพนมมือ  ในขณะที่ข้าพเจ้า นั่งขัดสมาธิ มือหนึ่งถือคฑา ลอยอยู่เบื้องบน และได้ทำการเทศนาธรรม  ทั้งนี้ได้เทศนาให้เหล่าดวงวิญญาณทุก ๆ ดวงในที่นี้ “อย่าได้สร้างบ่วงกรรม อย่าได้ยึดติดในความเคียดแค้น เข้าใจว่า บ้างก็ต้องตายทั้งที่ยังไม่ถึงเวลา แต่ถูกยัดเยียดความตายให้ ในขณะที่ยังมีภาระอีกมากมายที่รออยู่ แต่ทั้งนี้เมื่อตายแล้ว คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ต้องดำรงอยู่ตามวาระกรรมของตนเองต่อไป ให้ปล่อยวางเสียซึ่งความเคียดแค้น จึงเป็นการวางซึ่งความทุกข์ทั้งปวง อันจะทำให้ไปสู่ภพภูมิใหม่ได้ ให้เอาชีวิตเฉพาะคนที่ดวงถึงฆาตเท่านั้น ส่วนใครที่ยังไม่ถึงฆาตก็จงให้ละเว้นเสีย อันจะได้ไม่เป็นการก่อกรรมต่อทั้งตนเองและผู้อื่น”

จากนั้นข้าพเจ้าได้ขยับคฑาเพื่อส่งผลบุญให้กับทุก ๆ ดวง ซึ่งมีแสงสีทองระยิบระยับออกจากคฑาข้าพเจ้า  กระจายให้กับทุกดวงวิญญาณ  ส่วนตัวข้าพเจ้านั้นมีแสงออร่าสีขาวกระจายล้อมรอบ เหล่าดวงวิญญาณทุกดวงได้ก้มกราบก่อนที่ข้าพเจ้าจะเดินทางกลับ 

ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเดินทางจะกลับเข้าร่าง ได้เห็นมวลน้ำมากมายซัดถล่มกรุงเทพฯ ซัดเข้า 2 ทิศทาง ซัดเข้ามาพร้อม ๆ กันเข้าถล่ม ทั่วทั้งกรุง ผู้คนมากมายถูกพัดพาตามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดตามมา หลังจากสิ้นสุดการออกมาของมวลชน จากนั้นข้าพเจ้าจึงได้กลับเข้าร่างเดิมและออกจากสมาธิ

               

 

 

ภาพจากดวงตาทิพย์ ขณะแยกร่างเทศนาธรรมเหล่าดวงวิญญาณแยกราชประสงค์

 



ภาพคลื่นยักษ์ซัดเข้าถล่มกรุงเทพฯ



หมอผีต้องการกำจัดหลานชาย

 

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม   พ.ศ. 2558 

                เช้านี้ตื่นมา พระแม่ให้ข้าพเจ้าอยู่บ้าน 2 วัน ไม่ให้ไปเปิดร้าน ให้ข้าพเจ้าปฏิบัติสมาธิ วันนี้และพรุ่งนี้เป็นวันนรกเปิดประตู หมอผีจะทำการอัดของได้ใน 2 วันนี้

                ค่ำนี้ในเวลาราว 3 ทุ่มกว่า ข้าพเจ้าได้ยินเสียงสุนัขในหมู่บ้านหอนมากมาย จึงรู้ว่าวันนี้อาจปล่อยของ ขณะที่กำลังเปิดประตูออกจากห้องได้พบหลานชาย  หลานชายทำท่าตกใจ และบอกว่า    “น้าเล็ก น่ากลัวมากเลย  น่ากลัวมากเลย  “ ข้าพเจ้าถามว่า กลัวอะไร  หลานชายบอกว่า ตะกี้ไปเล่นกับเจ้าปุกปุย ปกติปุกปุยไม่เคยเห่า แต่เมื่อกี้มันทั้งขู่ทั้งเห่า แล้วรู้สึกกลัวอย่างมาก หมาก็หอนมาก หันไปข้างหลัง เย็นวาบไปทั้งตัว กลัวจนแทบจะอุ้มเจ้าปุกปุยและวิ่งหนีเข้าบ้าน “ จากนั้น หลานชายไปเข้าห้องน้ำในห้องอากง อาม่า  ได้แต่บอกว่า น่ากลัวจังเลย  น่ากลัวจังเลย  อาม่าถามว่ากลัวอะไร  อากงบอก หลานชายเห็นเงาดำ  ใหญ่ ๆ อยู่ข้างหลัง

                ข้าพเจ้ารู้และได้รีบกลับเข้าห้องนั่งทำสมาธิ ได้ย้อนดูเห็นเหตุการณ์ขณะหลานชายกำลังเล่นกับปุกปุย วิญญาณคุณไสยมากมายล้อมรอบจ้องทำร้าย มีผีตนหนึ่งรูปร่างใหญ่ ร่างกายกำยำ ผิวเข้ม หน้าตาดุดัน ใส่ชุดสีเข้ม ตัวอาบด้วยเลือด ยืนด้านหลังหลานชาย ระยะห่างไม่ถึงฟุต จ้องตาเขม็ง หวังจะฆ่าหลานชาย แต่ทว่า ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าได้เคยอาบน้ำมนต์ให้ปุกปุย ด้วยอำนาจของน้ำมนต์บนตัวปุกปุย จึงได้ป้องกันหลานชายไว้ได้ ทำให้วิญญาณคุณไสยไม่ทำอะไร 

                ขณะนั้นองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว อยู่กับข้าพเจ้าตลอด ได้ถือกระบี่อาญาสิทธิ์คล้ายกับขององค์      เง็กเซียนฮ่องเต้เป็นสีทอง ฝักกระบี่เป็นลายมังกรทั้งหมด ออกไปปราบเหล่าวิญญาณคุณไสย มากมายที่อยู่ลานหน้าบ้าน และหน้าบ้านตลอดจนถึงรอบหมู่บ้านมากถึงหน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน

                หลังจาก องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว กลับเข้ามา วิญญาณคุณไสยชุดใหม่ได้มาแทนที่ชุดเดิมที่ถูกกำจัดไป ข้าพเจ้าจึงได้แยกร่างออกไปเองพร้อมถือคฑา เมื่อถึงลานหน้าบ้าน ได้เห็นวิญญาณคุณไสยมากมาย จึงได้เทศนาธรรม พร้อมทั้งพรมน้ำมนต์จากคฑา เพื่อให้หลุดพ้นจากอำนาจของหมอผี และได้บอกให้ผีทุกตนไปฆ่าหมอผี และคนสั่ง ทั้งนี้การฆ่านี้ถือว่าไม่มีบาปกรรม เพราะฆ่าคนชั่วร้าย แต่กลับจะได้บุญมากมาย เพราะได้ช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์อีกมาก ผีทุกตนจึงหายไป

                จากนั้นได้มีชุดใหม่มาอีก และมีผีตนหนึ่ง อายุราว 30 กว่า ผิวขาวเหลือง สวมเสื้อสีขาว กางเกงสีดำ หน้ารี หน้าตาดูดี มีเลือดเต็มกาย และใบหน้าด้านขวา เนื่องด้วยส่วนหัวด้านขวามีแผลรอยเลือดจึงอาบเต็มแก้มด้านขวา วิญญาณคุณไสยนี้ได้จ้องมองข้าพเจ้าอย่างเขม็ง ด้วยสายตาที่ดุกร้าว ไร้ซึ่งชีวิตและจิตแห่งความเมตตา

ข้าพเจ้าจึงถามว่า มีอะไร ต้องการให้ช่วยเหลืออะไร 

วิญญาณคุณไสยบอกว่า ผมได้รับคำสั่งให้มากำจัดคุณ แต่ผมไม่อยากทำ เพราะผมรู้ว่าคุณเป็นใคร ถ้าผมทำ ก็ทำไม่สำเร็จ และผมจะไม่ได้ไปผุดไปเกิดอีกเลย

ข้าพเจ้าจึงถาม แล้วต้องการสิ่งใด

วิญญาณคุณไสยตอบว่า ต้องการให้คุณช่วยผม ช่วยให้ผมหลุดพ้นจากอำนาจของหมอผี เพื่อที่พวกผมจะได้ไปปราบหมอผี 

ข้าพเจ้าจึงได้พรมน้ำมนต์จากคฑา  วิญญาณคุณไสยตนนั้นได้ก้มกราบข้าพเจ้า 3 ครั้ง แล้วจึงจากไปทั้งหมดทั้งมวล

เมื่อร่างแยกกลับเข้าร่าง  องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว บอกว่า ครอบครัวที่ทำร้ายที่รักในเวลานี้ ในร่างกายเขานั้นเป็นอสูรกายทั้งสิ้น ไม่มีความเป็นคนเหลืออยู่เลย สำหรับผู้หญิงคนนั้นแม้ชาติก่อนจะเป็นน้องสาว แต่ไม่คิดว่าชาตินี้จะมีจิตใจที่เหี้ยมโหดชั่วร้ายถึงเพียงนี้ ในร่างกายเขาเวลานี้มีแต่หนอนคุณไสยเต็มตัวยั้วเยี้ยไปหมด



ภาพตัวอย่างให้มนต์วิญญาณคุณไสยที่ลานหน้าบ้าน เพื่อปลดปล่อยจากอำนาจหมอผี


 

 

ภาพตัวอย่างวิญญาณคุณไสยกราบขอบคุณข้าพเจ้า หลังได้รับมนต์เพื่อปลดปล่อยจากอำนาจหมอผี      ที่ลานหน้าบ้าน



หมอผีใช้กริชลงอาคม แทงที่หน้าอกข้าพเจ้า 3 ครั้งหวังต้องการกำจัดข้าพเจ้า เอาข้าพเจ้าไปเป็นทาส

 

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม   พ.ศ. 2558 

                เช้านี้พระแม่ชี้แจ้ง เมื่อคืนนี้ วิญญาณคุณไสยทั้งหมดได้กลับไปปะทะต่อสู้กับหมอผี แต่เนื่องด้วยหมอผีวิชาอาคมแเกร่งกล้ามาก พระแม่ กาลิบจึงได้ช่วยกำจัด เวลานี้ลงนรกภูมิแล้วบางส่วน

เช้านี้ไม่ค่อยสบาย ติดหวัดบุตรสาว ได้ทานยาแก้แพ้ รู้สึกเพลียและง่วงมาก จึงคิดจะนอนหลับพักสักครู่ ขณะกำลังจะนอนหลับในเวลา 10.00 น. ได้รู้สึกเจ็บแปล๊บที่หน้าอกด้านขวาอย่างแรง เหมือนมีมีดคมปักเข้าทรวงอกอย่างแรก ถึง 3 ครั้ง

   ข้าพเจ้าเจ็บจนต้องบิดตัวงอ ข้าพเจ้ารู้ได้ทันทีว่าโดนหมอผี องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว  บอกว่าจะไปดูให้ ข้าพเจ้าบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวไปเอง จึงได้รีบแยกร่างถือคฑาไป เมื่อไปถึงสถานที่ หมอผีดังกล่าว หน้ากลมรี อายุราว 40-50 ปี มีหนวด ใส่ชุดขาว นั่งล้อมรอบด้วยสายสิญจน์ ด้านหลังมีโต๊ะวางพระ กะโหลกศรีษะ มีหม้อดินปิดผ้ายันต์ใบหนึ่ง  เมื่อข้าพเจ้าเหาะไปถึงที่เห็นว่าหมอผีกำลังจะใช้กรีชลงอาคม ด้ามยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ขนาดเล็กปลายแหลมคม ปลายแบนเล็กน้อย กำลังจะปักอกข้าพเจ้าเป็นครั้งที่ 4 เมื่อหมอผีเห็นข้าพเจ้าจึงได้ตกใจเป็นอย่างมาก ข้าพเจ้าจึงได้ด่าหมอผีว่า “ไอ้หมอผี กูสู้อุตส่าห์ไว้ชีวิตมึง มึงยังมาคิดร้ายกับกู หวังจะฆ่ากูเสียให้ได้ อย่าได้หวังว่าวันนี้มึงจะรอดชีวิตไปได้ กู้จะไม่ละเว้นชีวิตมึงอีก”  แล้วข้าพเจ้าก็ได้สะบัดไม้ คฑา หมอผีได้กระเด็นไปติดฝา 3-4 ครั้ง กระทั่งเลือดกลบปาก ข้าพเจ้าจึงได้ จับหมอผีนี้ใส่หม้อดินและปิดฝาเสีย  ใต้หม้อดินข้าพเจ้าได้ทำเป็นประตูสู่ขุมนรกภูมิ ท่านยมบาลจึงได้ดึงลงไปสู่นรกภูมิ

ข้าพเจ้าได้ตามลงไปที่นรกอเวจี เห็นว่าบรรดาหมอผีทั้งหลายที่ทำร้ายข้าพเจ้ากำลังร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ในกระทะทองแดง แล้วข้าพเจ้าจึงกลับเข้าร่าง

ภายหลังจากกลับเข้าร่าง ได้พิจารณาย้อนดูถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่หมอผีจะทำร้ายข้าพเจ้า  หมอผีนี้อาคมแกร่งกล้ามาก ไม่ต้องใช้หุ่นรูปรอย สามารถค้นหากายทิพย์ข้าพเจ้าจนเจอ และใช้กริชปักอกได้จากกายทิพย์ข้าพเจ้าทันที   ก่อนปักอกข้าพเจ้า หมอผีนี้ได้กล่าวไว้ว่า   “ กูจะนำเจ้า มาลงหม้อดินใบนี้ มาเป็นทาสรับใช้ของกู แล้วกูจะยิ่งใหญ่เกรียงไกร กูจะเป็นเจ้าแห่งอำนาจทั้งปวง         ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ“ แล้วก็ทำการใช้กริชปักอกข้าพเจ้าในทันทีถึง 3 ครั้งแบบไม่ยั้งมือ กริชที่ปักลงอกข้าพเจ้าลึกถึง 10 เซนติเมตรเห็นจะได้

ตอนนี้เกือบจะได้ยิ่งใหญ่แล้วในนรกอเวจี ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอีกเลย จะเอายิ่งใหญ่แค่ไหนก็เชิญตามสบาย

ข้าพเจ้าออกจากสมาธิ ได้เปิดดูที่ทรวงอก ปรากฏว่ามีรอยแผลจากมีดปัก เป็นรอยเล็กๆ รอบ ๆ เป็นสีแดง ยังคงเจ็บปวดเล็กน้อยอีกราว 10 กว่านาที ซึ่งอาม่าก็สามารถเห็นรอยมีดนี้ได้  ข้าพเจ้าจึงได้นำน้ำมนต์มาปิดปากแผล องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ได้เป่ามนต์ให้ อาการเจ็บจึง ทุเลาลง

 


 

 


ตัวอย่างกริชจาก


 

 


ภาพตัวอย่างหมอผีลงสู่อเวจีภาพ เป็นตัวอย่างจาก



 

หมอผีใช้กริชลงอาคม แทงที่ช่องท้องหวังทำลายช่องคลอดข้าพเจ้า เพื่อไม่ให้ข้าพเจ้ามีบุตรได้

 

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม   พ.ศ. 2558 

                หลังจากปราบหมอผีนี้แล้ว ในเวลา 11.00 น. ข้าพเจ้ารู้สึกเพลีย อยากจะนอนหลับ ขณะกำลังหลับตาลง ได้รู้สึกเจ็บที่บริเวณช่องท้อง ทางขวาเล็กน้อย ข้าพเจ้าจึงรีบแยกร่างถือคฑาออกไปหาหมอผี ซึ่งเป็นหมอผีคนใหม่ รูปร่าง ผอมเพรียว ใบหน้ามีกระดูก ผิวคล้ำ กำลังทำพิธีใช้กริชลงอาคมแทงที่ช่องท้องข้าพเจ้า หวังจะทำลายมดลูกข้าพเจ้าเพื่อไม่ให้ข้าพเจ้าสามารถตั้งครรภ์ได้อีก  เมื่อร่างแยกข้าพเจ้าไปถึง ไม่เอ่ยวาจาใด ๆ ทั้งสิ้น ได้ใช้คฑาฟาดที่ตัวหมอผีหลายครั้ง ไม่ยั้งมือ จนหมอผีกระเด็นติดฝาหลายรอบแบบไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว สุดท้ายโดนธรณีสูบลงสู่นรกอเวจี

                ขณะที่ร่างแยกข้าพเจ้ากำลังเดินทางกลับ ได้พบกับพระพุทธองค์ จึงได้ก้มกราบท่าน จากนั้นได้เดินทางไปสรวงสวรรค์ ไปหาองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ และได้เรียกท่าน

    “องค์เง็กเซียน อยู่ไหมคะ  ยู้ฮู  อยู่ไหมคะ  “สักครู่องค์ท่านแต่งเครื่องแบบเต็มยศ และได้ออกมาทักทายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี  และถามว่า  ว่ายังไง  ข้าพเจ้าบอกว่าอยากให้องค์ท่านช่วยหน่อย  ช่วยดูให้หน่อยว่าหมอผีที่เหลือยังมีอีกที่ไหนบ้าง จะได้ไปกำจัดให้หมด ในเวลานั้นองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ได้ตามขึ้นมาพร้อมกระบี่อาญาสิทธิ์  เมื่อข้าพเจ้าและองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว มองจากด้านบนลงมา จึงรู้ที่อยู่ของหมอผีทั้งหลายจึงได้ช่วยกันกำจัดจนหมดสิ้น เฉพาะหมอผีในวันนั้น

                พระแม่ชี้แจ้งเวลานี้ปลอดภัยแล้ว หมอผีถูกกำจัดแล้ว


 

     สำหรับองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วนั้น ก่อนลงมาอยู่กับข้าพเจ้า ได้มีสนธิสัญญาต่อสวรรค์ เพื่อให้สามารถอยู่กับข้าพเจ้าดั่งมนุษย์ได้ และสามารถปกป้องข้าพเจ้าได้ จึงได้ลดอำนาจของตนเองลงครึ่งหนึ่ง ภายหลังจากที่ข้าพเจ้าเห็นและสัมผัสองค์ท่านได้แล้ว อำนาจทั้งหลายจึงจะกลับคงเดิม

 

แยกร่างได้ 99 ร่าง

 

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม   พ.ศ. 2558 

                หลังจากกำจัดหมอผีหมดสิ้น จึงได้นอนหลับตา และลองแยกร่าง ต้องการดูว่าแยกได้กี่ร่างแล้ว ร่างแรกแยกเป็นร่างที่สอง  ร่างที่สองแยกเป็นร่างที่สาม ไปเรื่อย ๆ เมื่อนับจำนวนร่างแยกสุดท้ายแล้วได้ทั้งหมด 99 ร่าง พระแม่ชี้แจ้งเวลานี้ข้าพเจ้าแยกร่างได้ 99 ร่างแล้ว  ทุกร่างมีไม้คฑา และอิทธิฤทธิ์ด้วยกันทั้งสิ้น แต่อารมณ์นั้นจะแตกต่างกัน

 


องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว สร้างออร่าสีขาวทั้งตัว เป็นม่านกำบังอาคม  คุณไสยทั้งปวงให้ข้าพเจ้าและ บุตรสาว

 

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม   พ.ศ. 2558 

                ก่อนนอนค่ำคืนนี้ รู้สึกเหมือนถูกกริชแทงที่หน้าอก ซ้ำที่เดิมอีกครั้ง ข้าพเจ้าจึงได้รีบแยกร่างไปหักคอหมอผีใหม่อีกคนตายคาที่ และลากลงสู่นรกภูมิ  

                เช้านี้องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ได้สร้างม่านกำบังให้ข้าพเจ้า ในเวลานี้ข้าพเจ้าและบุตรสาว ทั้งกายมีแสงออร่าสีขาวกระจายรอบตัวตลอดเวลา เป็นม่านกำบังอาคมคุณไสย หมอผีใด ๆ จะไม่สามารถทำร้ายข้าพเจ้าได้อีก

                2 วันนี้ ร่างกายรู้สึกเนือย ๆ  พระแม่อนุญาตให้ทานเนื้อสัตว์ได้ตามปกติ เนื่องด้วยอาหารเหล่านี้จะได้ไปทำการซ่อมแซมอวัยวะภายในที่ถูก อาคม คุณไสยทำลาย และเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหาร

                 

พระแม่ทำดวงตาทิพย์ให้ สามารถมองเห็นได้เหมือนนกอินทรีย์

 

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม   พ.ศ. 2558 

                2-3 วันมานี้ ข้าพเจ้าจะรู้สึกดวงตาเหมือนมีม่านบางอย่างมาบดบังดวงตาไว้ ครึ่งดวงตาล่าง ทำให้การมองเห็นจะรู้สึกมัว ๆ  องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว มองแล้วบอกว่า พระแม่กำลังรักษาตาให้หายสั้น      หายเอียง ให้ตามีความคมชัดในการมองเห็นเหมือนนกอินทรีย์ เวลามองร่วมกับตาทิพย์จะได้ชัดเจน พระแม่ชี้แจ้ง ใช่ตามที่องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว บอกไว้  วันนี้ก็ยังคงมองสิ่งต่าง ๆ รู้สึกมัว ๆ จะมองอะไร      ไม่ค่อยออก ต้องเพ่งใกล้ ๆ และกระพริบตาบ่อย ๆ เวลานี้ต้องมองแต่ข้างบน มองข้างล่างไม่ชัด เหมือนใส่น้ำยาหยอดตาตลอดเวลา ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาทำพอสมควร

                ทั้งนี้ดวงตาทั้ง 2 ของข้าพเจ้านี เป็นตาทิพย์เช่นเดียวกัน ดังนั้นเบื้องต้นข้าพเจ้าจึงมีตาทิพย์ 3 ดวง ซึ่งพระแม่กำลังดำเนินการแก้ไขให้ใหม่ ให้เสร็จสมบูรณ์

 


 


นกอินทรี ตัวอย่างภาพจาก

 

ร่างแยกพ่นไฟโลกันต์จากฝ่ามือและปาก เผาหมอผีจนสิ้นซาก

 

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม   พ.ศ. 2558 

ค่ำนี้ขณะกำลังจะนอนหลับ ได้รู้สึกเจ็บนิด ๆ ที่ทรวงอกตำแหน่งที่ถูกแทง จึงได้ท่องบทสวด “พุทโธ พุทธัง ณ กันตัง อะระหัง พุทโธ อิติปิโส ภะคะวา สุคะโต โหติ กันตา พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ  สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ “ อาการจึงดีขึ้น   และรีบแยกร่างไป เห็นหมอผีคนใหม่กำลังทำพิธี ร่างแยกได้ใช้คฑาสะบัดฟาดไม่ยั้ง และท้ายสุดได้พ่นไฟโลกันต์จากฝ่ามือเป็นเพลิงเผาทั้งหมอผี ทั้งห้องทำพิธีจนสิ้นซาก

             ในเวลานี้ องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว เห็นว่า ทรวงอกบริเวณที่โดนแทง ภายในอกเป็นสีแดงช้ำเป็นวงใหญ่พอประมาณ  อีกไม่กี่วันก็จะหาย

 

ภาพตัวอย่าง

 

 

ภาพตัวอย่างร่างแยกใช้ไฟโลกันต์จากฝ่ามือ เผาหมอผีจนสิ้นซาก

 

 

เริ่มต้นสงครามระหว่างเทพ หมอผีและอสูรกาย

 

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม   พ.ศ. 2558 

ในเวลา 13.10 ของวันนี้ ขณะที่กำลังจะหลับพักผ่อน ได้เกิดปวดที่หน้าอกซ้ำที่เดิม โดนแทงซ้ำอีก 4 ครั้ง แต่ไม่เจ็บมากนัก เนื่องด้วยมีม่านกำบังไว้อีกชั้น

ข้าพเจ้าได้แยกร่าง พร้อมองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ได้ออกไปดูเหตุการณ์ พบว่ามีหมอผี 5 คนกำลังทำพิธีในห้องมีสายสิญจน์ล้อมรอบ ต่างสลับกันใช้กริชแทงที่หน้าอกข้าพเจ้า องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ใช้กระบี่ฟัน ส่วนข้าพเจ้าได้พ่นไฟ และล็อคประตู เผาทั้งเป็นทั้งหมด

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ได้ออกไปปราบหมอผีที่ป่า มีอีก 5 คนกำลังทำพิธี ก็โดนฟันจนตายหมดทุกคน

ในป่าอีกแห่งหนึ่งมีหมอผี 10 คนกำลังทำพิธี องค์ชาย องค์หญิง องค์หญิงนานา องค์พระพิฆเนศ เซียงน้อย ได้มาช่วยปราบหมอผี องค์ชายองค์หญิงพ่นไฟโลกันต์  เซียงน้อยเหาะไปมาคว้าแขนหมอผี องค์พระพิฆเนศใช้ตรีศูลแทงหมอผี องค์หญิงนานาใช้ตาข่ายดักล้อมไม่ให้หมอผีหนีไปที่ไหนได้

จากนั้นได้มีวิญญาณ ผี ปีศาจ อสูรกายมากมายออกมาเป็นกองทัพ  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ ท่านพญานาค ท่านพญาครุฑ เสือสมิง ฤาษี รวมถึงวิญญาณคุณไสยที่ข้าพเจ้าได้ช่วยไว้คืนที่มาหาที่บ้าน ได้มาช่วยกันปราบผี ปีศาจ อสูรกาย สู้กันอย่างดุเดือด  ส่วนข้าพเจ้าได้ขอให้องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ส่องดูตำแหน่งหมอผี และได้ตามไปกำจัดในที่ต่าง ๆ เช่น ในวัด บริเวณป่า  ในห้อง น้ำตก ส่วนใหญ่จะจัดกลุ่มเป็นวงกลมจำนวนหมอผีต่อกลุ่มไม่ต่ำกว่า 5-10 คน การปะทะสู้กันอย่างต่อเนื่อง องค์ชายได้แยกร่างหลายกร เท้ายืนบนล้อไฟ กำจัดเหล่าอสูรมากมาย องค์พระพิฆเนศแยกร่างเป็นหลายกร มีอาวุธครบ การต่อสู้วันนี้สิ้นลุดลง เหล่าปีศาจถูกทำลายสิ้น ในเวลา  14.15 น. ทุกองค์กลับบ้านด้วยความเหน็ดเหนื่อยและอ่อนเพลีย

ในช่วงเวลาที่ปะทะ มีปีศาจ อสูรกายบางส่วนมาที่บ้าน และไปที่รถป่าป๊ากู๋ แต่องค์กิ้วอ้วง ฮุกโจ้ว ได้สร้างม่านกำบัง ล้อมไว้รอบบ้าน และรอบรถ ซึ่งองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ได้ออกไปปราบจนหมดสิ้น

สำหรับข้าพเจ้าได้แยกร่าง 99 ร่าง ไปปราบหมอผี และไปนรกภูมิในส่วนที่อสูรกายอยู่ ที่แห่งนั้นมีแต่ไฟ ลมร้อน บรรยากาศแดงฉานด้วยควันไฟ เป็นนรกภูมิชั้นพิเศษ ขณะที่ข้าพเจ้าไปถึงที่แห่งนั้น ไม่มีปีศาจอยู่เลยสักตน ถูกปลูกขึ้นไปจนหมดสิ้น 

ข้าพเจ้ามองขึ้นไปบนพื้นดินด้านบน เห็นอสูรกายอยู่กันมากมาย จึงได้สร้างพื้นดินให้เป็นปากประตูนรก อสูรกายมากมายได้ตกลงมาเบื้องล่าง บริวารท่านยมบาลได้มาช่วยจัดการ  ข้าพเจ้าจึงได้บอกแก่อสูรกายเหล่านั้นว่า “จงหยุดเดี๋ยวนี้ อสูรกายทั้งหลาย จงหยุดก่อกรรม หรือพวกเจ้าอยากเป็นอสูรกายไปเช่นนี้ชั่วกัปชั่วกัลป์ ไม่อยากไม่ผุดไปเกิดอย่างนั้นหรือ “ เมื่อข้าพเจ้าพูดจบ เหล่าอสูรกายได้นิ่งสงบลง ข้าพเจ้าได้รดน้ำมนต์จากคฑาให้กับเหล่าอสูรกาย แล้วจึงกลับเข้าร่างเดิม

ด้วยอาการที่ยังคงเจ็บทรวงอกเป็นพัก ๆ และเหนื่อยล้า อาม่าจึงได้ชงน้ำผึ้งอุ่น ๆ ให้ดื่ม พลังจึงกลับคืนมา ราชบุตรเขยแห่งสรวงสวรรค์ เป่ามนต์ให้ อาการเจ็บจึงทุเลาลง แต่ก็ยังเจ็บอยู่

พรุ่งนี้จะเริ่มมีการทำสงครามรอบใหม่ บรรดาหมอผีต้องการมีอำนาจ ครอบครองโลกใบนี้ ต่างร่วมมือกันเพื่อหวังปราบข้าพเจ้าเพื่อให้เป็นทาสรับใช้ ส่วนพวกชั่วบางส่วนคิดว่า หากปราบข้าพเจ้าได้จะมีอำนาจเกรียงไกร ไม่มีผู้ใดทัดเทียมได้ ดังนั้นบรรดาหมอผีทั้งหลาย จึงได้ร่วมมือกัน ปลุกอสูรกายในอเวจีขึ้นมาทั้งหมด  จึงถือได้ว่าวันนี้เป็นวันเริ่มต้นสงครามปราบอสูร 

ในครั้งนี้ พระแม่ต้องการปราบให้หมดสิ้น ซึ่งอาจต้องทำสงครามอีกในวันพรุ่งนี้ เนื่องด้วยหมอผีมีจำนวนมากมาย และมีวิชาอาคมที่แกร่งกล้ามาก

ทุกองค์เมื่อกลับมาถึงบ้านต่างก็นอนท่า สลบ

 

 

อาวุธตรีศูลที่องค์พระพิฆเนศใช้ปราบมาร

 

 

 


ตัวอย่างเหล่าอสูรกายและที่อยู่ของอสูรกายภาพจาก

 

ภาพตัวอย่างอสูรกาย ลักษณะคล้ายเช่นนี้

 

ร่างแยก 99 ร่าง และองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ร่วมกันกำจัดหัวหน้าหมอผี

 

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม   พ.ศ. 2558 

วันนี้นั่งสวดมนต์ นับสร้อยประคำในห้องนอนในเวลา 7.30 น. ขณะสวดถึงบทแผ่เมตตา ข้าพเจ้าได้แยกร่างไปนรกภูมิ ดูอสูรกายทั้งหลายทุกตนอยู่อย่างสงบเรียบร้อยดี  มีหมอผีกำลังพยายามจะปลุกอสูรกายขึ้นไปอีก แต่กระทำไม่สำเร็จเพราะอสูรกายไม่ร่วมมือด้วย  สำหรับอสูรกายอีกมากมายที่ยังอยู่บนโลกมนุษย์ในเวลานี้ วันนี้คงได้เวลาปราบให้สิ้น

ข้าพเจ้าได้ใช้จิตมองหาตำแหน่งของหัวหน้าหมอผี  และทุกร่างทั้งหมด 99 ร่างได้ไปปรากฏตรงหน้าหมอผี ซึ่งหัวหน้าหมอผีกำลังทำพิธีปลุกอสูรกาย  ร่างแยกทั้งหมดได้ล้อมรอบหมอผีไว้เป็นวงกลม  หัวหน้าหมอผีนี้อิทธิฤทธิ์แกร่งกล้ามาก  สามารถสร้างม่านกำบังกายตน ต้านทานไฟโลกันต์ของข้าพเจ้าได้ และสามารถปล่อยพลังระเบิด ทำให้ร่างแยกมากมายของข้าพเจ้ากระเด็นถอยออกไป      ร่างแยกบางร่างถึงกับกระอักเลือดออกมา แต่ก็ได้ร่วมกันล้อมเป็นวงกลมอีกครั้ง องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว    เห็นท่าไม่ดี ได้รีบมาช่วยใช้กระบี่อาญาสิทธิ์ สวดมนต์และทำลายม่านกำบังของหมอผี ร่างแยกข้าพเจ้าทุกร่างจึงได้ร่วมกันพ่นไฟโลกันต์กระทั่งสามารถเผาหัวหน้าหมอผีได้ และถูกดึงสู่นรกอเวจีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ร่างต่าง ๆ ได้กลับรวมร่างด้วยสภาพอิดโรย องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ได้พาร่างแยกข้าพเจ้ากลับเข้าร่างที่บ้าน ซึ่งเข้าร่างเสร็จ ข้าพเจ้ารู้สึกหายใจไม่สะดวก เหน็ดเหนื่อยแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรง    องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ได้เพิ่มพลังให้ข้าพเจ้าจนอาการดีขึ้น

พระแม่ชี้แจ้ง หัวหน้าหมอผีถูกกำจัดแล้ว เหลือลูกน้องอีกมากมายกำลังระส่ำระสาย วันนี้   พระแม่จะจัดการให้เบ็ดเสร็จ

                ต้องรีบสะสางให้เสร็จ  ต้องเตรียมทำภารกิจอีกมากมาย องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว บอกให้ไปกินข้าวก่อน ให้กินมาก ๆ จะได้มีแรงต่อสู้ได้ วันนี้ยังต้องทำสงครามกับเหล่าอสูรอีกมากมายที่ถูกปลุกขึ้นมา

                ไม่น่าเชื่อว่าจะมีมนุษย์ที่มีพลังอำนาจแกร่งกล้าถึงเพียงนี้ ถึงขั้นต่อกรกับไฟโลกันต์ และพลังของข้าพเจ้าได้ ถือว่าเก่งมาก แต่ตอนนี้รับกรรมในนรกภูมิแล้ว


 

 

 

 


ภาพตัวอย่างกระบี่อาญาสิทธิ์องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว   ไว้ใช้สำหรับปราบพญามาร เหล่าปีศาจโดยเฉพาะ ส่วนหัวดาบเป็นรูปมังกร ฝักดาบเป็นทองทั้งเล่ม ม่านพลังของกระบี่จะเป็นแสงสีทองทั้งหมด

 



ภาพม่านอาคม สามารถป้องกันจากไฟโลกันต์ข้าพเจ้าได้

 



 

สิ้นสุดสงครามเทพฯและอสูร ล้างเผ่าพันธุ์อสูร

 

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม   พ.ศ. 2558 

วันนี้ เวลา 12.00 น. ขณะนั่งดื่มน้ำชากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ (เวลานี้ข้าพเจ้าสามารถสื่อสาร พูดคุยกับทุกองค์ได้ผ่านทางจิต เห็นทุกองค์ได้ผ่านทางจิต) แม้ในยามที่ลืมตาหรือหลับตาก็สามารถสื่อสาร เห็นและพูดคุยได้ พระแม่อนุญาตให้ข้าพเจ้ากิน “ก้วงเจี๊ยง” ที่ถวายองค์ชายองค์หญิง ซึ่งไม่ใช่อาหารเจได้ 1 มื้อ เนื่องด้วยองค์ชายองค์หญิงใส่น้ำมนต์ไว้ เมื่อข้าพเจ้าทานแล้วจะสามารถล้างสารพิษอาคมในร่างกายได้ทั้งหมด รักษาร่างกายให้แข็งแรงเป็นปกติ ร่างแยกจะได้มีกำลังวังชา

                ข้าพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ร่วมกันวางแผน ในการปฏิบัติการครั้งนี้ โดยมีลำดับหน้าที่ดังนี้ 

·       ข้าพเจ้าและองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว จะทำการแยกร่างไปกำจัดเหล่าหมอผีที่กำลังทำพิธี

·       ร่างแยกข้าพเจ้าอีกร่างไปควบคุม นรกภูมิชั้นพิเศษ ชั้นที่อยู่ของอสูรกาย ไม่ให้อสูรกายออกมาได้

·       ท่านยมบาลและบริวาร คอยเปิด ปิดประตูนรก และควบคุมเหล่าปีศาจไม่ให้ออกไปได้อีก

·       บรรดาวิญญาณคุณไสยที่ดี  เหล่าเทวดา พรหม เสือสมิง ฤาษี ต่าง ๆ ผู้กล้าในอดีต ให้ช่วยกำจัดเหล่าปีศาจ และอสูรกาย

·       สิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยช่วยเหลือ แผ่เมตตาอยู่เบื้องบน

เมื่อวางแผนการเสร็จสิ้นแล้ว จึงทานน้ำชา ทานขนมปังรอเวลาเริ่มสงคราม ซึ่งจะเริ่มในเวลา 12.49 น.

 

                …12.49 น. ฝ่ายหมอผีเริ่มปฏิบัติการ ทุกองค์เตรียมพร้อมปฏิบัติการ ข้าพเจ้าและองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว แยกร่างไปปฏิบัติหน้าที่  ร่างจริงนั่งดื่มน้ำชากับอาม่าในห้องนอนข้าพเจ้า และทานก้วงเจี๊ยงไปด้วย เพื่อเพิ่มพลังให้ร่างแยกทั้งหมด สงครามครั้งใหญ่ระหว่างเทพฯ และอสูร เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด

องค์ชายองค์หญิง องค์พระพิฆเนศ องค์หญิงนานา เซียงน้อย ช่วยจัดการเหล่าปีศาจ  ปีศาจตนหนึ่งเห็นเซียงohvpเหาะไปมา ตรงหน้า ปีศาจตนนั้นได้แต่มองตาม และถามว่า “ตัวอะไรวะ ไม่เคยเห็น หน้าตาแปลกประหลาด “ (ในที่นี้มีแต่เซียงน้อยเท่านั้นที่ไม่ใช่องค์ แต่เป็นโดเรมอน ซึ่งได้รับการปรับแก้โดยหลวงพ่อโสธร และพรีเดเตอร์บนสวรรค์ให้สามารถเคลื่อนไหว พูดคุยได้ดั่งมนุษย์) เซียงน้อยหลอกล่อเหาะไปมา และองค์หญิงนานานำตาข่ายครอบปีศาจไว้ เซียงน้อยรีบมัดตาข่ายให้แน่น

ผีปอบได้มาช่วยจัดการปีศาจ ได้ดึงไส้ปีศาจ และหมอผี ออกมากิน  ข้าพเจ้าเหาะผ่านไปเห็นเข้า จึงทักว่า

ข้าพเจ้า : ยังมีเวลากินอีกหรือ

ผีปอบ : ขอหน่อยเถอะนายท่าน ข้าหิวมานานแล้วเหลือเกิน พร้อมกับส่งยิ้มให้ข้าพเจ้า

ข้าพเจ้า : เอาเถอะ ตามสบายละกัน

                ผีปอบ : ขอบคุณมาก นายท่าน

                ท่านพญานาค และบริวารทั้งหมดได้ขึ้นจากน้ำมาช่วยปราบเหล่าปีศาจ

                ท่านพญาครุฑ และบริวารทั้งหมดได้เหาะลงมาด้วยความรวดเร็ว กระชาก หักคอเหล่าปีศาจเช่นกัน

                วีรบุรุษ วีรสตรีผู้กล้า ลุกขึ้นจากพื้นดินทั้งกองทัพ ต่างใช้ดาบฟาดฟันเหล่าอสูรมากมาย 

สมรภูมินี้ไม่มีขอบเขตจำกัด กระจายทั่วตามแต่อสูรกายจะปรากฏในที่ใดบ้าง

                สักครู่ ได้เห็นมังกรของพระแม่ และบริวารท่านมามากมาย เหาะลงมาจากสวรรค์ มีประมาณ 9 สี นำโดยมังกรสีทอง ซึ่งเป็นมังกรของพระแม่และองค์ชายองค์หญิง  ได้ช่วยกันพ่นไฟ ทำลายเหล่าปีศาจ

                ขณะเหาะไปหาหมอผี พบองค์พระเยซู แต่งกายชุดขาว ท่านมาช่วยให้น้ำมนต์แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย  และได้พบหลวงปู่โตฯ  หลวงปู่มั่น จึงทักว่า “อ้าวหลวงปู่  มาด้วยเหรอ  หลวงปู่ตอบยิ้ม ๆ บอกว่า มาช่วยแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์”

                ภายหลังจากสู้รบกันสักพัก แต่ละจุดถล่มกันอย่างหนัก ควันไฟ ฝุ่นตลบคลุ้งไปทั่วทุกพื้นที่ที่มีการสู้รบ ร่างแยกข้าพเจ้าทั้ง 99 ร่าง องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว   มังกร 9 ตัว องค์ชายองค์หญิง ได้เหาะอยู่เบื้องบน  ซึ่งมีม่านคาถาอาคมล้อมรอบไว้อย่างหนาแน่น  องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ได้ใช้กระบี่อาญาสิทธิ์เจาะทะลวงม่านนี้ จากนั้น ข้าพเจ้า องค์ชายองค์หญิง และมังกรทั้งหมดช่วยกันพ่นไฟโลกันต์ เพื่อทำลายม่านอาคมนี้ ไฟลุกท่วมอยู่นาน กระทั่งม่านอาคมนี้ได้ระเบิดอยู่หลายครั้ง และได้เผาทำลายม่านอาคมหมดสิ้น ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เนื่องด้วยอาคมนั้นหนามาก    เหล่าบรรดาปีศาจ อสูรกายร่างกายถูกแผดเผาสลายบางส่วนเป็นจุนด้วยเช่นกัน 

                สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ลอยอยู่เบื้องบน  พระแม่ได้รดน้ำมนต์ลงมาจากเบื้องบนเป็นหยดฝนปรอย ๆ สู่เบื้องล่างให้เย็นชุ่มช่ำ เหล่าวิญญาณทั้งหลายได้ก้มกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ และกระจัดกระจายกันไป  ท่านยมบาลได้ปิดประตูนรกทุกบาน เคลียร์นรกต่อไป  เป็นอันเสร็จสิ้นสงคราม  หมอผีที่เหลือ อาคมแทบจะไม่มีฤทธิ์เดชมากมายแล้ว จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอีก สงครามสิ้นสุดในเวลา 13.19 น.

                ทุกองค์กลับถึงบ้านด้วยความเหน็ดเหนื่อย รวมถึงตัวข้าพเจ้าด้วย  องค์ชายองค์หญิงขอหลับพักผ่อนยาว  ข้าพเจ้าจึงได้ทำการบันทึกตามที่ได้เห็นเหตุการณ์ และอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดจากดวงตาทิพย์ และจากร่างแยกทั้งหมด ทั้งนี้ ตัวข้าพเจ้าในเวลานี้ก็ยังหายใจ   เนือย ๆ อยู่

 

 


ภาพทักทายหลวงปู่โตฯ หลวงปู่มั่น

 


เทศนาธรรมวิญญาณ นรกภูมิ เทวดา พรหม พญานาค พระศิวะ พระแม่อุมาเทวี พระนารายณ์ พระพรหม พระแม่กาลิบ เฉลิมฉลองงานสรวงสวรรค์

 

วันพุธที่ 2 กันยายน   พ.ศ. 2558 

เมื่อวานนี้ขณะอยู่ร้าน ราว 17.30 น.  องค์ชายองค์หญิง พระแม่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์เรียกให้กลับบ้าน เพราะคิดถึง เนื่องด้วยข้าพเจ้าอยู่ร้านกับองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว เพียง 2 คนเท่านั้น 

ข้าพเจ้าได้กลับบ้านและได้ให้อากง ซื้อผลไม้ ถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่ช่วยงานจนแล้วเสร็จอีกหนึ่งงาน พร้อมทั้งให้บุญแก่องค์ต่าง ๆ และเหล่าดวงวิญญาณคุณไสยที่ช่วยเหลือในครั้งนี้ ขณะสวดมนต์เสร็จได้เงยหน้าขึ้นไปมององค์พระแม่ เห็นว่าพระพักตร์องค์ท่านนั้นเป็นดั่งมนุษย์จริง ๆ ไม่ใช่แค่รูปปั้น พระแม่ชี้แจ้ง เริ่มให้ข้าพเจ้าเห็นองค์ท่านแล้ว

กลางดึกวันนี้ตื่นมาทำสมาธิในเวลา 00.10 น. ซึ่งมีเหตุการณ์   ต่าง ๆ มากมายดังนี้

ขณะเริ่มหลับตา ได้มีวิญญาณตนหนึ่ง เป็นชายอายุราว 20  กว่า ๆ ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กางกางขายาวสีดำ คล้ายนักศึกษา  มีเลือดอาบเต็มหน้าและตัว มาอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงถามวิญญาณว่า

                ข้าพเจ้า :  ว่าไง มีอะไรจะให้ช่วยหรือ

                วิญญาณ : ผมอยากขอให้ท่านช่วย

                ข้าพเจ้า : แล้วเป็นอะไรตายล่ะ

                วิญญาณ : รถชนตาย ผมกับเพื่อน  ๆ ตายที่รถทัวร์คว่ำตกเหว ท่านพอจะจำได้ไหม พวกผม หนาว และหิวมาก อยากมาขอบุญจากองค์ท่าน

                ข้าพเจ้า : ใช้จิตมองย้อนเหตุการณ์ อ่อ ได้ เราจะให้พร และให้น้ำมนต์  ทั้งนี้ร่างแยกข้าพเจ้าได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ขณะที่รถทัวร์คว่ำ ได้เทศนาธรรม ให้เหล่าวิญญาณหลุดพ้นจากบ่วงกรรม อย่าได้โกรธ อย่าได้แค้น อย่าได้ห่วง อย่าได้ยึดติดในสิ่งใด ๆ  สิ่งที่มี คือความว่างเปล่า ความว่างเปล่าแท้จริงแล้วมีทุกสิ่ง อยู่ที่จิตกำหนดให้มีหรือไม่มี ที่สุดกรรมดีและกรรมชั่วเท่านั้นเป็นสิ่งนำไปสู่ภพภูมิใหม่ ให้ละวางเสีย  และข้าพเจ้าได้ขยับคฑา รถน้ำมนต์ ให้ทุกดวงวิญญาณไปสู่ภพที่ดี หลุดพ้นจากบ่วงกรรม และกล่าวว่า “สถานที่แห่งนี้ก็ขอให้หยุดเอาชีวิตผู้คนแต่เพียงเท่านี้”

                 ลำดับต่อมา ข้าพเจ้าได้ไปโปรดเหล่าดวงวิญญาณทั้งหลายทั่วปฐพีนี้ ได้เทศนาธรรม และได้ให้น้ำมนต์เพื่อให้ได้รับผลบุญ และหลุดพ้นจากบ่วงกรรม ดวงวิญญาณ สัมภเวสีทุกดวงต่างก้มกราบขอบคุณ และจากไป

                ลำดับต่อมา ข้าพเจ้าได้ลงไปใน ขุมอเวจีพิเศษ เป็นที่อยู่ของเหล่าอสูรกายทั้งหลาย ก็ได้เทศนาธรรม และให้ผลบุญไปทั่วกัน

 

                ลำดับต่อมา ได้ไปในนรกขุมต่าง ๆ ได้เทศนาธรรม และให้ผลบุญไปทั่วกัน  จากนั้นข้าพเจ้าได้ไปขุมอเวจี เห็นเหล่าหมอผีมากมายที่กระทำต่อข้าพเจ้าอยู่ในกระทะทองแดงที่ใหญ่โตมาก ต่างร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด  ข้าพเจ้าบอกว่า “ยังไม่ถึงเวลาจะโปรดสัตว์ เนื่องด้วยผลแห่งกรรมที่กระทำต่อเรานี้ยังต้องรับกรรมไปอีกนานแสนนาน เมื่อถึงเวลา เราจึงจะมาโปรดอีกครั้ง”

 

                ลำดับต่อมา ได้โปรดบริวารท่านยมบาลทั้งหลาย ให้ได้รับผลบุญ และได้คุยกับท่านยมบาล  ทั้งนี้ได้บอกท่านยมบาลว่า ท่านยังคงต้องเหนื่อยอีก ด้วยภารกิจเรานี้ยังไม่สิ้นสุด ยังต้องรบกวนท่านอีกมาก  ท่านจะอยู่ในตำแหน่งยมบาลจนกระทั่งเราสิ้นสุดชาติภพนี้ จึงจะมีการเปลี่ยนตำแหน่งนี้ใหม่ ท่านยมบาลก็เข้าใจตามนี้

                 ลำดับต่อมา ข้าพเจ้าได้เหาะขึ้นไปสวรรค์ ได้โปรดเหล่าเทวดา ซึ่งมากันมากมายทุกชั้น ต่างสวมชุดนั่งกันเป็นกลุ่ม พนมมือฟังธรรมอย่างเป็นระเบียบ เรียบร้อย ไม่มีเครื่องประดับใด ๆ ก็ได้มานั่งฟังเทศนาธรรมจากข้าพเจ้า ทั้งนี้ข้าพเจ้าได้เทศนาธรรม  เหล่าเทวดาทั้งหลายนี้ได้สร้างกรรมดีมาพอสมควร จึงได้มาเสวยสุขในชั้นนี้ หากผู้ใดอยากเกิดเป็นมนุษย์เพื่อสร้างผลบุญเพิ่ม และเกิดในชั้น     ที่ดีกว่านี้ เรานี้ก็ยินดี  หรือหากใครอยากสร้างผลบุญขณะเป็นเทวดา เพื่อไม่ต้องการไปเกิดอีก ก็แล้วแต่ทุกท่านจะเลือกพิจารณากันเอาเอง  จากนั้นจึงให้ผลบุญโดยทั่วไป

 

                ลำดับต่อไป ข้าพเจ้าได้ขึ้นไปยังชั้นพรหม  เหล่าพรหมมากมายแต่งกายชุดขาวล้วน นั่งพนมมือรอข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าก็ได้เทศนาธรรม และได้ให้ผลบุญโดยทั่วกัน

 

                ลำดับต่อไป เหล่าพญานาคและบริวารทั้งหลาย เนรมิตร่างเป็นคน แต่งกายชุดขาวล้วน มากันทั้งหมด นั่งพนมมืออย่างเป็นระเบียบ ข้าพเจ้าจึงเริ่มเทศนา  ทุกท่านในที่นี้ต่างสร้างสมบุญ เจริญบารีมามากจึงสามารถมีอิทธิฤทธิ์ได้มากมายดั่งทุกวันนี้ หากพญานาคตนใดอยากจะไปเกิดเป็นมนุษย์เพื่อสร้างผลบุญไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่านี้ เรานี้ก็ยินดี หากผู้ใดอยากอยู่เช่นนี้ตลอดไปก็ได้เช่นเดียวกัน  จากนั้นจึงได้ให้ผลบุญโดยทั่วกัน

 

                ขณะกำลังเหาะไปอีกที่ ได้พบหัวหน้าอสูรกาย  ร่างกายเป็นคน มีเขาใหญ่ 2 ข้าง คล้ายซาตาน ตัวใหญ่มหึมาเท่าบ้าน ใส่ผ้าคลุมสีดำหุ้มกาย  ยืนอยู่เบื้องหน้าข้าพเจ้าและยิ้มแบบท้าทาย พร้อมว่า เจอกันอีกทีตอนปี …. (ซึ่งเป็นปีที่เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่)  ถึงเวลานั้นค่อยมาถล่มกันอีกครั้ง  ข้าพเจ้าตอบว่า “ได้  แล้วเจอกัน

 

                ลำดับต่อมา องค์พระศิวะ  พระแม่อุมาเทวี พระพรหม และพระนารายณ์ ได้มาเข้าพบ ข้าพเจ้าได้เทศนาธรรมและพูดคุย ว่าทุกท่านนี้ยังคงอยู่ดั่งนี้ไปตลอดกาลนาน มิได้เปลี่ยนชาติเปลี่ยนภพอีก ก็ขอให้ทุกท่านจงทำหน้าที่ของตนเองต่อไป ช่วยเหลือมวลมนุษย์ต่อไป เพื่อเป็นผลบุญต่อทุกท่านเอง  จากนั้นทุกองค์ได้ยกมือไหว้ขอบคุณ และข้าพเจ้าได้ให้ผลบุญทุกองค์

 

                ลำดับต่อมา ข้าพเจ้าได้เดินทางไปพบพระแม่กาลิบ เห็นว่ากำลังทำงานยุ่งมาก เมื่อพระแม่เห็นข้าพเจ้าก็ได้ยกมือไหว้

พระแม่กาลิบ : สวัสดีค่ะองค์ท่าน 

ข้าพเจ้า  : เป็นไง เรียกระดมคนถึงไหนแล้ว

พระแม่กาลิบ :  เหลืออีก 10 ส่วนเท่านั้นเจ้าค่ะ   

ข้าพเจ้า :  เออดี เรานี้รออยู่  ก็ขอให้ท่านทำงานอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มผลบุญของท่านเอง จากนั้นจึงได้ให้ผลบุญพระแม่กาลิบ

พระแม่ :  ยกมือไหว้พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าค่ะ

 

ลำดับต่อมา ขณะจะเดินทางกลับ ได้พบพระแม่กวนอิม และพระพุทธองค์ จึงได้ก้มลงกราบองค์ท่าน พระพุทธองค์และพระแม่ กล่าวว่า ใกล้ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะได้เห็นพระแม่กวนอิม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ เพื่อจะได้เริ่มปฏิบัติงาน  จากนั้นพระแม่ได้ให้แสงสว่างดวงใหญ่เข้าสู่ร่างกายข้าพเจ้า   

ข้าพเจ้ากล่าวขอบคุณองค์ท่านและบอกว่า ลูกจะทำหน้าที่ตามพระบัญชาของพระพุทธองค์ และพระแม่ให้ดีที่สุด ไม่ว่าวันข้างหน้าจะมีอุปสรรคมากมายเพียงใด เหนื่อยยากแค่ไหน ลูกจะไม่ย่อท้อ จะทำหน้าที่จนวันตายให้ดีที่สุด

จากนั้นพระแม่ได้เข้ามาประทับที่หน้าผากข้าพเจ้า เหนือดวงตาทิพย์เพียงเล็กน้อย  แล้วข้าพเจ้าก็กราบลาพระพุทธองค์

ขณะเดินทางกลับ องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วมารับไปเที่ยวสรวงสวรรค์มีการจัดงานฉลองครั้งใหญ่ เพื่อเฉลิมฉลองให้ข้าพเจ้าที่ข้าพเจ้ากำลังจะได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ องค์ท่านโอบไหล่ข้าพเจ้าร่วมงานในครั้งนี้อย่างสนุกสนาน  องค์พระพิฆเนศเต้นระบำอย่างงดงามและสนุกสนาน องค์นาจามีการแสดงพ่นไฟ  ทุกองค์มาร่วมกันหมด  เซียงน้อยตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว  เสร็จจากงานฉลอง จึงได้เดินทางกลับพร้อมองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว


จากนั้นระหว่างทางกลับ ได้เห็นว่า น้ำจากทะเลทั้ง 2 ฝั่งกำลังมีคลื่นแรง เตรียมการพร้อมที่จะซัดเข้ามาแล้วภายหลังจากสิ้นสุดการออกมาของมวลชน จากนั้นข้าพเจ้าจึงกลับเข้าร่างและออกจากสมาธิในเวลา  00.47 น.


 


ภาพตัวอย่างซาตาน จ้าวแห่งอสูรกายมาท้ารบในปี ….. ลักษณะ   คล้าย ๆ แบบนี้ แต่หน้าดุดันกว่านี้  ใส่เสื้อคลุมสีดำ    



                  ในระหว่างช่วงที่ทำสงครามกับมหาซาตานมนุษย์ทุกผู้ทุกคนจะได้มีโอกาสเห็นเหล่าปีศาจ อสูรกาย ภูตผีวิญญาณต่าง ๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่แห่งหนใด ก็จะเห็นได้ แต่เห็นแล้วใครจะมีชีวิตรอดได้หรือไม่นั้น สุดแต่บุญและกรรมของแต่ละคน  เพราะเมื่อใดที่ใครเห็นปีศาจ เห็นวิญญาณได้  สิ่งเหล่านี้ก็เห็นคนนั้นได้ และสามารถทำร้ายร่างกาย หรือดวงจิตแต่ละคนได้ ด้วยอำนาจแห่งปีศาจนั้น ๆ เวลานี้เหล่ากองทัพปีศาจมีอยู่มากมายบนโลกใบนี้ แม้ประเทศไทยก็มีทั่วทุกภาค แต่คงมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเห็นได้ในเวลานี้



ภาพตัวอย่างจาก internet งานฉลองแห่งสรวงสวรรค์ คล้าย ๆ ดั่งนี้ แต่กว่านี้ เนื่องด้วยมีนางฟ้า เทวดา เทพ พรหมต่าง ๆ ร่วมงาน อีกทั้งมีร้านค้าขายของมากมาย มีสวนสนุก สระน้ำวน ของเล่นสำหรับองค์เด็ก ๆ อยู่ทั้งด้านข้าง และด้างหลัง

 


ภาพพระแม่กวนอิมให้ลำแสงเพื่อให้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทรงประทับที่หน้าผากข้าพเจ้าในเวลานี้

 

พระแม่ชี้แจ้ง ข้าพเจ้าเหยียบภพที่ 3 แล้ว

 

วันพุธที่ 2 กันยายน   พ.ศ. 2558 

เช้านี้ตื่นมา นั่งพิจารณาแล้วรู้ว่าตนเองเหยียบภพที่ 3 แล้ว เมื่อถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้งถูกต้องแล้ว

 

นิมิตดวงตาทิพย์ หมอผีอีก 3 คนยังคงทำคุณไสยกระทำต่อข้าพเจ้า

 

วันพุธที่ 2 กันยายน   พ.ศ. 2558 

ก่อนตื่นนอนเช้านี้ ได้เห็นว่า มีของคุณไสย ลักษณะคล้ายปลาตะเพียน ขนาดเท่าฝ่ามือ มีไข่ลักษณะเหมือนไข่จิ้งจก ฝังอยู่ตามตัวข้าพเจ้า และรอบ ๆ บ้าน ข้าพเจ้าได้ดึงออกจนหมดสิ้น และทุกคนในบ้านช่วยกันเอาน้ำล้างจนหมด  จากนั้นองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว  ได้สร้างม่านกำบังให้ข้าพเจ้าเพิ่มอีก และข้าพเจ้าก็ได้สร้างเพิ่มด้วยเช่นกัน จึงปลอดภัย และได้เห็นว่าของเหล่านั้นกลับเข้าไปที่ร่างกายของคนทำ เห็นว่าเลื้อยเข้าไปทางท้ายทอยอย่างสยดสยอง  ในเวลานี้ข้าพเจ้าเห็นได้ ภายในร่างกายของคนทำนี้มีแต่ของคุณไสยชนิดต่าง ๆ มากมายยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เห็นแล้วอยากอาเจียน

พระแม่ชี้แจ้ง ทุกครั้งที่มีการทำคุณไสย ของเหล่านี้จะกลับเข้าสู่ร่างของผู้ทำแทน หาก หมอผีกระทำการไม่สำเร็จ  ในที่นี้เป็นหมอผีระดับปลายแถว รังแต่จะสร้างความจุกจิกเท่านั้น วันนี้  พระแม่ให้ข้าพเจ้าอยู่บ้าน ให้อากงไปอยู่ที่ร้านแทน


 

ถล่มหมอผีที่เหลือ หลวงปู่โตฯมาห้ามไว้

 

วันพุธที่ 2 กันยายน   พ.ศ. 2558 

ค่ำนี้อาบน้ำเสร็จ ขณะใส่ครีมบำรุงหน้าในเวลา 19.10 น. ครั้นพอเห็นใบหน้าตนเองยังคงแดงเล็กน้อย ให้รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก เนื่องด้วยโดนทำร้ายมาเกือบ 2 ปีแล้ว จึงได้ชวนท่านพี่ แยกร่างออกไปกำจัดหมอผีที่เหลือให้สิ้นซาก  มีเหล่าหมอผีกำลังทำพิธีในป่า  ในถ้ำ ในวัด ในอาศรม  ข้าพเจ้าและองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว เข้าไปกำจัดจนหมดสิ้น กระทั่งไปพบเณรบวชใหม่ กำลังหัดศึกษาวิชาคุณไสย เห็นแล้วให้อารมณ์เสียอย่างมาก จึงได้ใช้คฑาฟาดไปหลายที  และกล่าวว่า “เป็นเณรบวชใหม่ ริอาจจะฝึกวิชาชั่วช้า หรืออยากจะตกนรกหมกไหม้ ให้หยุดกระทำเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นเราจะไม่ไว้ชีวิตเจ้า “ เณรดังกล่าวเกิดความกลัวอย่างมาก และได้รีบกราบขอโทษ 

จากนั้นได้พบพระรูปหนึ่งเป็นเจ้าอาวาส กำลังจะทำพิธีในอาศรม ข้าพเจ้าได้เข้าไปฟาดด้วยคฑา ทันใดนั้น หลวงปู่โตฯ ได้ปรากฏเบื้องหน้า และบอกว่า พอแล้ว หยุดก่อนเถอะ  คนเหล่านี้ยังรู้จักสำนึกผิดได้ ปล่อยไปเถอะ  ข้าพเจ้าจึงหยุดทุกอย่าง และกล่าวขอบคุณหลวงปู่ที่มาเตือนสติ  พระแม่บอกว่า ใจเย็น ๆ น้องสาว คนที่ฆ่าแล้วก็ถึงแก่วาระทั้งสิ้น  ที่เหลือไม่มีพิษภัยแล้ว ไว้วันหลังใช้กฎหมายจัดการ  ข้าพเจ้าได้ให้บุญกับเหล่าวิญญาณคุณไสย ที่ได้หลุดพ้นจากอำนาจหมอผี 


ข้าพเจ้าได้ชวนองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว และหลวงปู่กลับ  หลวงปู่ก็ยิ้ม ๆ และเดินทางกลับบ้าน   พร้อมกัน  ข้าพเจ้าจึงได้ขออภัยต่อพระแม่ เนื่องด้วยอารมณ์ร้อนเกินไป  พระแม่บอกว่าไม่เป็นไร

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว บอกว่า เวลานี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปจัดการหมอผีที่เหลือให้อยู่อย่างสงบแล้ว เพราะเกรงว่าข้าพเจ้าจะไปฆ่าทิ้งหมดเสียก่อน


 

พระแม่ให้รู้ถึงความรักที่มีต่อกัน ระหว่างองค์หญิงไป๋ทู่และราชบุตรเขยแห่งสรวงสวรรค์

 

วันพุธที่ 2 กันยายน   พ.ศ. 2558 

ค่ำนี้ขณะกำลังนอนหลับ ได้มีนิมิตเกี่ยวกับราชบุตรเขยแห่งสรวงสวรรค์  ซึ่งพระแม่ชี้แจ้ง    พระแม่ต้องการให้ข้าพเจ้าในร่างอดีตชาติขององค์หญิงไป๋ทู่ ให้รับรู้ถึงความผูกพันของทั้งสองอย่างแท้จริงที่มี ให้รู้ว่าทั้งสองนั้นรักกันมากเพียงใด 

องค์หญิงไป๋ทู่และราชบุตรเขยแห่งสรวงสวรรค์ ต่างรับรู้ได้ว่า เราทั้งคู่ต่างรักกันมากในทุกชาติที่ผ่านมา ไม่สามารถพรากจากกันได้แม้เพียงเสี้ยววินาที  และอยู่ด้วยกัน และรักกันบนสรวงสรรค์ตลอดกาล

                ในเวลานี้ ภายในร่างกายข้าพเจ้ามีแต่ลูกแก้วใส ๆ และพระธาตุเต็มไปหมด ข้าพเจ้าสื่อสารทางจิตได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยหรืออึดอัดหน้าอกอีก เพราะพลังในตัวข้าพเจ้าเริ่มมีมากขึ้น แต่ก่อนหน้านี้การสื่อสารกับองค์ท่านเป็นเวลานาน ๆ ข้าพเจ้าจะรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ค่อยสะดวกนักและอ่อนเพลีย  อีก ไม่นานนี้ข้าพเจ้าจะได้อยู่ร่วมกันองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วดั่งมนุษย์ และได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์เป็นลำดับต่อไป


 

อดีตชาติเจ้าปุกปุย คืออัครมหาเสนาบดีที่เสนออุบายสั่งฆ่าองค์หญิงไป๋ทู่

 

วันศุกร์ที่ 4  กันยายน   พ.ศ. 2558 

ขณะนั่งสวดมนต์ที่ร้านในเวลา 9.50 น. เมื่อสวดมนต์บทสุดท้าย จิตได้เพ่งที่เจ้าปุกปุยที่อยู่ที่บ้าน ได้เห็นหน้าของชายวัย 50-60 กว่ารูปหน้ายาว มีโหนกแก้ม หน้าตาดูเศร้า ปรากฏเหนือหัวเจ้าปุกปุย ข้าพเจ้าเพ่งอยู่นาน และจำได้ว่าเหมือนจะเคยเห็นหน้าผู้ชายคนนี้ที่ไหนมาก่อน สักพัก ชายคนดังกล่าวได้มีหนวดเคราปรากฏ และเปลี่ยนการแต่งกายเป็นชุดขุนนางสมัยแต่ก่อน ใส่ชุดสีฟ้า ใส่หมวกสีดำ  ข้าพเจ้าจึงนึกได้ทันทีว่า

อ้อ ที่แท้ก็คืออัครมหาเสนาบดีในชาติที่แล้วที่ตามล่าฆ่าองค์หญิงไป๋ทู่นี่เอง ภายหลังจากหมดชาติภพนั้น ชายคนนี้ได้ลงอเวจีตกกระทะทองแดง กว่า 5,00 ปีของนรกภูมิ (เวลาอาจไม่ตรงกับในภพมนุษย์) ซึ่งไม่นับรวมขุมอื่น ๆ บัดนี้ได้กลับชาติมาเกิดเป็นสุนัข เป็นเจ้าปุกปุยเพื่อมาขออโหสิกรรมต่อข้าพเจ้า  

พระแม่ชี้แจ้ง อัครเสนาบดีนี้ คือผู้ที่คิดแผนเสนอต่อสนมต๋าจี ให้ฆ่าองค์หญิงไป๋ทู่เสีย และตามล่าตลอดจนฆ่าได้สำเร็จ จากนั้นจึงได้บอกต่อพระแม่ว่า ขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้นทั้งปวง ที่เหลือก็สุดแล้วแต่กรรมของเขาเอง เจ้าปุกปุยนี่กลิ่นเหม็นสาบมาก เหม็นสาบจากกรรมที่ติดมา


 

ภาพตัวอย่างอดีตชาติเจ้าปุกปุย เห็นจากดวงตาทิพย์ ขอนำภาพตัวอย่าง     ขุนนางจาก

 

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว บอกว่า ในชาติที่แล้วหลังจากองค์หญิงไป๋ทู่ตายไป ราชบุตรเขยทั้งโกรธและเกลียดอัครมหาเสนาบดีนี้มาก อยากจะฆ่าล้างแค้นก็ทำไม่ได้ เนื่องด้วยอำนาจมีไม่พอ และด้วยความที่ทำใจไม่ได้ที่คนรักที่สุดจากไป สุดท้ายจึงตรอมใจตายตาม

และได้บอกอีกว่า ชาติที่เกิดเป็นฌ้อปาอ๋อง ในขณะที่องค์หญิงไป๋ทู่ (ข้าพเจ้า) เกิดเป็นสนมหยูจี ขณะสนมหยูจีใช้ดาบเชือดคอตนเองตาย  ในเวลานั้นตัวเขาได้หัวใจสลายทันที ได้พยายามฝ่าวงล้อมของหลิวปังจนสำเร็จ เหลือทหารไม่กี่นายที่ข้ามฟากไป ส่วนตัวเขานั้น ไม่ได้คิดถึงศักดิ์ศรีอะไรแต่อย่างใด แต่ด้วยหัวใจที่สลายที่คนรักตายจากไป ไม่รู้จะอยู่เพื่อใครได้อีก ไม่อาจทำใจได้ จึงได้ใช้ดาบเชือดคอตายตามที่ริมแม่น้ำ



พระแม่ทำตาทิพย์ให้มีอิทธิฤทธิ์

 

วันศุกร์ที่ 4  กันยายน   พ.ศ. 2558 

ขณะกำลังดูข่าวเวลา 11.59 น. กำลังหลับตาเพื่อจะพักสายตา ให้รู้ได้ว่าพระแม่กำลังทำตาทิพย์ให้บางอย่าง กระทั่งข้าพเจ้าส่ายศีรษะไปมาอย่างรวดเร็ว  ท่านพี่บอกให้อยู่นิ่ง ๆ พระแม่กำลังทำตาทิพย์ให้อยู่  ข้าพเจ้าบอกว่า พยายามแล้ว องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว จึงบอกว่า เดี๋ยวจับหัวให้  แล้วพระแม่ก็ทำตาทิพย์ต่อจนเสร็จ

ข้าพเจ้าเห็นภาพพระแม่ทำตาทิพย์เหมือนเอามีดกรีดเป็นวงกลม มีแสงสีเหลืองนวลล้อมรอบตาทิพย์  ตาทิพย์สามารถปล่อยพลังเป็นแสงออกมาได้  พระแม่บอกว่าอีก 2 วัน ตาทิพย์จึงจะแห้ง จึงจะสามารถใช้งานได้

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว บอกว่าตาทิพย์ครั้งนี้ สามารถปล่อยลำแสง ให้เกิดระเบิดได้ สำหรับต่อกรกับเหล่าอสูร และร่างแยกอสูร ในกายข้าพเจ้านี้ รวมถึงอิทธิฤทธิ์ทั้งหมดทั้งมวล องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วเป็นผู้สร้างและประทานให้ข้าพเจ้าทั้งสิ้น แต่รอให้พระแม่เป็นผู้เปิดใช้เท่านั้น


 

 


ภาพตัวอย่างดวงตาทิพย์ที่พระแม่ทำเพิ่มให้ สำหรับปล่อยแสงระเบิดได้


 

ดวงวิญญาณมาขอความช่วยเหลือ มาขอบุญกับข้าพเจ้า

 

วันอาทิตย์ที่ 6  กันยายน   พ.ศ. 2558 

เช้านี้ขณะนอนเล่นกับองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว   หลายวันมานี้ข้าพเจ้ามีน้ำมูกข้นตลอด ทานยามาหลายวันก็ไม่มีท่าทีจะหายได้  องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว   เห็นว่ามีตัวของคุณไสยคล้ายจิ้งเหลน อยู่ภายในจมูกข้าพเจ้า 3-4 ตัว จึงได้จัดการดึงหางออกมา และฆ่าทิ้งเสียทุกตัว และได้นำมูลจิ้งเหลนออกจากจมูกข้าพเจ้า จนทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกหายใจสะดวกขึ้น ขณะกำลังคุยเล่นกันอยู่นั้น ได้เห็นมีดวงตาข้างหนึ่งแอบมองมาทางข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงถามองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว   ว่า มีใครมาแอบมองดูเรา ท่านพี่เห็นไหม      องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว   บอกว่า เห็น

 ข้าพเจ้าจึงถามว่า “ใครอยู่ตรงนั้น ออกมาเถอะ มีอะไรก็ว่ามา”

วิญญาณที่ปรากฏนั้นประสบอุบัติเหตุ หน้าหายไปครึ่งซีกซ้ายทั้งสมอง  เหลือเพียงซีกเดียว จึงมีเพียงตาเดียว ได้ปรากฏตัวและบอกว่า

วิญญาณ : คือกระผมอยากมาขอความช่วยเหลือจากท่าน อยากขอให้ท่านให้บุญหน่อย      พวกกระผมทั้งหนาวทั้งหิวเหลือเกิน ตายมานานแล้ว

ข้าพเจ้า : เป็นอะไรตายล่ะ

วิญญาณ : รถชนตาย รถทัวร์ตกเหว คราวที่แล้วองค์ท่านไปช่วยรถทัวร์ คันสีฟ้า  จึงอยากให้ท่านช่วยพวกกระผมหน่อยคร้าบ

ข้าพเจ้า : เอาสิ  นำทางเราไปสิ   จากนั้นได้ไปพบรถทัวร์สีแดงที่คว่ำซึ่งมีคนตายหลายคน  จึงได้ให้บุญไป และได้ไปที่รถทัวร์คว่ำอีกที่เป็นเหวลึกมาก มีรถทัวร์เคยตกลงไปหลายคันแล้ว จึงได้ให้บุญ จากนั้นข้าพเจ้าเดินทางกลับมาถึงลานหน้าบ้านพร้อมดวงวิญญาณดังกล่าว  ข้าพเจ้าจึงบอกว่า เอาล่ะเสร็จแล้วนะ

วิญญาณ :  กุมมือ โน้มตัว ตอบด้วยความนอบน้อม  และยิ้มนิด ๆ  ว่า ยังเหลือกระผมอีกขอรับ  กระผมยังไม่ได้รับบุญเลยขอรับ

ข้าพเจ้า : มองไปและหัวเราะ  เอ่อ ใช่  ลืมไป จะให้บุญเดี๋ยวนี้แหละ  จึงได้ขยับคฑาและให้บุญไป  ให้ไปดีมีสุข  หลุดพ้นจากบ่วงกรรม

วิญญาณ : ขอบคุณขอรับ พร้อมกับยิ้ม ๆ และได้ลอยจากไปทางหน้าบ้าน

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว   บอกว่า ยังคงจะมีวิญญาณอีกมากมายที่จะมาขอส่วนบุญจากข้าพเจ้า

เมื่อมองดูเหตุการณ์ย้อนหลัง จึงพบว่า วิญญาณเหล่านี้ได้ปรึกษาหารือกันว่า วิญญาณรถทัวร์คันสีฟ้าที่คว่ำองค์ท่านช่วยให้บุญไปเกิดหมด เราน่าจะลองไปขอองค์ท่านให้ช่วยดู องค์ท่านใจดี มีเมตตาสูง จึงได้ส่งตัวแทนวิญญาณมาหาที่ลานหน้าบ้าน

ทั้งนี้องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว   บอกว่า สวรรค์จะเริ่มปฏิบัติงานในคืนนี้

                วันนี้องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว   ต้องรีบเคลียร์งานหลายอย่าง




ภาพตัวอย่าง


 

ได้ยินเสียงและทักทายเหล่าเทวดา เจ้าที่เจ้าทางตลอดทาง

 

วันจันทร์ที่ 7  กันยายน   พ.ศ. 2558 

2-3 วันมานี้ เวลาที่ข้าพเจ้าเดินทางไปร้าน มักจะได้ยินเสียงเจ้าที่ตามศาลแต่ละบ้าน เทวดาก็ดี เมื่อข้าพเจ้าเดินผ่านบ้านหลังใด ก็จะได้ยินเสียงทักทายว่า  “หวัดดีค้าบ  หวัดดีค่ะ”  ข้าพเจ้าจะตอบกลับทางจิตว่า “หวัดดีจ้า” ตลอดทาง  วันนี้เดินทางกลับจากร้าน เพราะอากงจะขี่รถจักรยานยนต์มารับข้าพเจ้ากลับบ้านที่หน้าตลาด ข้าพเจ้าจะเดินไปเรื่อย ๆ ระหว่างทางเจ้าที่เจ้าทางจะคอยดูรถด้านหลังให้  และจะคุยทักทายตลอดทาง 

อีกทั้งข้าพเจ้าต้องการติดประกาศขายบ้าน  เจ้าที่เจ้าทาง ดวงวิญญาณทั้งหลายทั้งในหมู่บ้าน ตลอดจนถึงภายนอกหมู่บ้านทั้งหมดต่างไม่ยอมให้ข้าพเจ้าขายบ้าน ถ้าข้าพเจ้าติดประกาศก็จะทำให้คนมองไม่เห็น ไม่อยากซื้อบ้านข้าพเจ้า เพราะต้องการให้ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่ เพื่อจะได้ขอรับศีล รับพรจากข้าพเจ้าได้

 

 

เสียงสวดมนต์ได้รับศีลรับพรทั่วทั้ง 3 ภพ ให้บุญครั้งใหญ่

 

วันอังคารที่ 8  กันยายน   พ.ศ. 2558 

เช้านี้สวดมนต์ทำน้ำมนต์ที่ลานหน้าบ้าน เมื่อข้าพเจ้ากำลังจะเริ่มสวด  เจ้าที่เจ้าทาง เทวดา วิญญาณทั้งหลายต่างมานั่งพับเพียบพนมมือที่บริเวณหน้าบ้าน และทั่วหมู่บ้าน ดวงวิญญาณ เจ้าที่     เจ้าทางอยู่ชั้นล่าง ชั้นบนเป็นเทวดา พหรม เทพต่าง ๆ นั่งกันเป็นลำดับชั้นขึ้นไป เพื่อรับศีลรับพรจากข้าพเจ้า  เมื่อข้าพเจ้าสวดเสร็จต่างก็กล่าวคำ “สาธุ” และกราบลา

เมื่อไปเปิดร้าน เช้านี้ข้าพเจ้าสวดมนต์ที่ร้าน สวด 5 บทของพระแม่ ขณะสวดรู้ได้ว่าเสียง   สวดมนต์ข้าพเจ้าดังก้องไปทั่วทั้ง 3 ภพ 

ภพเบื้องบนยกเว้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์  เหล่าเทวดา พรหมทุกชั้นสวมชุดสีขาวล้วน ไม่มีเครื่องประดับใด ๆ ต่างนั่งพนมรับศีลรับพรอย่างเป็นระเบียบ

ภพมนุษย์ เจ้าที่เจ้าทาง ดวงวิญญาณ สัมภเวสี วิญญาณคุณไสย บรรพบุรุษอดีตกาล เสือสมิง ทั้งหลายทั้งมวล ต่างนั่งพับเพียบพนมมือรับศีลรับพรอย่างเป็นระเบียบทั่วทั้งภพ ไกลสุดลูกหูลูกตา

ภพนรกภูมิ เมื่อได้ยินเสียงสวดมนต์ต่างหยุดกระทำการลงโทษ  บริวารท่านยมบาลนั่งพนมมือรับศีลรับพร  รวมถึงเหล่าสัตว์นรกทุกขุม  นรกโลกันต์ รวมถึงขุมพิเศษอสูรกายต่างได้รับศีลรับพรทั้งหมดทั้งมวล

ขณะสวดมนต์ศีลที่ข้าพเจ้าส่งไปแต่ละภพนั้น จะเป็นแสงสีทองโปรยลงไปทั่วดั่งฝนปรอย ๆ ระยิบระยับให้เป็นที่ชุ่มช่ำ เย็นใจ


ภายหลังสวดเสร็จได้เทศนาธรรมเล็กน้อย  ทั้ง 3 ภพต่างกล่าวคำ “สาธุ” และได้กราบลาข้าพเจ้าโดยพร้อมเพรียงกัน

 


ข้าพเจ้าสามารถได้ยิน และสนทนาทางจิตกับสัตว์ และรูปปั้นตามสถานที่ต่าง ๆ ได้

 

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน   พ.ศ. 2558 

เช้านี้อารมณ์ไม่ค่อยแจ่มใส พระแม่ชี้แจ้ง หากข้าพเจ้าอารมณ์ไม่แจ่มใส ทั้ง 3 ภพจะมีอารมณ์ไม่แจ่มใสตามข้าพเจ้า  ดังนั้น ตลอดทางตั้งแต่หน้าบ้านถึงร้าน จึงไม่มีเจ้าที่หรือองค์ใดกล้าทักทาย     ต่างจะบอกว่า วันนี้ดูองค์ท่านอารมณ์ไม่ค่อยดีนะ

ตอนเย็นอารมณ์ดีขึ้นบ้าง เจ้าที่ต่าง ๆ จึงทักทายเหมือนเดิม ตลอดทางได้ทักทาย รูปปั้นองค์   ปี่เซียะ  รูปปั้นเสือ รูปปั้นช้าง  และได้ทักทายมด แมลง   ต่าง ๆ ได้

ขณะทักทายรูปปั้นเสือ

เสือ : หวัดดีค้าบ (เสียงแหบ ๆ เสียงผู้ชายอายุมากแล้วทักทาย)

ข้าพเจ้า : หันไปมอง และถามว่า เสือทักทายเหรอ

เสือ : ใช่แล้วคาบ

ข้าพเจ้า : ยืนงง  และถามว่า เสือพูดภาษามนุษย์ได้ด้วยเหรอ

เสือ : ได้ค้าบ

ข้าพเจ้า : ดูจะอายุเยอะแล้วนะ

เสือ : ค้าบ   อยู่มานานแล้วคาบ

จากนั้นได้ยินเสียงเด็ก ๆ เรียกทักทาย  หวัดดีฮับ

ข้าพเจ้า : หันไปมองใครทักเอ่ย

รูปปั้นช้างน้อย : ผมฮับ

ข้าพเจ้า : อ่อ จ้า หวัดดีจ้า

จากนั้นได้พบรูปปั้นองค์ปี่เซียะ

ปี่เชียะ  : หวัดดีค้าบ  (เสียงใสวัยรุ่นหนุ่ม)

ข้าพเจ้า  : หวัดดีจ้า วันก่อนที่ทักมาใช่องค์ปี่เชียะหรือเปล่า

ปี่เชียะ : ใช่แล้วค้าบ

 

ทั้งนี้พระแม่ชี้แจ้ง  รูปปั้นตามสถานที่ต่าง ๆ ได้มีองค์ทั่ว ๆ ไปประทับอยู่ ข้าพเจ้าจึงสามารถได้ยินเสียงทักทายได้


 

นิมิตดวงตาทิพย์ องค์พระอิศวร ลงมาบัญชาการที่ภพมนุษย์

 

วันเสาร์ที่ 12 กันยายน   พ.ศ. 2558 

ค่ำนี้ก่อนนอน ได้นิมิตเห็น องค์หนึ่ง มีบารมีเจิดจรัส มีแสงออร่าสีขาวล้อมรอบ มวยผมรวบ   ขึ้นสูง ใส่เสื้อสีขาว กางเกงคล้ายกางเกงราชประแตนไทย สีเทา กำลังเดินลงมาจากเบื้องบน

พระแม่ชี้แจ้ง คือองค์พระอิศวร (พระพิรุณ) ซึ่งเป็นปางหนึ่งขององค์พระศิวะ เวลานี้องค์ท่านได้ลงมาบัญชาการที่ภพมนุษย์   บัญชาการเหล่าเทวดา องค์ต่าง ๆ เจ้าที่เจ้าทาง วิญญาณทั้งหลาย เกี่ยวกับเหตุบ้านการเมือง โดยจะเริ่มปฏิบัติการในวันจันทร์ที่ 14 กันยายน นี้


 

 

ภาพตัวอย่างตัดแต่งจาก internet

 

ดวงตาทิพย์เห็นและได้ยิน สิ่งที่คิด ในใจ

 

วันอาทิตย์ที่ 13  กันยายน   พ.ศ. 2558 

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว   :  น้องหญิงที่รัก    งานสวรรค์ใกล้จะเริ่มแล้วนะ  ใกล้จะถล่มกันแล้วนะ ที่รัก รอพี่เตรียมงานให้เสร็จก่อน

ข้าพเจ้า :  รู้ค่ะ

จากนั้นได้เห็นพระแม่ลักษมี แต่งกายชุดไทย ห่มสไบสีชมพู หน้าตางดงามมาก ดวงตากลมโต 

พระแม่ชี้แจ้ง พระแม่ลักษมีลงมาทำงานตามพระบัญชาพระพุทธองค์และพระแม่กวนอิม

พระแม่ชี้แจ้ง ข้าพเจ้าเวลานี้สามารถได้ยินและเห็นสิ่งที่คนคิดในใจได้



 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

บันทึกปาฏิหาริย์ บทสวดมนต์พระแม่กวนอิม 1-23

ภาคบทสวดมนต์ พระแม่กวนอิม         บทสวดมนต์นี้ ข้าพเจ้าได้ฟังจากบทสวดและถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือ พร้อมกำหนดเสียงสูง ต่ำ ให้สอดคล้องกับบทสวด...