วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บันทึกปาฏิหาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์และนิมิตภัยพิบัติ 1-6

องค์หญิงองค์ชายเรียกอาม่า อยากกินโดรายากิ

 

วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เช้านี้หลังจากที่ข้าพเจ้าและอี๊เกียงมาเปิดร้านแล้ว อาม่าโทรมาบอกว่า วันนี้ขณะที่อาม่ากำลังจะเดินไปดื่มน้ำ รู้สึกได้ว่าเหมือนมีใครมาอยู่ข้างหลัง อาม่าได้ค่อย ๆ หันไปมองแต่ก็ไม่เห็นอะไร  จึงได้โทรมาหาข้าพเจ้า  และให้ข้าพเจ้าถามพระแม่ว่าเป็นองค์ใด  ข้าพเจ้าจึงได้ถามพระแม่ ซึ่งพระแม่ทรง    ชี้แจ้งว่า “องค์ที่อยู่ข้างหลังอาม่า คือองค์ชายองค์หญิง อีกทั้งแต่งองค์เป็นเทพ และกำลังเรียกอาม่า เพราะอยากให้อาม่าเอาขนมโดรายากิ ที่ข้าพเจ้าเย็บให้ มาให้องค์ชายองค์หญิงกิน”   (ข้าพเจ้าเย็บตุ๊กตาอุนจิ  และขนมโดรายากิ ให้องค์หญิง และเย็บตุ๊กตาปูให้องค์ชายเมื่อไม่นานมานี้ เย็บด้วยมือเนื่องด้วยใช้จักรไม่เป็น และไม่มีเงินซื้อจักรเย็บผ้า)

 


 


 

นิมิตสมาธิ พระราชวังแห่งใหม่ในภาพรวมทั้งหมด

 

วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ค่ำนี้ขณะที่กำลังนั่งสมาธิอยู่นั้น ได้เกิดนิมิตเห็นพระราชวังแห่งใหม่ในภาพรวมทั้งหมด ซึ่งจากที่หลายคืนก่อนนั้นได้เห็นเพียงบางส่วน และบางส่วนกำลังก่อสร้าง และคืนนี้พระแม่ได้ทรงให้มีนิมิตเห็นพระราชวังทั้งหมด โดยในนิมิต ข้าพเจ้ามองลงมาจากบนภูผาเห็นเมืองทั้งเมือง เป็นพระราชวังแบบของจีนโบราณและใหญ่โตสวยงามมาก  รุ่งขึ้นจึงได้ถามพระแม่  พระแม่ชี้แจ้งว่า “พระราชวังแห่งใหม่ที่จะสร้างในอนาคตนี้ เป็นรูปแบบของจีนสมัยก่อน ”

 

 

ภาพตัวอย่างพระราชวังแห่งใหม่ตามแบบของจีนสมัยโบราณ ลักษณะคล้าย ๆ กัน


 

หลวงพ่อโสธรมาหาข้าพเจ้า มาห่มผ้าให้ลูกสาว

 

วันพฤหัสบดีที่ 11  กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ค่ำคืนนี้ ข้าพเจ้าตัวชาตลอดคืน นอนหลับไม่ค่อยได้ จึงได้ตื่นมานั่งทำสมาธิแต่จิตไม่นิ่ง เนื่องจากไม่แน่ใจในภารกิจหลายๆอย่าง อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ไม่รู้ว่าจะประคองไปให้รอดฝั่งได้อีกนานแค่ไหน  สินค้าแพงขึ้นทุกวัน ดังนั้นจึงได้นอนในท่าสมาธิเพื่อจะได้หายชา ขณะราวตี 3 กว่า ช่วงที่ข้าพเจ้านั่งทำสมาธิอยู่นั้น ตามปกติอากงจะตื่นมาทำธุระส่วนตัวและห่มผ้าให้ลูกสาว และจะมีเสียงกระแอมเบา ๆ เล็กน้อยและเสียงฝีเท้าเสมอ 

คืนนี้ก็เช่นกัน ขณะที่ข้าพเจ้าหลับตาทำสมาธิอยู่นั้น ก็รู้สึกได้ว่า อากง คงจะตื่นขึ้นมาห่มผ้าให้ลูก และได้ยินเสียงกระแอมเบา ๆ เช่นเดิม จากนั้นก็รู้สึกได้ว่า เหมือนอากง จะหาที่นั่งขยับไปมา และมานั่งข้าง ๆ ข้าพเจ้า  สักพัก ทำให้ข้าพเจ้าสงสัยว่า ทำไมคืนนี้อากงไม่เปิดประตูไปเข้าห้องน้ำ และอากงมานั่งข้างข้าพเจ้า ทำไม  หรือจะเป็นอาม่า แต่อาม่า ปกติจะทำสมาธิบนเตียง  รู้สึกได้ว่าเป็นผู้ชาย ดังนั้นคงไม่ใช่อากง  จึงตัดสินใจว่า จะลืมตาขึ้นมาถามอากงว่า ทำอะไร ทำไมไม่ไปนอนต่อ   ขณะลืมตาและหันหน้าไปมองข้าง ๆ กลับปรากฏเพียงความมืดสลัวๆ และ ทุกคนหลับตามปกติ  ข้าพเจ้าเงยหน้ามองบนเตียงนอน เห็นอากง อาม่า กำลังหลับสบาย  ข้าพเจ้าจึงได้รู้ว่าคงเป็นองค์อย่างแน่นอน แต่ยังไม่ใจว่าองค์ใด

รุ่งเช้าจึงได้ถามพระแม่  พระแม่ทรงชี้แจ้งว่า “เมื่อคืนนี้หลวงพ่อ โสธรมาห่มผ้าให้ลูกสาว และมาหาข้าพเจ้า เพื่อจะบอกข้าพเจ้าว่า จะได้ปฏิบัติภารกิจแน่นอน”

 

ปาฏิหาริย์ อี๊เกียงได้ยินเสียงพระแม่กวนอิม

 

วันอาทิตย์ที่ 14  กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วันนี้หยุดร้านไปซื้อปลา และอุปกรณ์ตกแต่งบ่อปลา  ตั้งแต่เช้ากระทั่งถึงบ่าย ราวบ่าย 3 โมง ทุกคนเพลียกันมาก เด็ก ๆ ทุกคนจัดให้นั่งเล่นคอมพิวเตอร์ที่ลานหน้าบ้าน  อากงนั่งหลับที่เก้าอี้ตรงลานหน้าบ้าน ข้าพเจ้าและอาม่าเข้าไปนอนอยู่ในห้อง ส่วนอี๊เกียงเดินไปพับผ้าที่ทางเดินข้างบ้าน ขณะนั้นอี๊เกียงได้ยินเสียงเหมือนเสียงข้าพเจ้า กำลังเดินออกจากประตูพอเห็นเด็ก ๆ ได้เปล่งเสียงพูดว่า “แหม ขนาดนี้เลยน๊า  อื้อ หืม ขนาดนี้กันเลยเหรอ (ประมาณว่า อะไรจะสุขปานนี้) ”  ซึ่งอี๊เกียงฟังแล้วแปลกใจ ในเมื่อเด็ก ๆ นั่งเล่นกันตั้งแต่เช้าทำไมข้าพเจ้าเพิ่งมาพูดเอาตอนนี้  อี๊เกียงจึงเดินมาที่ลานหน้าบ้านปรากฏว่า มีแต่  เด็ก    จึงได้เดินหาในห้องเห็นข้าพเจ้านอน นึกว่าข้าพเจ้าเพิ่งเข้าไปนอนจึงเรียกให้ตื่น แต่ข้าพเจ้าง่วงจัดลืมตาไม่ค่อยขึ้น อี๊เกียงเห็นสภาพแล้วจึงรู้ว่า คงไม่ใช่ข้าพเจ้าที่เป็นคนพูดแล้วอย่างแน่นอน จึงให้ข้าพเจ้าไปถามพระแม่  พระแม่จึงชี้แจ้งว่า “นั่นเป็นเสียงพูดของพระแม่เอง  และพระแม่ต้องการให้อี๊เกียงได้ยินเพียงผู้เดียว เพื่อให้อี๊เกียงเชื่อว่าภารกิจต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องจริงแน่นอน”

 



ทุกองค์ให้ข้าพเจ้าวาดภาพเหมือน

 

วันพฤหัสบดีที่ 18  กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เช้าตรู่ของวันนี้ข้าพเจ้าตื่นนอนราว 7.15 น. แต่ยังคงนอนเล่นอยู่ ขณะที่กำลังหลับตาได้ปรากฏภาพนิมิตเป็นดวงหน้าขององค์ต่าง ๆ มากมายสลับให้เห็นทั้งองค์ที่เป็นชายและหญิง  ข้าพเจ้าจึงได้รีบตื่นมาถามพระแม่ พระแม่ทรงชี้แจ้งว่า “ทุกองค์ที่อยู่กับข้าพเจ้าเวลานี้อยากให้ข้าพเจ้าวาดภาพเหมือนให้” เพราะเวลานี้ข้าพเจ้าวาดรูปเหมือนของพระแม่กวนอิม องค์หญิง องค์หนี่ออเนี่ยเนี้ย และองค์ไฉ่เส่งเอี๊ย เสร็จแล้ว   (ขณะที่วาดภาพรู้สึกได้ว่าองค์ท่านได้มาช่วยวาดภาพด้วย เพราะแต่ละภาพ ข้าพเจ้าวาดเพียงครั้งเดียวก็เสร็จสมบูรณ์โดยไม่ต้องมีการแก้ไข และไม่สามารถวาดใหม่ได้          ที่สำคัญ ข้าพเจ้าเพิ่งจะหัดวาดรูปเหมือนเป็นครั้งแรก จึงเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจที่สามารถวาดองค์ท่านได้เหมือนที่เห็นในนิมิต)

ทั้งนี้ภาพเหมือนทั้งหมดจะรวมอยู่ในภาคผนวก หมวดภาพวาดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท้ายเล่ม

บ่ายนี้ได้ถามพระแม่เกี่ยวกับข้าพเจ้าเอง พระแม่จึงได้ชี้แจ้งว่า “สำหรับข้าพเจ้าเวลานี้ได้เป็นเทพแล้ว


 

นิมิตเห็นหลวงปู่โต เพื่อให้ข้าพเจ้าวาดภาพเหมือน

 

วันจันทร์ที่ 21  กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เช้านี้ขณะที่ตื่นนอนและนอนเล่นอยู่นั้น ได้ปรากฏมีนิมิตอีกหลายองค์ให้เห็น ซึ่งหนึ่งในนั้นข้าพเจ้าจำได้ว่าคือองค์หลวงปู่โต ซึ่งพระแม่ชี้แจ้งใช่แล้ว  เดิมที ข้าพเจ้าบอกอาม่าว่า คงไม่ต้องวาดภาพเหมือนของหลวงปู่ เพราะปัจจุบันมีภาพวาดท่านอยู่แล้ว แต่ท่านมาให้นิมิตนี้แสดงว่า ท่านต้องการให้ข้าพเจ้าวาดภาพเหมือนท่าน  ซึ่งท่านอายุราว 60 ปี มีดวงหน้าที่อิ่มเอิบ มีสง่าราศีมาก


 

นิมิตองค์พระอนุตรธรรมมารดา ให้ข้าพเจ้าวาดภาพเหมือน

 

วันอังคารที่ 23  กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ค่ำคืนนี้ก่อนนอนข้าพเจ้าได้มีนิมิตถึงองค์ต่าง ๆ อีกหลายองค์ ซึ่งหนึ่งในองค์นั้นข้าพเจ้าจำได้ว่าคือองค์พระอนุตรธรรมมารดา ซึ่งพระแม่ทรงชี้แจ้ง ใช่แล้ว องค์ท่านต้องการให้ข้าพเจ้าวาดภาพเหมือนได้ถูกต้อง  ท่านเป็นพระมารดาขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ อายุท่านราว 60 ปี”

 


นิมิตองค์พระศิวะ องค์พระนารายณ์และอีกหลายองค์เพื่อให้ข้าพเจ้าวาดภาพเหมือน

 

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เช้านี้ข้าพเจ้าได้มีนิมิตถึงองค์ต่าง ๆ อีกหลายองค์ ซึ่งข้าพเจ้าจำได้ว่าเห็นองค์ท่านมายิ้มให้ โดยแต่ละองค์จะปรากฏใบหน้าที่ชัดเจนดั่งมนุษย์ ภาพที่ปรากฎมีทั้งเป็นภาพวาดขาวดำและภาพสี ซึ่งจะสามารถเห็นรายละเอียดใบหน้าได้ชัดเจน ข้าพเจ้าจำได้ 2 องค์ องค์แรกยิ้มเห็นฟันซี่ค่อนข้างใหญ่ ยิ้มอย่างอารมณ์ดีเหมือนกำลังจะหัวเราะ  อีกองค์ยิ้มเห็นฟันซี่เล็กกว่าองค์แรก  ซึ่งภายหลังจากวาดภาพเสร็จแล้วถามพระแม่ จึงรู้ว่า องค์แรกคือองค์พระนารายณ์ ซึ่งต้องแก้ไขทั้งจมูก ปาก ฟัน และใบหน้าหลายครั้งจึงจะวาดได้เหมือน และอีกองค์นั้นคือองค์พระศิวะ ส่วนองค์อื่น ๆ ต้องรอวาดเสร็จแล้วจึงถามพระแม่อีกครั้ง

(ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าวาดภาพ แต่ละองค์ท่านจะมาช่วยวาดจนกระทั่งวาดเสร็จ และพระแม่ชี้แจ้ง วาดได้เหมือนแล้ว จึงจะถือว่าเสร็จสมบูรณ์ในการวาดภาพแต่ละองค์)

พระแม่ชี้แจ้งเพิ่มเติมว่า แต่ละองค์ท่านจะมีใบหน้าออกทางจีน และจมูกจะโด่งเหมือนคนอินเดีย  ซึ่งตามที่แต่ละองค์มาให้ข้าพเจ้านิมิตนั้นก็เป็นจริงตามนั้น  ทุกองค์ใบหน้าออกคนจีนเป็นส่วนมาก


 

พระแม่ชี้แจ้ง ให้ข้าพเจ้าวาดภาพเหมือนในเวลานี้จำนวน 36 องค์

 

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เช้านี้ข้าพเจ้าได้ขอปรึกษาพระแม่ เกี่ยวกับจำนวนองค์ที่ข้าพเจ้าต้องวาดภาพเหมือนให้แล้วเสร็จก่อนที่จะถึงวันเกิดของข้าพเจ้าที่จะถึงนี้คือ วันที่ 24 สิงหาคม   โดยพระแม่ชี้แจ้ง เฉพาะองค์ที่อยู่ในอดีตกาลให้วาดเป็นภาพเหมือน บางองค์ บางท่านที่มีรูปลักษณ์ปรากฏในปัจจุบันนี้สามารถนำภาพถ่ายมาใส่กรอบได้โดยไม่ต้องวาดใหม่   ทั้งนี้พระแม่ได้ชี้แจ้งองค์ที่ต้องวาดในเวลานี้มีดังนี้

 

องค์ที่ต้องวาดภาพเหมือน

1

องค์พระแม่กวนอิม (พระแม่)

2

องค์ชายอั้งไห้ยี้

3

องค์หญิงนาจา

4

องค์หนี่ออเนี่ยเนี้ย

5

องค์จี้กง

6

เทพเจ้ากวนอู (ท่านไม่มีหนวด)

7

เหล่าแปะหย่ากง

8

องค์หลวงพ่อโสธร

9

องค์หลวงปู่โต (สมเด็จพระพุฒาจารย์ พรหมรังสี)

10

องค์กวงกึงเล่าโจ้ว

11

องค์พระอวโลกิเตศวร

12

องค์พระถังซัมจั๋ง

13

องค์พระแม่อุมาเทวี

14

ท่านพญานาค(ศรีษะเป็นองค์ กายเป็นพญานาค)

15

องค์พระศิวะ

16

องค์พระพรหม

17

องค์ไฉ่เส่งเอี๊ย

18

องค์พระนารายณ์ (พระวิษณุ)

19

องค์พระแม่ลักษมี

20

องค์พระแม่สรัสวดี

21

ท่านเจ้าที่ร้านข้าพเจ้าเช่าอยู่ (พี่คนสวย)

22

องค์ไท้ส่วย 60 องค์ (วาดรวมองค์เดียว)

23

องค์พระอนุตรธรรมมารดา (พระมารดาองค์เง็กเซียนฮ่องเต้)

24

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว

25

องค์หญิงนานา

26

องค์ฮั่วท้อเซียนซือ

27

สื่อเซียง (ด.ญ.นวิภิญย์ หงษ์พิทักษ์กุล) บุตรบุญธรรมพระแม่กวนอิม

28

องค์นายหลวง ร. 9

29

องค์พระราชินีนาถ

30

พระเจ้าเม็งรายมหาราช (ท่านมีหนวด)

31

พระศรีสุริโยทัย

32

พระนเรศวรมหาราช (ท่านไม่มีหนวด)

33

พระเจ้าตากสินมหาราช (ท่านไม่มีหนวด)

34

องค์พญาครุฑ

35

องค์เทพจันทรา

36

องค์ยมบาล

 

ทุกภาพที่วาดพระแม่ให้เขียนข้อความกำกับว่า “ภาพนิมิตจากองค์ท่าน และพระแม่บอกว่าวาดได้เหมือนแล้ว” จึงจะถือว่าวาดได้ถูกต้องสมบูรณ์


พระแม่ชี้แจ้ง “ถวายภาพวาดให้องค์นายหลวงหรือองค์พระเทพ

 

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

พระแม่ให้ข้าพเจ้าถวายภาพวาดลายเส้นปากกาที่ข้าพเจ้าได้วาดไว้ เป็นภาพมังกร หงส์  และภาพเป็ดคู่แมนดาริน  ถวายแด่องค์นายหลวง และองค์พระเทพฯ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีโอกาสถวายแด่องค์ท่าน

 

 


ภาพเป็ดคู่แมนดาริน (ข้าพเจ้าวาดโดยใช้ปากกา)


ภาพมังกรคู่หงส์ 

 

พระแม่ชี้แจ้ง “ท่านพญาครุฑมาอยู่กับข้าพเจ้าและพระแม่แล้ว 

 

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ค่ำนี้ พระแม่ชี้แจ้งว่า  ท่านพญาครุฑได้มาอยู่กับข้าพเจ้า และอยู่กับพระแม่แล้วตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา และได้มาเล่นน้ำกับข้าพเจ้าเช่นกัน

 


 

 


ภาพท่านพญาครุฑมาเล่นน้ำกับข้าพเจ้า หน้าเป็นครุฑ ปากเหมือนนก


พระแม่ชี้แจ้ง “ท่านยมบาลมาอยู่กับข้าพเจ้าและพระแม่แล้ว และข้าพเจ้าหลายวันก่อนได้นิมิตถึงองค์ท่านแล้ว “

 

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

                   ค่ำนี้ พระแม่ชี้แจ้ง “เนื่องจากหลายคืนก่อนข้าพเจ้าได้มีนิมิตถึงองค์หนึ่งท่านหน้าตาดูดุเข้ม หางตาชี้ขึ้น ใส่หมวกมีเขา 2 ข้าง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร คืนนี้มาย้อนดูรูปที่เล่นน้ำช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเห็นองค์ท่านมาเล่นน้ำกับข้าพเจ้า จึงถามพระแม่ พระแม่ทรงชี้แจ้งเป็นท่าน  ยมบาล ท่านมาอยู่กับข้าพเจ้าและพระแม่แล้วเช่นกัน “

                   ทั้งนี้องค์ท่านมีนิมิตให้ข้าพเจ้าเห็นใบหน้าของท่าน ดังนั้นจึงต้องวาดภาพเหมือนขององค์ท่านด้วยเช่นกัน

                   จากที่ได้นิมิต ใบหน้าองค์ท่านจะคมเข้ม ดวงตาโตยาว หางตาชี้ขึ้น มีหนวด สวมหมวกมีเขา 2 ข้าง หน้าตาหล่อมาก

 


 

 

 

ภาพท่านยมบาลมาเล่นน้ำกับข้าพเจ้าช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา ใส่หมวกมีเขา


นิมิตสมาธิภาวนา เห็นเหล่าแปะหย่ากง

 

วันอาทิตย์ที่ 4  สิงหาคม พ.ศ. 2556

                   เนื่องจากหลายวันก่อนตั้งใจจะวาดภาพเหมือน องค์เหล่าแปะหย่ากง แต่ไม่แน่ใจว่านวดเคราขององค์ท่านเป็นยังไง พยายามจะดูจาก internet แต่ก็ยังไม่แน่ใจ กระทั่งเช้ามืดของวันนี้ข้าพเจ้า     ตื่นขึ้นมานั่งทำสมาธิเช่นเดิม ขณะทำสมาธิได้เห็นภาพของเหล่าแปะหย่ากงมาให้เห็น ท่านใบหน้าใจดี มีอายุ มีผมมัดจุกสีขาว มีคิ้วและหนวดเคราสีขาว หนวดเคราองค์ท่านพริ้วไปตามลมอย่างสวยงามมาก  ซึ่งรุ่งเช้า พระแม่ได้ชี้แจ้งว่า “เหล่าแปะหย่ากงมาให้เห็นเพื่อที่ว่าข้าพเจ้าจะได้วาดหนวดเคราขององค์ท่านได้ถูกต้อง”


เสียงเรียกที่ฟังดูมีอำนาจขององค์ชายองค์หญิง

 

วันอังคารที่ 6  สิงหาคม พ.ศ. 2556

                   เช้ามืดของวันนี้ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมา แต่ยังรู้สึกงัวเงียจึงคิดว่านอนต่ออีกสักครู่ ขณะที่กำลังจะหลับตานั้นก็ได้ยินเสียงขององค์ชายองค์หญิงมาเรียก แต่เสียงเรียกคราวนี้ ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา  คราวนี้เสียงเรียกเหมือนเสียงมนุษย์ เสียงดังฟังชัด เรียกเพียงครั้งเดียวเสียงนั้นฟังออกว่าเป็นเด็กอายุ 4 ขวบ แต่พลังของเสียงมีอำนาจมาก ข้าพเจ้ารีบตื่นมามองหาแต่หาไม่เจอจึงนั่งทำสมาธิเช่นเดิม ขณะทำสมาธิได้สักครู่ ก็ได้ยินเสียงเหมือนอากงตื่นมากดดูเวลานาฬิกาที่วางไว้บนหัวเตียงเพื่อดูเวลา แต่รุ่งเช้า พระแม่บอกว่า เป็นองค์ชายองค์หญิงตื่นมากดดูนาฬิกาเอง และถามอากง อากงบอกว่าเมื่อคืนไม่ได้ตื่นและไม่ได้เห็นข้าพเจ้านั่งทำสมาธิด้วย เพราะนอนหลับอยู่ จากนั้นอากงก็ได้แต่หัวเราะ

 

หลวงพ่อโสธรมาปรากฏให้เห็น

 

วันพุธที่ 7  สิงหาคม พ.ศ. 2556

                   กลางดึกวันนี้ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังตื่นมาเพื่อจะเข้าห้องน้ำ ในห้องน้ำจะมีกระจกบานใหญ่เมื่อเปิดประตูก็จะเห็นกระจกทันที ขณะที่ข้าพเจ้าเปิดประตูห้องน้ำได้มองภาพในกระจก ซึ่งในห้องนอนนั้นจะมีแสงไฟส่องมาจากภายนอกหน้าต่าง ทำให้มองเป็นภาพชายหนุ่มใส่เสื้อเชิ้ตสีนวลยืนอยู่ในห้อง ข้าพเจ้านึกว่าเป็นองค์ชายองค์หญิง รุ่งเช้า พระแม่ชี้แจ้ง “ท่านคือองค์หลวงพ่อโสธร ท่านต้องการให้ข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าใกล้จะได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว”

 

 

ปรากฏภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนผนังรูปบ้านในห้องน้ำอีกครั้ง

 

วันพฤหัสบดีที่ 8  สิงหาคม พ.ศ. 2556

                   ค่ำนี้หลังจากกลับจากร้าน ข้าพเจ้าได้นำภาพวาดเหมือนของ บุตรสาว ซึ่งพระแม่ให้วาดเช่นกันนั้น ให้ทุกคนได้ดู  ทุกคนบอกว่าเหมือนและสวยงามมาก  สักพักข้าพเจ้าได้เข้าไปอาบน้ำในเวลาราว 23.30 น. ขณะอาบเสร็จใจคิดอยากจะมองรูปภาพบนผนังห้องน้ำอีกครั้ง ทันทีที่มองได้เห็นภาพของพระแม่อุมาเทวีเหมือนกำลังพูดคุยกับพระแม่กวนอิม และยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ ซึ่งทุกองค์มองแล้วเหมือนท่านมีชีวิตจริง ๆ จึงรีบแต่งตัวและรีบออกไปนำมือถือมาถ่ายภาพ  ขณะถ่ายภาพได้ปรากฏมีองค์ผู้ชาย (องค์ชายองค์หญิงรวมร่าง)วิ่งผ่านกล้อง แต่ทว่าถ่ายไม่ทัน (มัวแต่ตกตะลึง)  จากนั้นจึงได้เรียกทุกคนมาดูภาพและดูผนังห้องน้ำ ซึ่งทุกคนก็มองเห็นได้  

                   พระแม่บอกว่า  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องการให้ข้าพเจ้ารู้ว่า ภารกิจต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องจริง และกำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้

 

 


ภาพถ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปรากฏบนภาพบ้าน ผนังห้องน้ำ พระแม่อุมาเทวี และพระแม่กวนอิม

 



องค์หนี่ออเนื่ยเนื๊ย  อยู่ระหว่างพระแม่อุมาเทวีและพระแม่กวนอิม

 

วาดภาพเหมือนครบทุกองค์

 

วันเสาร์ที่ 10  สิงหาคม พ.ศ. 2556

วันนี้ข้าพเจ้าได้วาดภาพองค์ราชินีเสร็จ พระแม่ชี้แจ้ง ขณะที่ข้าพเจ้าวาดภาพแต่ละองค์นั้น    ทุกองค์ที่วาดได้มาอยู่ข้าง ๆ ข้าพเจ้า นั่นจึงทำให้ข้าพเจ้าสามารถวาดภาพเหมือนแต่ละองค์ได้สำเร็จ ครบจำนวน 36 องค์นั่นเอง

                ทั้งนี้ภาพของทุกพระองค์จะอยู่ในบันทึกท้ายเล่ม


 

พบพระเจ้าตากสิน และพระนเรศวร ในภาพเล่นน้ำสงกรานต์ที่ผ่านมา

 

วันเสาร์ที่ 10  สิงหาคม พ.ศ. 2556

วันนี้ข้าพเจ้าและอาม่าได้มานั่งดูภาพเก่า ๆ ย้อนหลัง โดยดูภาพที่เล่นสระน้ำช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า พบอีกท่าน พระแม่ชี้แจ้ง คือ พระเจ้าตากสิน

 


ภาพพระเจ้าตากสินอยู่ด้านล่าง พระนเรศวรอยู่ด้านบนของพระเจ้าตากสิน

                และได้พบองค์ ฮก ลก ซิ่ว รวมร่าง อยู่ด้านซ้าย และด้านขวาคือ พระเจ้าเม็งราย เล่นน้ำด้วยเช่นกัน

 




 

 

ภาพองค์ฮก ลก ซิ่ว        และพระเจ้าเม็งราย



พบบริวารท่านยมบาลในภาพกินเลี้ยงปีใหม่ที่ผ่านมา

 

วันเสาร์ที่ 10  สิงหาคม พ.ศ. 2556

วันนี้ข้าพเจ้าและอาม่าได้พบภาพสัตว์ 2 ชนิดคล้าย ๆ มีเขาวัว จึงได้ถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้ง เป็นบริวารท่านยามบาล

 


 

 


ภาพบริวารท่านยมบาลคือท่านหน้าวัวและท่านหน้ากระทิง


ตัวอย่างภาพบริวารท่านยมบาลจาก Internet



ภาพนิมิตจากดวงตาทิพย์ เห็นกลุ่มมวลชนประท้วงมากมายและถูกระเบิดล้มตายและบาดเจ็บมากมาย

 

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ค่ำนี้ภายหลังจากตื่นมานั่งทำสมาธิ ก็ได้กลับที่นอนพักผ่อนต่อ ขณะกำลังจะนอนหลับได้เห็นภาพมีกลุ่มมหาชนมากมายประท้วงกัน ซึ่ง ป่าป๊ากู๋ อี๊เกียง และข้าพเจ้าก็อยู่ในเหตุการณ์นั้น  ขณะข้าพเจ้ากำลังจะเดินไปหลังรถ ก็ได้พบระเบิดพุ่งตกลงมาเบื้องหน้าข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารีบเดินไปหลบด้านหลังรถอีกด้าน และรีบกางร่มป้องกันสะเก็ดระเบิด จากนั้นก็ได้เกิดระเบิดขึ้น ซึ่งข้าพเจ้า ป่าป๊ากู๋   อี๊เกียง ไม่เป็นไร แต่ผู้คนบาดเจ็บมากมาย และล้มตาย และยังคงมีเสียงระเบิดติดตามตลอดอีกหลายครั้งไม่ขาดสาย

ซึ่งพระแม่ชี้แจ้ง นั่นเป็นนิมิตจากดวงตาทิพย์ให้ข้าพเจ้าได้เห็นการจลาจลการประท้วงของมวลประชาชน ที่กำลังจะเกิดขึ้น ขณะนั่งบันทึกข้าพเจ้าได้แต่นั่งขนลุกชันทั้งตัว ด้วยความหดหู่ สลดใจ   เศร้าใจและน่าสงสารประชาชนยิ่งนัก

 

นิมิตจากดวงตาทิพย์ เห็นเสด็จพ่อ ร.๕

 

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กลางดึกวันนี้ข้าพเจ้าได้ออกมานั่งทำสมาธิที่หน้าโต๊ะพระ สักครู่ได้ปรากฏภาพเสด็จพ่อ ร.๕  มาให้เห็นในนิมิต เมื่อภาพองค์ท่านหายไป ข้าพเจ้ารู้สึกได้ว่ามีชายหนุ่มมาอยู่ข้าง ๆ ของข้าพเจ้า รุ่งเช้าพระแม่ได้ชี้แจ้งว่า “เสด็จพ่อ ร.๕ ต้องการให้ข้าพเจ้าเก็บบันทึกไว้ อย่าเพิ่งลบทิ้ง   และองค์ที่มาอยู่  ข้าง ๆ ข้าพเจ้าคือองค์ชาย และองค์หญิง”  ซึ่งก่อนหน้านี้ 2 วัน ข้าพเจ้าตั้งใจจะลบบันทึกนี้ ซึ่งข้าพเจ้าเพียงแค่คิดในใจเท่านั้น แต่พระแม่ได้ให้เสด็จพ่อ ร.๕ มาหาเพื่อไม่ต้องการให้ข้าพเจ้าลบบันทึกนี้ เนื่องจากบันทึกนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติภารกิจของข้าพเจ้าในวันข้างหน้า


 

นิมิตสมาธิ อาม่าเห็นองค์ชาย

 

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ค่ำคืนนี้อาม่านั่งสมาธิตามปกติ ขณะที่นั่งอยู่นั้นได้ปรากฏภาพขององค์ชาย  ซึ่งองค์ชายมานิมิตให้อาม่าเห็นในลักษณะของชายหนุ่มวัยรุ่น ผมสั้น ผิวสองสี หน้าตาหล่อเหลามีสง่า สวมเสื้อคอปกแขนสั้นสีน้ำเงิน  และได้วาดภาพเหมือนไว้


ปรากฏภาพรอยเท้าของพระแม่กวนอิมบนที่นอน

 

วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

เช้านี้ตื่นนอน ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมปูที่นอนใหม่เพื่อให้นอนหลับสบายกันทุกคน ซึ่ง 2-3 คืนที่ผ่านมา ทุกคนมักจะสงสัยกันว่า พระแม่ยังคงมานอนกับข้าพเจ้าหรืออยู่ไม่ เช้านี้หลังจากข้าพเจ้าปูที่นอนเสร็จได้เห็นรอยเท้าปรากฏบนที่นอน เป็นรอยเท้าที่ไม่เห็นรอยนิ้วเท้า ส้นเท้าแหลม ๆ รอยเท้าใหญ่กว่าของข้าพเจ้าเล็กน้อย  พระแม่ชี้แจ้ง เป็นรอยเท้าของพระแม่เอง แต่น่าเสียดายที่ข้าพเจ้าไม่ทันได้ถ่ายรูปไว้ แต่อาม่าก็ได้เห็นรอยเท้าพระแม่เช่นกัน 

วันนี้ตั้งใจว่าจะไปกราบไหว้เจ้าพ่อขุนตาลกับอี๊เกียง จึงได้ถามพระแม่ และได้ทราบเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พระเจ้าเม็งรายและเจ้าพ่อขุนตาล ณ เวลานี้ทั้ง 2 นั้นเป็นมิตรที่ดีต่อกัน และเจ้าพ่อขุนตาลได้อยู่ภายใต้การดูแลของพระแม่ และได้อยู่กับข้าพเจ้าด้วยเช่นกัน

 

 

 

ตัวอย่างภาพรอยเท้าพระแม่กวนอิม

 

ไปไหว้เจ้าพ่อขุนตาล

 

วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

                ตลอดเดือนกรกฎาคม และเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่อย่างมาก รายได้ที่เคยได้ลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง แต่รายจ่ายนั้นเท่าเดิมบางเดือนก็เพิ่มขึ้นจนทำให้ทุกคนในบ้านเกิดความเครียด พี่สาวก็จะทำการเซ้งร้านเพราะทนแบกรับรายจ่ายไม่ไหว  พี่ชายก็เช่นเดียวกัน  อีกทั้งข้าพเจ้าก็คิดจะขายบ้านเพื่อทำการปลดภาระหนี้สิน ไม่เช่นนั้นเกรงว่าจะไม่สามารถรักษาบ้านไว้ได้ และทุกคนอาจจะไม่มีที่ให้อยู่   ดังนั้นข้าพเจ้า อี๊เกียง จึงออกเดินทางไปไหว้เจ้าพ่อขุนตาล ข้าพเจ้าได้ขอให้องค์ท่านช่วยให้ข้าพเจ้ามีรายได้อย่างน้อยเดือนละ 30,000 บาทขึ้นไปข้าพเจ้าจึงจะแบกรับค่าใช้จ่ายพอไหว ส่วนอี๊เกียงได้ขอให้ท่านช่วยให้เซ้งร้านได้ หลังจากกลับถึงบ้าน ตกกลางคืนก่อนนอน ลูกบอกว่า เห็นเจ้าพ่อขุนตาล  เจ้าพ่ออุ้มองค์ชายองค์หญิง และเรียกลูก และได้ยินเจ้าพ่อคุยกับพระแม่ 

เจ้าพ่อ : ถามพระแม่ว่าอยู่บ้านหม่าม๊ามีความสุขไหม 

พระแม่  : ตอบว่า มีความสุข แต่จนเงิน จนลง จนลง  

เจ้าพ่อ : ตอบว่า “แป่ว”

                และได้ทำท่าคิดวางแผน สักครู่ได้หันมาบอกพระแม่ว่า รู้แล้ว เดี๋ยวเราช่วยเอง   พอเริ่มเปิดร้านวันที่ 2 เป็นต้นมา ข้าพเจ้าก็มีลูกค้าเข้ามาที่ร้านทุกวัน  และข้าพเจ้าได้เสี่ยงเซียมซี ซึ่งลูกบอกว่าเจ้าพ่อเป็นคนให้ข้าพเจ้าเอง  โดยความในเซียมซีมีดังนี้

                “ใบที่ 21 อย่าพะวังนึกกังขา เปรียบเหมือนเรานั่งอยู่ในนาวา แล้วแล่นฝ่าคลื่นลมระบมไป อันโชคลาภนั้นหนายังว่าขัด ยังอึดอัดมิเห็นหนทางได้ รออีกหน่อย จะสุขสนุกใจ คงรวยใหญ่ยิ่งเกษมเปรมปรีดี ถามคนเจ็บว่าหายสบายจิต ถามจะคิดสู้ความให้คร้ามหนี ถามหาคู่บุตรไซร้ยังไม่มี โชคของท่านเวลานี้ยังไม่ดี ต่อไปจึงจะดีแล”

 

พระแม่ชี้แจ้ง กำเนิดชีวิตขององค์ชาย องค์หญิง ลูกสาวและข้าพเจ้า

 

วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

วันนี้ข้าพเจ้าได้ถามพระแม่ เกี่ยวกับการกำเนิดชีวิตขององค์ชายองค์หญิง ลูกสาวและข้าพเจ้าว่าเกิดมาจากที่ไหน อย่างไร  พระแม่ชี้แจ้งว่า “องค์ชายอั้งไห้ยี้ องค์หญิงนาจา และลูกสาว ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของพระแม่นั้น  พระแม่เป็นผู้สร้างขึ้น โดยสร้างขึ้นจากดอกบัว 3 ดอก และสำหรับข้าพเจ้า ซึ่งเป็นน้องสาวบุญธรรมของพระแม่นั้น (ในที่นี้คือองค์หญิงไป๋าทู่) พระแม่ได้สร้างจากมวลดอกไม้หลายๆ ชนิด

 

นิมิตถึงหลวงพ่อโสธร และเจ้าที่พี่คนสวย

 

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556 กันยายน พ.ศ. 2556

ระยะแม้ว่าจะมีรายได้เข้ามาทุกวัน แต่ความเครียดของข้าพเจ้าก็ยังไม่ได้ลดลง  กลางคืนนั่งสมาธิแม้จะนั่งราวชั่วโมงกว่า แต่จิตก็หาได้นิ่งไม่ จึงคิดในขณะนั่งสมาธิว่าคงจะต้องขายบ้าน ปลดภาระ แก้ไขปัญหาทุกอย่างให้จบ เริ่มต้นกิจการของตนเองใหม่  แต่ไม่กล้าถามพระแม่ (กลัวพระแม่ไม่ให้ขาย) รุ่งเช้าหลังจากนั่งทำสมาธิและได้กลับเข้าไปนอนต่อ ได้มีนิมิตว่า ข้าพเจ้าและทุกคนเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง ได้พบศาลเจ้าเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง จึงได้เข้าไปกราบไหว้ ข้าพเจ้าได้พบผู้ชายคนหนึ่งเป็นวัยกลางคน ได้หันมามองข้าพเจ้าและให้ของสองสิ่งบรรจุในถุงใส  สิ่งแรกเหมือนจะเป็นผ้า และอีกสิ่งคือสร้อยประคำเส้นที่ข้าพเจ้าใช้อยู่ทุกวันนี้

ข้าพเจ้ากราบขอบคุณท่าน และนิมิตต่อว่าหลายวันต่อมาได้กลับไปที่ศาลเจ้าแห่งนี้อีก ชายผู้นี้ได้มาพูดคุยด้วย และบอกว่า “เส้นประคำนี้ หากว่าอีกหน่อยมีอิทธิฤทธิ์ จะสามารถเพิ่มจำนวนเม็ดประคำ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้” พอท่านพูดจบ ข้าพเจ้าได้พยายามจ้องมองเข้าไปในเม็ดประคำแต่ละเม็ด ปรากฏว่า เม็ดประคำแต่ละเม็ดนั้นได้ปรากฏองค์ขึ้นแต่ละองค์ให้เห็น 

สักครู่ ได้มีผู้คนเข้ามาในศาลเจ้ามากมาย เหมือนมาทำขนมและแบ่งปันให้กินกัน  และมีผู้หญิงคนหนึ่งไว้ผมสั้น หน้าตาสะสวยมาคุยกับข้าพเจ้า มาบอกว่าขอเม็ดประคำเม็ดหนึ่ง ข้าพเจ้าจึงได้ส่องดูว่า เม็ดไหนจะมีใบหน้าเหมือนพี่คนนี้ ส่องไปพบเม็ดหนึ่งก็พบว่าเหมือน แต่พี่สาวคนนี้บอกว่า อีกเม็ดเหมือนกว่า ข้าพเจ้าจึงได้ส่องเข้าไปดู และได้ให้พี่สาวนี้หันหน้าให้เหมือนที่ปรากฏในเม็ดประคำ พบว่าเหมือนทั้งหน้าผาก จมูก คาง และใบหน้า จึงได้ให้เม็ดประคำนั้นแก่พี่สาวผู้นั้นไป 

ข้าพเจ้าจึงได้มองหาว่าจะมีเม็ดไหนเหมือนข้าพเจ้าบ้าง สักครู่ชายผู้เดิมได้เข้ามาบอกว่า ให้ข้าพเจ้าพกเม็ดนี้ติดตัว ซึ่งเป็นเม็ดที่มีภาพของพระแม่ปรากฏอยู่ ข้าพเจ้าจึงเก็บไว้  ส่วนอีกเม็ดมีองค์ชายองค์หญิงถือกิ่งบัวปรากฏอยู่ ท่านว่า ให้ลูกสาวเก็บไว้ จากนั้นข้าพเจ้าและทุกคนจึงได้เดินทางกลับ

รุ่งเช้าจึงได้ถามพระแม่ถึงความหมายนิมิตนี้ พระแม่ชี้แจ้งว่า นิมิตนี้เกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ ชายผู้นั้นคือหลวงพ่อโสธร  และหญิงสาวนั้นคือท่านเจ้าที่พี่คนสวยที่ร้านข้าพเช่าอยู่ และจากประโยคที่ว่า  “หากว่าอีกหน่อยมีอิทธิฤทธิ์ จะสามารถเพิ่มจำนวนเม็ดประคำ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้” หมายความว่า ให้ข้าพเจ้าตั้งจิตให้นิ่ง อย่าได้คิดสิ่งใด ให้ศรัทธาพระแม่ องค์ชายองค์หญิง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ เมื่อจิตข้าพเจ้าดีแล้วจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาอยู่กับข้าพเจ้าเพิ่มมากขึ้น เพราะเม็ดประคำแต่ละเม็ดนั้นแทนความหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละองค์ และเพื่อทุกพระองค์จะทรงช่วยให้ข้าพเจ้าปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จได้ในวันข้างหน้า

 

 


ภาพนิมิตถึงหลวงพ่อโสธร และเจ้าที่พี่คนสวย

 

ภาพสร้อยประคำและสร้อยแขนของข้าพเจ้าที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ประทับอยู่


 

นิมิตเห็นดวงหน้าของเหล่าวีรบุรุษผู้กล้าในอดีต

 

วันเสาร์ที่ 7   กันยายน พ.ศ. 2556

ราว 17.30 น. ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังจะเอนลงนอนเพื่อพักผ่อนสายตานั้น ได้ปรากฏภาพดวงหน้าของบุคคลต่างๆ ให้เห็นได้อย่างชัดเจน ทุกท่านล้วนแต่มีหนวดและเครา และเครานั้นไม่ได้ยาวมาก มีผิวสีแทน ดวงหน้าคมเข้ม แสดงถึงความแข็งแกร่ง แววตาที่แสดงถึงความกล้าหาญของแต่ละท่านอย่างชัดเจน ซึ่งได้ปรากฏให้ข้าพเจ้าได้เห็นอยู่มากมายหลายท่าน  เมื่อข้าพเจ้าลืมตาขึ้นจึงได้ถามพระแม่  พระแม่ได้ชี้แจ้งว่า  นั่นคือเหล่าวีรบุรุษผู้กล้าในอดีตซึ่ง ณ เวลานี้ได้มาอยู่กับข้าพเจ้า เพื่อช่วยให้ข้าพเจ้าปฏิบัติภารกิจในภายหน้าได้สำเร็จลุล่วงได้  โดยเหล่าผู้กล้านั้นพระแม่ได้ชี้แจ้งรายนามดังนี้


1.                  11 นักรบผู้กล้าแห่งค่ายบางระจัน ได้แก่ 1.พระอาจารย์ธรรมโชติ เดิมอยู่วัดเขานางบวช แล้วมาอยู่วัดโพธิ์เก้าต้น มีความรู้ทางวิชาอาคม เป็นที่พึ่งทางใจแก่ชาวค่ายบางระจัน 2.นายแท่น เป็นชาวบ้านสีบัวทอง ถืออาวุธสั้น ถูกปืนของพม่าที่เข่าในการรบครั้งที่ 4 เสียชีวิตเมื่อการรบครั้งสุดท้าย 3.นายอิน เป็นชาวบ้านสีบัวทอง 4.นายเมือง เป็นชาวบ้านสีบัวทอง 5.นายโชติ เป็นชาวบ้านสีบัวทอง ถืออาวุธสั้น 6.นายดอก เป็นชาวบ้านกลับ 7.นายทองแก้ว เป็นชาวบ้านโพทะเล 8.นายจัน หนวดเขี้ยว เก่งทางใช้ดาบ เสียชีวิตในการรบครั้งที่ 8 9.นายทอง แสงใหญ่ 10.นายทองเหม็น ขี่กระบือเข้าสู้รบกับพม่า ตกอยู่ในวงล้อมถูกพม่าตีตายในการรบครั้งที่ 8 เช่นกัน 11.ขุนสรรค์ มีฝีมือเข้มแข็งมักถือปืนเป็นนิจ แม่นปืน

2.                  พ่อขุนรามคำแหง

3.                  อนุสาวรีย์เจ้าพระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนีย์)

4.                  พระบรมราชาธิราชที่ 1 หรือขุนหลวงพะงั่ว

5.                  พระราชมนู (เจ้าพระยามหาเสนาบดี)

6.                  เจ้าฟ้าอุทุมพร - แม้จะออกผนวชเป็นพระ แต่เมื่อหงสาวดียกทัพมา และต้านทานได้ในยุคหลังก็เพราะท่านลาสิกขาออกมา

7.                  พระชัยบุรี ทหารเอกที่ฝีมือเก่งกล้าที่สุดของพระนเรศวร

8.                  พระราชบังสัน

9.                  พระมหาธรรมราชา(พระบิดาของสมเด็จพระนเรศวร)

10.           พระสุนทรสงคราม ทหารเอกของพระราเมศวร

11.           สมเด็จพระเอกาทศรถ (พระองค์ขาว)

12.           ยามาดะ ตำแหน่งออกญาเสนาภิมุข

13.           พระยากาวิละ

14.           ออกหลวงมงคล

15.           เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) แม่ทัพปราบฮ่อ

16.           พระยาสุรวฤาชัย(หนานทิพย์ช้าง) พระราชบิดาของพระเจ้ากาวิละ

17.           หนานข้อมือเหล็ก(เจ้าพ่อประตูผา) ผู้สร้างวีรกรรม ๑ : ๑๐๐

18.           พระยาพัทลุง(คางเหล็ก)

19.            พระยานครราชสีมา(สังข์) ผู้ก่อการต่อต้านพระเพทราชา

20.           พระยากลาโหมราชเสนา กลาโหมของวังหน้าสมัย ร.๑

21.           เจ้าพระยามหาเสนา(บุญนาค)

22.           พระยายะหริ่ง (นายพ่าย) ผู้ปราบกบฏปัตตานี

23.           พระยาวจีสัตยารักษ์ (ขำ ศรียาภัย)

24.           พระยาทุกขราษฏร์(มหาช่วย) อดีตพระสายเขาอ้อ ผู้นำชาวบ้านพัทลุงต่อต้านการรุกรานจากพม่า

25.           ขุนละครไชย ตีเมืองเขมรได้สมัยเจ้าสามพระยา

26.           พระมหาเถรศรีศรัทรา - เจ้าชายผู้ทรงช้างพัง รบไม่เคยพ่าย ตอนหลังออกบวช

27.           เจ้าพระยาบดินทรเดชา สิงหเสนีย์ – ผู้พิชิตเวียงจัน

28.           ขุนศึกเสมา (พระยารามจัตุรงค์)

 

นิมิตเห็นพระแม่อุมาเทวี

 

วันอังคารที่ 17   กันยายน พ.ศ. 2556

เช้านี้ตื่นมานั่งทำสมาธิตอนตี 5  ได้มีนิมิตเห็นดวงหน้าพระแม่อุมาเทวี องค์ท่านมายิ้มให้    พระพักตร์องค์ท่านงดงามยิ่งนัก (ไม่สามารถบรรยายความงดงามของพระแม่อุมาเทวีได้ ) พระแม่ชี้แจ้งว่า พระแม่อุมาเทวีต้องการบอกให้ข้าพเจ้ารู้ว่าข้าพเจ้าใกล้จะได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ในอีกไม่นานนี้


 

นิมิตถึงพระราชวังแห่งใหม่  องค์จี้กง และพระศากยมุนีสัมมา สัมพุทธเจ้า

 

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556


        เช้าตรู่หลังจากที่ข้าพเจ้าออกจากสมาธิ และกำลังจะเข้านอนอีกครั้ง ก็ได้มีนิมิตเกิดขึ้น 

โดยในนิมิตนั้น ข้าพเจ้าได้เห็นพระราชวังแห่งใหม่ที่สร้างเสร็จแล้ว จากทางเดินเข้าไป จะเห็นวิหารวัดสวยงาม ด้านขวาเป็นราชวังแบบไทย และด้านซ้ายมือเป็นราชวังแบบจีนใหญ่โตและสวยงามมาก ข้าพเจ้าเดินเที่ยวชมรอบวัง และได้ยืนคุยกับอากง สักครู่ได้ปรากฏองค์ออกมาให้เห็นข้าพเจ้าจึงรีบยกมือไหว้ท่าน และท่านได้ปรากฏออกมาลักษณะเป็นคนและกำลังยืนคุยกับองค์พระพุทธเจ้าและข้าพเจ้า

ในครั้งแรกคุยกันถึงเรื่องราวกิจการของข้าพเจ้าที่ไม่ค่อยมีลูกค้า  เมื่อองค์ท่านไปแล้วข้าพเจ้ายังไม่แน่ใจนัก สักครู่จึงได้ยินเสียงของ         พระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ซึ่งเป็นเสียงที่ข้าพเจ้าเคยได้ยินมาแล้วหลายครั้ง) มาบอกย้ำอีกครั้ง นั่นทำให้ข้าพเจ้าตื่นจากนิมิตด้วยความไม่สบายใจ จึงได้ถามพระแม่  ซึ่งพระแม่ได้ชี้แจ้งว่า องค์ที่เห็นนั้นคือ องค์จี้กง และพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 


 

 

นิมิตเห็นดวงหน้าของเหล่าวีรบุรุษและวีรสตรีผู้กล้าในอดีตเพิ่มเติม

 

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

ก่อนนอนราว 3 ทุ่มครึ่ง ขณะที่หลับตาลงได้มีนิมิตปรากฏภาพดวงหน้าขององค์ต่าง ๆ ให้เห็นมีทั้งผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งปรากฏทีละท่านอย่างชัดเจน รุ่งเช้าจึงได้ถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้งว่า นั่นคือเหล่าวีรบุรุษและวีรสตรีผู้กล้าในอดีต ณ เวลานี้ได้มาอยู่ด้วยกับข้าพเจ้าเพิ่มเติม ซึ่งมีรายนามดังนี้

1.              พระสุพรรณกัลยา

2.              วีรสตรีบ้านบางระจัน ได้แก่ อีเฟื่อง  อีแฟง  และ อีปล้อง

3.              พระไชยราชาธิราช

4.              เจ้าพระยาโกษาธิบดี(เหล็ก)

5.              พระศรีเสาวภาค

6.              สมเด็จวังหน้ากรมพระราชวังบวรสุรีสีหนาถ

7.              สมเด็จวังหลังกรมพระยาราชวังบวรสถานมงคล

8.              พระยาสีหราชเดโชชัย

9.              พระรามเดโช

10.       หมื่นโลกสามล้าน

11.       พระองค์เจ้าขุณเณร

12.             ท้าวสุรนารี

13.             มณีจันทร์

14.             ออกญาสุโขทัย

15.             ออกญาเสนาภิมุข (อาสาญี่ปุ่น)

16.             เจ้าฟ้าเมืองคัง

17.       ปู่เปียง (วีรบุรุษแห่งเมืองเชียงใหม่ประทับที่เจดีย์ขาว)

 

นิมิตเห็นดวงหน้าของเหล่าวีรบุรุษและวีรสตรีผู้กล้าในอดีตเพิ่มเติม

 

วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

ก่อนนอนในค่ำคืนนี้ ข้าพเจ้าได้มีนิมิตถึงดวงหน้าของเหล่าวีรบุรุษ และ วีรสตรีเพิ่มเติม ซึ่งพระแม่ได้ชี้แจ้งเพิ่มเติมดังนี้

1.              ท้าวเทพกระษัตรี

2.              ออกญากำแพงเพชร

3.              ออกญาราชวังสรรค์



 

ดวงตาทิพย์ข้าพเจ้าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง

 

วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บ่ายนี้ข้าพเจ้าได้สังเกตดวงตาทิพย์บนหน้าผากข้าพเจ้า เห็นว่าจากที่เคยนูนได้เริ่มเปลี่ยนแปลง ความนูนเริ่มลดลงในช่วงบ่าย แต่ช่วงหลังอาทิตย์ตกดินกลับนูนขึ้นอีกเหมือนเดิม  ข้าพเจ้าถามลูกสาวบอกว่า ลูกเห็นตาทิพย์หม่าม๊าเปลี่ยนสี  จากสีแดง เป็นสีชมพู และกลับเป็นสีแดงอีก โดยตอนเช้าเห็นเป็นสีแดง  ตอนบ่ายเห็นเป็นสีชมพู ตกเย็นเห็นเป็นสีแดงอีก สลับกันตลอด ซึ่งลูกบอกว่าเห็นได้จากดวงตาทิพย์ของลูก  และวันเดียวกันนี้ข้าพเจ้าได้ถามพระแม่ พระแม่ทรงชี้แจ้งว่า  “ในเวลานี้     พระแม่ได้ทำให้ดวงตาทิพย์ของข้าพเจ้าเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งกำลังทำให้ตาทิพย์เป็นจุดสีแดงขึ้นมา” เฉพาะบุคคลที่มีดวงตาทิพย์บางคนเท่านั้นจึงจะสามารถเห็นได้

 

ความหมายนิมิตเมื่อครั้งองค์ชายองค์หญิงพาข้าพเจ้าขึ้นไปบนสรวงสวรรค์

 

วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วันนี้ข้าพเจ้าได้นั่งระลึกถึงนิมิตครั้งแรก ๆ ในช่วงเวลาที่องค์ชายองค์หญิงมาอยู่กับข้าพเจ้าได้ไม่นาน  ในตอนนั้นองค์ชายองค์หญิงพาข้าพเจ้าเหาะขึ้นไปบนสรวงสรรค์แท้จริงพระแม่ได้ชี้แจ้งว่า  องค์ผู้หญิงที่อยู่ในศาลาที่มารอพบข้าพเจ้านั้นคือองค์พระแม่อุมาเทวี  และองค์ผู้ชายที่ข้าพเจ้าได้นั่งคุยด้วย ซึ่งองค์ท่านได้บอกถึงอนาคตข้าพเจ้า ต้องปฏิบัติภารกิจใดบ้าง ภายหลังจึงจะได้มีกิจการที่มั่นคงของตนเองนั้น แท้จริงแล้วคือหลวงพ่อโสธรนั่นเอง

 

 

นิมิตเห็นดวงหน้าของเหล่าวีรบุรุษและวีรสตรีผู้กล้าในอดีตเพิ่มเติม

                                                                                                                                                                           

วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

คืนนี้ก่อนนอนข้าพเจ้าได้นิมิตเห็นดวงหน้าของเหล่าวีรบุรุษและวีรสตรีเพิ่มเติม โดยพระแม่ได้ชี้แจ้งรายนามเพิ่มดังนี้

1.              พระรามาธิบดีที่ 1

2.              ท้าวศรีสุนทร

3.              บุตรสาวเจ้าฟ้าเมืองคัง

4.              พระเจ้าปราสาททอง

5.              พระเจ้าอู่ทอง

6.              พระศรีเสาวภาค

7.              พระยาจ่าบ้านบุญมา

8.              พระเจ้าติโลกราช

9.              หมื่นหาญแต่ท้อง

10.       พระยาศรีไศยณรงค์

11.       ออกญารามณรงค์สงคราม

12.             เจ้าพระยารามราฆพ

13.             พระยาวิเชียรคิรี


 

อาม่าเห็นพระแม่กวนอิม

                                                                                                                                                                           

วันจันทร์ที่  7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เช้ามืดวันนี้ราว ตี 4 อาม่าตื่นนอนแบบสะลืมสะลือ ได้เห็นหญิงสาวผู้หนึ่งลักษณะเหมือนข้าพเจ้า ทรงผม ท่าทางเหมือนข้าพเจ้า แต่การแต่งกายไม่ใช่ข้าพเจ้า เห็นชุดที่ใส่เป็นผ้าแพรนุ่ม อีกทั้งเห็นฝีเข็มการเย็บตะเข็บขากางเกงอย่างละเอียด ซึ่งได้ยืนอยู่ในห้องและเปิดประตูห้องน้ำ แต่ไม่เห็นเอื้อมมือไปเปิดไฟ แต่กระนั้นไฟในห้องน้ำกลับสว่างไสว  รุ่งเช้ามา ข้าพเจ้าจึงได้ถามพระแม่  พระแม่   ชี้แจ้งว่า นั่นคือพระแม่เอง ตื่นนอนแต่งตัวเสร็จแล้วกำลังจะไปทำงานทำเงิน

 

ข้าพเจ้าถักเสื้อคลุมไหมพรมถวายแด่พระแม่กวนอิม

                                                                                                                                                                           

วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ข้าพเจ้าได้นั่งถักเสื้อคลุมไหมพรมถวายแด่พระแม่ (จริงๆ แล้วข้าพเจ้าถักไม่เป็น ไม่รู้ว่าถักได้อย่างไร)  ลูกบอกว่า พระแม่ชอบมาก ใส่ไปตอนทำเงินด้วย สิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์อื่น ๆ เห็นแล้วก็ชมว่าสวย ถามว่าใครทำให้ พระแม่บอกว่า “มนุษย์ที่หน้าตาน่ารัก ที่เป็นน้องสาวเราทำให้”  พระแม่องค์อื่น ๆ มองแล้วบอกว่า น่ารักจริงด้วย อยากได้บ้าง ไว้รอวันเกิดจะให้ข้าพเจ้าทำให้บ้าง ลูกบอกว่ามีพระแม่อยากได้อีก 10 องค์

 

 ภาพเสื้อคลุมไหมพรมที่ข้าพเจ้าถักถวายแด่พระแม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บันทึกปาฏิหาริย์ บทสวดมนต์พระแม่กวนอิม 1-23

ภาคบทสวดมนต์ พระแม่กวนอิม         บทสวดมนต์นี้ ข้าพเจ้าได้ฟังจากบทสวดและถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือ พร้อมกำหนดเสียงสูง ต่ำ ให้สอดคล้องกับบทสวด...