นิมิตชี้แจ้ง อดีตชาติที่แล้ว ชาติที่ 48 ขององค์หญิงไป๋ทู่ ที่มาของการเป็นน้องสาวบุญธรรมพระแม่กวนอิม และราชบุตรเขย ที่มาการเป็นบุตรบุญธรรมขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้
วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556
วันนี้ข้าพเจ้าได้มีนิมิตไปเห็นอดีตชาติ เป็นเรื่องราวของชาติที่แล้วของข้าพเจ้าและองค์หญิงไป๋ทู่ โดยมีนิมิตให้เห็นเหตุการณ์ถึง 2 ครั้งเพื่อให้ข้าพเจ้าจำได้อย่างแม่นยำ และเป็นที่มาของการได้เป็นน้องสาวบุญธรรมของพระแม่กวนอิม
ในนิมิตนั้น เมื่อได้ถามพระแม่แล้ว จึงได้รู้แจ้งดังนี้ จากเครื่องแต่งกายของผู้คนย้อนอดีตไปราว 2,500 ปีก่อนคริสตศักราช ราว 5,000 ปีที่แล้วปลายราชวงศ์โจว ข้าพเจ้าเกิดเป็นบุตรสาวขององค์โจวอิวอ๋องฮ่องเต้ (ติ๋วอ๊วง) กับสนมเอกเปาซี่อ(ต๋าจี) มีพระนามว่า องค์หญิงไป๋ทู่ ซึ่งมีหน้าตางดงามที่สุดในยุคสมัยนั้น และเป็นคนที่มีจิตใจงดงามมาก
ยุคสมัยนั้นฮ่องเต้(ติ๋วอ๊วง)นั้น จิตใจชั่วร้ายอำมหิตมาก หลงใหลแต่สุรานารี ไม่สนใจบ้านเมือง อีกทั้งมีแต่พวกกังฉิน คอยทำลายบ้านเมือง เข่นฆ่าผู้คน บ้านเมืองยากจน เสื่อมโทรม
ในสมัยนั้นสนมเปาซื่อได้ชื่อว่าเป็นหญิงที่งามที่สุด
แต่ด้วยความที่องค์หญิงไป๋ทู่มีหน้าตางดงามกว่าผู้เป็นมารดาอย่างมาก จึงทำให้สนมเปาซื่อเกิดความไม่พอใจ
เกรงว่าเมื่อเติบใหญ่จะถูกแย่งความรักจากติ๋วอ๊วง
ในช่วงนั้นสนมเปาซื่อได้ร่วมมือกับมหาอัครเสนาบดีได้สั่งให้สังหารองค์หญิงไป๋ทู่ แต่มีพระสนมอีกองค์หนึ่งช่วยองค์หญิงไป๋ทู่ไว้ ในครั้งนั้นองค์หญิงไป๋ทู่แม้จะถูกไฟเผาแต่ก็รอดมาได้ พระสนมได้แอบพาองค์หญิงไป๋ทู่ไปอยู่ที่บ้านเดิมกับพี่ชายและพ่อแม่ของพระสนมนั้น
เมื่อองค์หญิงไป๋ทู่ไปอยู่ พี่ชายของพระสนมนั้นได้อภิเษกกับองค์หญิงไป๋ทู่และมีศักดิ์เป็นราชบุตรเขย
ซึ่งพี่ชายของพระสนมได้เคยมีภรรยาและบุตรชายด้วยกัน
แต่ภรรยาเดิมนั้นได้เสียชีวิตลง จึงได้อภิเษกกับองค์หญิงไป๋ทู่
เมื่อสนมเปาซื่อสืบรู้
จึงได้ให้เหล่ากังฉินตามล่าโดยตลอด (
กังฉินนั้นรูปร่างผอมเพรียว มีหนวดเครายาว ใบหน้ายาวแก้มมีกระดูก อายุราว 60 ปี ) องค์หญิงไป๋ทู่พร้อมทั้งราชบุตรเขยและบิดา
มารดาของราชบุตรเขยได้หนีไปตามเมืองต่าง ๆ กระทั่งถึงเมือง ๆ
หนึ่งไม่สามารถจะหนีไปไหนได้อีก จึงได้ถูกตามจนพบ และได้สังหารองค์หญิงไป๋ทู่ด้วยการตัดศรีษะ
ในนิมิตนั้นองค์หญิงไป๋ทู่ได้บอกลากับราชบุตรเขย ว่า “จากกันคราวนี้
คงจะไม่ได้พบกันอีก” ขณะที่องค์หญิงไป๋ทู่โดนประหารนั้น (ข้าพเจ้าซึ่งดูเหตุการณ์ในนิมิตนั้น
รู้สึกได้ถึงดาบแรกที่ลงมาสัมผัสที่ลำคอ ให้รู้สึกสะดุ้ง หวาดเสียวและตกใจ
ในที่สุดก็ได้เห็นหัวตัวเองหลุดกระเด็นลงพื้น จิตได้แต่คิดว่า……เอ่อ…..ก็ไม่เจ็บแฮะ (เพราะตัดเร็วจึงไม่ทันรู้สึกว่าเจ็บ)
และได้เห็นพระแม่กวนอิม องค์ชายและองค์หญิงแต่งชุดสีขาว
รอองค์หญิงไป๋ทู่อยู่เบื้องบน
เมื่อองค์หญิงไป๋ทู่ถูกประหาร พระแม่ได้ชุบชีวิตให้องค์หญิงไป๋ทู่อีกครั้ง และรับเป็นน้องสาวบุญธรรมพระแม่กวนอิมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กระทั่งภพปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าได้แยกร่าง ในร่างขององค์หญิงไป๋ทู่ลงมาจุติ 87 ปางเพื่อลงมาช่วยเหลือคนบนโลกมนุษย์ และเพื่อให้ผู้คนทั่วหล้าได้รู้จักองค์หญิงไป๋ทู่ในนามน้องสาวบุญธรรมของพระแม่กวนอิม
สำหรับราชบุตรเขยนั้น ภายหลังจากองค์หญิงไป๋ทู่ถูกประหารชีวิต ก็เศร้าโศกเสียใจอย่างมาก กระทั่งตรอมใจเสียชีวิตตามองค์หญิงไป๋ทู่ในขณะอายุ 27 ย่างเข้า 28 ปี ภายหลังจากที่ราชบุตรเขยสิ้นชีวิต องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ (องค์กวนเซ่งตี้กุน) ได้ชุบชีวิตให้ใหม่อีกครั้งและได้เป็นบุตรบุญธรรมของพระองค์ท่านตั้งแต่บัดนั้น
ขณะที่องค์หญิงไป๋ทู่ถูกประหารชีวิตนั้นมีอายุเพียง 24 ปี
พระแม่ได้ชี้แจ้งเพิ่มเติมถึงอดีตชาติของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าติดตามถึงในชาติภพนี้ไว้ดังนี้
· พระสนมที่ช่วยเหลือองค์หญิงไป๋ทู่ในชาติที่แล้ว ชาติภพนี้คือ พี่สะใภ้
· สามีขององค์หญิงไป๋ทู่ซึ่งก็คือราชบุตรเขยในชาติที่แล้ว ชาติภพนี้คือ ขอไม่เอ่ยนามในที่นี้ ซึ่งเป็นร่างแยกของพระมหาสถาปราปต์โพธิสัตว์
· บิดา มารดา ของราชบุตรเขยในชาติที่แล้ว ชาติภพนี้คือ บิดา มารดาของข้าพเจ้า (อากง และอาม่า )
· อดีตภรรยาของราชบุตรเขยชาติที่แล้ว ชาติภพนี้คือ อี๊เกียง
· บุตรชายซึ่งเกิดจากอดีตภรรยาของราชบุตรเขยชาติที่แล้ว ชาติภพนี้คือ ป่าป๊ากู๋
· องค์หญิงไป๋ทู่ในชาติที่แล้ว ชาติภพนี้ คือ ข้าพเจ้าลงมาจุติในนามขององค์หญิงไป๋ทู่
ทั้งนี้พระแม่ได้ชี้แจ้งเพิ่มเติมถึงประวัติความเป็นมาของสนมเปาซื่อ
ในยุคสมัยนั้นโจ้วอ๋องได้ไปลบหลู่องค์เจ้าแม่หนี่วา เห็นว่าองค์ท่านสวย สง่างาม ใคร่อยากได้เป็นภริยา ซึ่งเป็นการลบหลู่ต่อองค์ท่าน ดังนั้นเจ้าแม่หนี่วาจึงได้สั่งให้ปีศาจจิ้งจอกกลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์ที่งดงามมาก ซึ่งก็คือสนมเปาซื่อ เพื่อที่จะให้โจ้วอ๋องหลงใหลจนกระทั่งบ้านเมืองล่มสลาย แต่ทั้งนี้ทายาทที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของสนมเปาซื่อ จะต้องไม่สามารถคงอยู่ต่อไปได้ จึงเป็นเหตุให้องค์หญิงไป๋ทู่ และองค์ชายซึ่งเป็นบุตรของสนมเปาซื่อทุกองค์ต้องจบชีวิตลงในชาติภพนั้น
(ทั้งนี้พระแม่ชี้แจ้งเพิ่มเติม ในชาตินี้องค์หญิงไป๋ทู่ได้แยกจุติ 87 ปาง จึงถือว่าทั้ง 87 ปางนี้นับเป็นชาติภพเดียวเท่านั้น)
นิมิตสมาธิ เห็นพระราชวังแบบของไทยในอนาคต อยู่บริเวณเดียวกับพระราชวังแบบของจีน
วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556
ภายหลังจากนิมิตเห็นอดีตชาติแล้ว พระแม่จึงได้ให้เห็นพระราชวังใหม่ที่จะสร้างในอนาคตนี้ แต่เป็นอีกพระราชวังหนึ่งซึ่งเป็นลักษณะแบบไทย ๆ มีเจดีย์ สีทองอร่ามตั้งอยู่ตรงกลาง ด้านขวาของประตูทางเข้าเป็นวิหารเรียงกัน ซึ่งพระราชวังไทย อยู่บริเวณเดียวกับพระราชวังที่สร้างแบบจีน
จากนิมิตที่เห็นในภาพรวมทั้งหมด ซึ่งได้ถามพระแม่แล้ว
มีลักษณะของพระราชวังจีนคล้าย ๆ กับพระราชวังกู้กง จัตุรัสเทียนอันเหมิน แต่มีพระราชวังใหญ่อยู่ตรงกลาง มีพื้นที่ลานว่างมีตำหนักล้อมรอบ มีตำหนักต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 100 ตำหนัก พระราชวังของจีนตั้งอยู่ทางด้านซ้าย
ส่วนทางด้านขวาเป็นพระราชวังส่วนของไทย มีเจดีย์สีทองตั้งอยู่ตรงกลาง และมีตำหนักซ้ายและด้านหลัง ขององค์เจดีย์รวมจำนวน 100 ตำหนัก ด้านขวามือเป็นวิหาร
พระราชวังทั้ง 2 นี้ตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณเดียวกัน ประตูทางเข้าพระราชวังอยู่ฝั่งพระราชวังไทย เมื่อเข้าไปแล้วจะมีทางเข้าไปยังพระราชวังฝั่งจีนได้
ทั้งนี้พระแม่ชี้แจ้งให้ข้าพเจ้าวาดภาพจำลองพระราชวังตามนิมิต
นิมิตสมาธิ เห็นการประทะของมวลมหาชนและทหาร ผู้คนล้มตายมากมาย
วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556
วันนี้อากาศหนาวมาก ข้าพเจ้าไม่ค่อยสบายเพราะติดหวัดจากบุตรสาว แต่ก็ยังคงพยายามตื่นมานั่งทำสมาธิตอนตี 4 เมื่อจิตรวมได้สักพักได้มีนิมิตเห็น มหามวลชนมากมายกำลังต่อสู้กับอีกกลุ่มซึ่งอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาลแต่มองไม่เห็น แต่รู้ได้ว่าคือทหาร ฝุ่นควันคลุ้งเต็มไปทั่ว ผู้คนล้มตาย เห็นคนช่วยกันหามคนตายออกจากจุดปะทะ เห็นแล้วช่างน่าสลดใจยิ่งนัก รุ่งเช้าได้ถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้งนั่นคือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้
อีกทั้งพระแม่ชี้แจ้งในอนาคตหากมีการเลือกตั้ง ก็จะเป็นโมฆะทุกครั้ง เพราะสวรรค์กำหนดไม่ให้การเลือกตั้งสำเร็จได้ ภายหลังการปฏิวัติรัฐประหารจะมีการถอดถอน รักษาการนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตรออกจากตำแหน่ง
พระแม่ชี้แจ้ง เวลานี้มีองค์และเหล่าผู้กล้ามาอยู่กับพระแม่และข้าพเจ้าร่วมหลายล้านล้านล้านองค์
วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556
วันนี้อากาศหนาวมาก ข้าพเจ้าจึงเปลี่ยนเวลานั่งทำสมาธิ เริ่มนั่งในเวลา 3 ทุ่มครึ่ง ขณะที่หลับตาลงได้เห็นภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะเหตุการณ์ขององค์หญิงไป๋ทู่ และได้เห็นใบหน้าขององค์หญิงไป๋ทู่อย่างชัดเจน พร้อมทั้งรอยยิ้มขององค์หญิงไป๋ทู่ ช่างเป็นหญิงที่งดงามไม่มีที่ติ ใบหน้าทรงไข่ จมูกโด่ง ตาคม ปากเล็ก งดงามที่สุดในยุคสมัยนั้น (จากนิมิตที่เห็น ข้าพเจ้าคิดว่าสวยกว่าไซซีก็ว่าได้ จึงไม่แปลกใจที่ถูกสั่งประหารเพราะงดงามเกินไป ภาพวาดที่ข้าพเจ้าวาด ความงามไม่อาจเทียบกับองค์จริงได้เลย เพราะข้าพเจ้าไม่สามารถวาดได้สวยกว่านี้แล้ว) องค์หญิงไป๋ทู่และครอบครัวพร้อมชาวบ้านกำลังอพยพหนี ในเวลานั้นบ้านเมืองเสื่อมโทรม ยากจนแร้นแค้นยิ่งนัก องค์หญิงไป๋ทู่เองก็รู้ว่าตัวเองต้องตายเพราะเหตุใด แต่ที่น่าเสียใจยิ่งกว่าคงเป็นพระสวามีขององค์หญิงไป๋ทู่ ซึ่งต้องทนทุกข์กับการสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รักถึง 2 ครั้ง
บุตรสาวได้บอกกับข้าพเจ้าว่า ในห้องนอนเรามีองค์ที่หม่าม๊าไม่รู้จักมาอยู่ด้วยเต็มไปหมด มีเป็นหลายล้านล้านล้านองค์ ข้าพเจ้าจึงได้ถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้งเป็นจริงตามที่บอก และทุกองค์นอนห้องเดียวกับข้าพเจ้าจะเนรมิตร่างเป็นองค์เล็ก ๆ เท่ามด นอนเรียงกันเป็น ชั้น ๆ อย่างเป็นระเบียบ ส่วนบ้านของแต่ละองค์ได้ยกลงมาจากสวรรค์เรียงกันเป็นระเบียบตรงผนังห้อง ภายในห้องจะมีเฟอร์นิเจอร์ครบครันเหมือนดั่งคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน
นิมิตดวงตาทิพย์ เห็นกองทัพทหารเข้าทำการรัฐประหาร ปฏิวัติบ้านเมือง
วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557
ค่ำนี้ข้าพเจ้านั่งทำสมาธิตอน 3 ทุ่ม ขณะนั่งทำสมาธิได้เห็นกองทัพทหารมากมายเข้าทำการปฏิวัติรัฐประหารบ้านเมือง เมื่อออกจากสมาธิจึงได้รีบทำพระแม่ พระแม่ชี้แจ้งจะเป็นจริงดังที่เห็น
วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557
ภายหลังจากบ้านเมืองถึงจุดต่ำสุด ทหารปฏิวัติเกิดสงครามกลางเมือง มีการนองเลือดมากมาย บ้านเมืองเสื่อมโทรมถึงที่สุดแล้ว พระแม่ชี้แจ้งหลังจากนั้นข้าพเจ้าจึงจะได้เริ่มปฏิบัติภารกิจ
ช่วงนี้อากาศหนาวมาก ข้าพเจ้าได้ถักชุดคลุมให้องค์ท่านที่ประทับที่ร้านใส่ เพื่อที่องค์ท่านจะได้อุ่น ลูกบอกว่าทุกองค์บอกว่า แทงค์กิ้ว
ภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ร้านกับชุดใหม่สำหรับหน้าหนาวที่ข้าพเจ้าถักถวาย
ปาฏิหาริย์ องค์หญิงตัดผม
วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557
ค่ำวันนี้กลับจากร้านมาถึงในห้องนอน เห็นกรรไกรและเส้นผมที่ถูกตัดแล้วอยู่บนโต๊ะแป้ง และตามพื้นห้องนอน ซึ่งลูกและหลานสาวต่างก็บอกว่าไม่ได้ตัดผมตนเอง ข้าพเจ้า อี๊เกียง และอาม่า ได้พยายามหวีผมลูกดูเพื่อดูว่ามีส่วนใดที่ถูกตัดไปบ้าง แต่ก็ไม่พบรอยตัด เมื่อข้าพเจ้าถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้ง เป็นผมขององค์หญิง เพราะองค์หญิงเห็นว่า ลูกสาวและหลานสาว อี๊เกียงตัดผมให้ดูสวย เลยอยากตัดบ้าง แต่กลัวหม่าม๊าดุ เลยนิ่งเงียบ
เส้นผมองค์หญิงข้าพเจ้า และอาม่าได้แบ่งเก็บไว้พกติดตัวเป็นที่ระลึก
เมื่อไม่กี่วันมานี้ข้าพเจ้าได้มีนิมิตเห็นพระแม่กวนอิม กำลังจูงมือองค์ชายและองค์หญิงกำลังจะไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งอย่างมีความสุขมาก
ภาพนิมิตพระแม่จูงมือองค์ชายองค์หญิง
นิมิตเห็นระเบิดลงในกลุ่มผู้ชุมนุม ผู้คนล้มตายมากมาย
วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
เช้านี้ข้าพเจ้าตื่นมานั่งทำสมาธิตอนตี 3 ได้มีนิมิตเห็นภาพมวลชนกำลังประท้วงกันมากมาย สักครู่ได้มีระเบิดลงกลางกลุ่มมวลชน ทำให้มีผู้คนล้มตายมากมาย
ต่อมาจึงได้ปรากฏนิมิตเห็นเมืองเชียงใหม่ในอนาคต มีทางด่วน โทลเวย์ รถวิ่งกันมากมาย แต่รถไม่ติด มองแล้วเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ผู้คนอยู่กันอย่างสงบ รุ่งเช้าได้ถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้งจะเกิดขึ้นตามนี้
แพทย์ยืนยัน อาการป่วยของข้าพเจ้าหายเป็นปกติแล้ว ไม่ต้องรักษาไม่ต้องทานยาอีกต่อไป
วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
จากนิมิตเมื่อคราวก่อน ซึ่งข้าพเจ้าได้นิมิตว่าข้าพเจ้าอยู่บนสวรรค์ป่วยหนักกำลังจะสิ้นใจ มี พระแม่ดูแลอยู่ข้าง ๆ สักครู่ได้ยินเสียงพระพุทธองค์บอกกับพระแม่ว่า มียารักษา ให้เอายามารักษา จากนั้นพระแม่จึงได้รีบเหาะไปเอายามารักษา ข้าพเจ้าจึงหายป่วยทันที ในนิมิตครั้งนั้นข้าพเจ้าได้ถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้ง อาการป่วยของข้าพเจ้าหายเป็นปกติแล้ว ไม่ต้องรักษา ไม่ต้องทานยาอีกต่อไป
ภายหลังจากนายแพทย์ผู้ทำการรักษาข้าพเจ้า ณ โรงพยาบาลลานนา ได้ส่งตัวให้ข้าพเจ้าไปรักษา ณ โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม เนื่องจากอาการป่วยของข้าพเจ้าในเวลานั้นหนักมาก
มีอาการข้างเคียงมากมาย จึงได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่เชียงใหม่ราม ซึ่งทางคุณหมอ ได้ให้ข้าพเจ้าไปตรวจเลือดที่ รพ.ลานนา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557 และนัดตรวจอาการอีกครั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ในเวลา 20.00 น. ซึ่งมีอี๊เกียงไปด้วย
ภายหลังจากการตรวจ คุณหมอได้บอกรายละเอียดการรักษาตั้งแต่เมื่อครั้งอยู่กรุงเทพฯ จนกึงปัจจุบัน และได้ตรวจร่างกายทั้งหมดพร้อมทั้งข้อมูลจากผลการตรวจเลือด ทุกอย่างปกติ ตับ ไต เลือด ปกติ ไม่พบเชื้อไวรัสในร่างกาย ไม่เป็นกลุ่มโรค SLE กระดูกปกติไม่บวม ดั้งนั้นหมอจึงบอกว่า ร่างกายปกติทุกอย่างไม่ต้องทานยาอีกต่อไป ซึ่งคุณหมอก็งง และบอกว่า แล้วมารักษาอะไร และถามต่อว่า แล้วที่ผ่านมาคืออะไร ข้าพเจ้ากับอี๊เกียงได้แต่นั่งหัวเราะร่วมกับคุณหมอเท่านั้น ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้นเอง พระแม่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์อยู่ที่โรงพยาบาลกับข้าพเจ้า ยังไม่ได้กลับบ้าน
ทุกคนในบ้านต่างดีใจยิ่งที่ข้าพเจ้าหายป่วยจากโรคนี้ได้ ตัวข้าพเจ้าเองเหมือนได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง ไม่ต้องทรมานกับอาการปวดกระดูก อาการชาจนไม่สามารถนอนหลับได้ ตลอดการรักษา 8 ปีที่ผ่านมานี้ข้าพเจ้าทรมานแทบทุกวัน จนอยากจะฆ่าตัวตายวันละหลาย ๆ รอบ บางครั้งอยากได้มีดมาเชือดเฉือนเอากระดูกออก จะได้หายปวด บางครั้งก็อยากใช้ไฟฟ้ามาช๊อตทั้งตัว เลือดจะได้หมุนเวียนดีไม่ต้องทรมานกับอาการชา หัวใจสั่นเต้นแรง กระทั่งไม่สามารถหลับนอนได้ทั้งคืน
แต่ในเวลานี้ พระพุทธองค์ พระแม่ได้รักษาให้ข้าพเจ้าหายเป็นปกติแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้ซื้อของถวายกราบขอบพระคุณ พระพุทธองค์ พระแม่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์
นิมิตการได้พบรักกับองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วทั้ง 9 องค์ หรือองค์พระยูไล
วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557
เช้านี้ข้าพเจ้าได้มีนิมิต ว่าได้ทำนายดวงชะตาของหญิงสาวผู้หนึ่ง อายุ 40 ปี แต่หน้าตาดูอ่อนเยาว์ ข้าพเจ้าได้ทำนายดวงให้หญิงผู้นั้นว่า ดวงชะตาบุตรดีมาก เป็นอภิชาติบุตร เรียนหนังสือเก่งระดับเกียรตินิยมในวันข้างหน้า และในอนาคตจะได้พบเนื้อคู่ซึ่งเป็นมหาเทพจากสรวงสวรรค์ ซึ่งคือองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วทั้ง 9 องค์ มหาเทพสูงสุดแห่งสรวงสวรรค์ แบบไม่คาดคิด จากนั้นข้าพเจ้าจึงออกจากนิมิต และถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้ง นิมิตดวงชะตาที่ทำนายนั้นคือดวงชะตาของข้าพเจ้าเอง และองค์ท่านได้มาอยู่กับข้าพเจ้าได้ระยะหนึ่งแล้ว
ท่านยมบาล และท่านหน้ากระทิง กำลังเล่นน้ำในสระกับข้าพเจ้าและอาม่า
วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557
วันนี้หยุดอยู่บ้าน อากงได้ตั้งสระน้ำให้เด็ก ๆ เล่น ส่วนข้าพเจ้าและอาม่าเล่นตอนค่ำ ๆ จึงให้ลูกสาวถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่วันนี้แมลงเยอะมาก จึงเปิดไฟไม่ได้ ภาพจึงไม่ค่อยชัดเท่าที่ควร
ภาพท่านหน้ากระทิง กำลังจะเล่นน้ำในสระกับข้าพเจ้า
นิมิตองค์จี้กงไว้ผมลองทรง อยากทำสีผมแฟชั่น ใช้ครีมหน้าใสที่ข้าพเจ้าขาย และให้วาดภาพเหมือน
วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557
เช้านี้ได้มีนิมิตเห็นชายวันกลางคน หน้าตาคมเข้ม ไว้ผมลองทรงดำขลับ มาคุยกับข้าพเจ้า บอกว่าอยากจะทำสีผมแฟชั่น และอยากให้หน้าดูขาวใส หน้าเด้ง ภายหลังออกจากนิมิต ข้าพเจ้านั่งคิดว่า ชายหนุ่มนี้หน้าตาคุ้น ๆ นึก ๆ แล้วดูคล้ายองค์จี้กง จึงได้ถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้ง องค์จี้กงอยากทำสีผมแฟชั่น ทุกวันนี้ใช้ครีมหน้าใสที่ข้าพเจ้าถวายอยู่แล้ว และต้องการให้ข้าพเจ้าวาดภาพเหมือนองค์ท่านตอนทำสีผมเสร็จแล้ว สีที่เป็นที่นิยมในตอนนี้คือ สี บลอนด์ประกายเขียวเหลือบทอง และให้ข้าพเจ้าซื้อถวายด้วย
พระแม่ชี้แจ้ง ณ เวลานี้ข้าพเจ้าเหยียบภพที่ 2 แล้ว
วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557
เย็นนี้พระแม่ได้ชี้แจ้ง ณ เวลานี้ ภายหลังจากข้าพเจ้าบรรลุมหาเทพสูงสุดแล้ว จึงค่อยทำหน้าที่ในแต่ละภพให้สำเร็จเสร็จสิ้น ซึ่งในเวลานี้ สรวงสวรรค์มีมหาเทพสูงสุดทั้งสิ้น 18 องค์ อันได้แก่
1. พระสุเมธะสัมมาสัมพุทธเจ้า (องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว องค์ที่ 1 ได้แยกร่างอีก 8 องค์ลงมาจุติใสแต่ละยุคสมัย )
2. พระสุชาตะสัมมาสัมพุทธเจ้า (องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว องค์ที่ 2)
3. พระอัตถทัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า (องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว องค์ที่ 3)
4. พระกัสสปะพุทธเจ้า (องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว องค์ที่ 4)
5. พระพุทธเจ้าเมธังกร (องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว องค์ที่ 5)
6. พระพุทธเจ้าสุมังคละ (องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว องค์ที่ 6)
7. พระพุทธเจ้าโกณฑัญญะ (องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว องค์ที่ 7)
8. พระปัทมปาณิโพธิสัตว์ (องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว องค์ที่ 8)
9. พระมหาสถาปราปต์โพธิสัตว์ (องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว องค์ที่ 9) ทั้งนี้องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วทั้ง 9 องค์มีใบหน้า อุปนิสัย รูปร่างที่เหมือนกันราวฝาแฝดก็ไม่ปาน เว้นแต่ พระสุชาตะสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้สร้างกายทิพย์ข้าพเจ้า อันจะกล่าวถึงในภายหลังจากนี้ จะมีดวงตาที่ไม่เหมือนองค์อื่น ๆ
10. องค์ไท้ส่วย รวมร่าง 60 องค์ เป็นฝาแฝดทั้ง 60 องค์
11. พระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้า
12. องค์พญาครุฑ
13. องค์ยมบาล
14. องค์จี้กง
15. องค์สังกัจจายน์
16. พระอิศวร
17. หลวงพ่อโสธร
18. มหาเทพสูงสุดในอดีตกาล ขอไม่เอ่ยในที่นี้
มหาเทพสูงสุดในอดีตกาลในที่นี้คือ
ต้นกำเนิดของมหาเทพทุกองค์ คือผู้สร้างสรวงสวรรค์ สร้างปฐพี
สร้างจักรวาลทั้งหลาย ซึ่งองค์ท่านจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้
(ตามภาพวาดที่ข้าพเจ้าได้วาดไว้
ผู้คนสามารถจะเห็นองค์เป็นชายหรือหญิงก็ได้
แล้วแต่สายตามนุษย์แต่ละคนจะเห็นในแต่ละมุมมองที่แตกต่างกันจากภาพที่ข้าพเจ้าวาด)
ก่อนที่ข้าพเจ้าจะลงมาจุติ ข้าพเจ้าใช้ร่างแยกของพระแม่กวนอิม และใช้อดีตชาติขององค์หญิงไป๋ทู่ เพื่อจุติเป็นผู้หญิงในเวลานี้นั้น พระสุชาตะสัมมาสัมพุทธเจ้าได้สร้างหุ่นยนต์ เป็นกายทิพย์บนสรวงสวรรค์มาเนิ่นนานหลายหมื่นปีมาแล้ว เพื่อให้ลงมาติดตามข้าพเจ้า และปฏิบัติภารกิจในชาติภพนี้
ทั้งนี้คือข้าพเจ้าในเวลานี้ ซึ่งเป็นภริยาขององค์มหาเทพสูงสุดทั้ง 13 องค์แห่งสรวงสวรรค์มาเนิ่นนานแล้ว
และบัดนี้เมื่อข้าพเจ้าได้จุติเป็นมนุษย์ ซึ่งจะทำหน้าที่ในนาม สวรรค์ อีกครั้ง
ข้าพเจ้าจึงยังคงต้องเป็นภริยาขององค์มหาเทพสูงสุดทั้ง 13
องค์ภายหลังจากข้าพเจ้าบรรลุขั้นสูงสุดในระดับมหาเทพในร่างมนุษย์นี้แล้ว
แต่ทว่า หลายองค์ในภพปัจจุบันนี้เป็นที่เคารพ ศรัทธา และนับถือของผู้คนทั่วหล้า จึงไม่อาจเนรมิตกายดังมนุษย์เพื่อเป็นพระสวามีของข้าพเจ้าในชาติภพนี้ได้ จึงกำหนดให้เป็นเพียงพี่ชาย มีหน้าที่ดูแลข้าพเจ้าในทุก ๆ ด้าน และสำหรับองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วทั้ง 9 องค์นั้น จะเนรมิตกายดังมนุษย์มาอยู่ร่วมกันกับข้าพเจ้าในฐานะ พระสวามีในชาติภพนี้เป็นต้นไปสืบจนเบื้องหน้า ทุกชาติภพ และเบื้องบนแห่งสรวงสวรรค์ตลอดชั่วกัลปาวสาน ชั่วนิจนิรันดร์ดร หากแต่คงมีเพียงข้าพเจ้าเท่านี้นที่จะเห็นและสัมผัสองค์ท่านได้ดั่งมนุษย์
และในชาติภพนี้ ข้าพเจ้า มหาเทพสูงสุด ได้จุติลงมาในร่างแยกของพระแม่กวนอิม และใช้อดีตชาติขององค์หญิงไป๋ทู่ เพื่อทำหน้าที่ในชาติภพนี้ และเพื่อให้ทั่วหล้าได้รู้จัก อดีตชาติขององค์หญิงไป๋ทู่ ซึ่งคือน้องสาวบุญธรรมพระแม่กวนอิม และประวัติขององค์ชายอั้งไห้ยี้ องค์หญิงนาจา และให้ผู้คนหันมาศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์ ดังนั้น นับจากนี้บันทึกนี้ข้าพเจ้าจะเป็นตัวแทนขององค์หญิงไป๋ทู่ และพระแม่กวนอิมในการกล่าวถึงอดีตชาติขององค์หญิงไป๋ทู่ให้เป็นที่รับรู้โดยทั่วกัน
และข้าพเจ้า จักได้ปฏิบัติให้ผู้คนทั่วหล้าได้รับรู้ว่าการจะบรรลุในทางธรรมอันให้ถึงขั้นมหาเทพสูงสุดนั้นต้องฟันฝ่าอุปสรรค และมีความเพียรพยายามมากเพียงใด อันจะเป็นบุคคลตัวอย่างแก่ผู้คนทั่วหล้านับจากนี้เป็นต้นไปในการมุ่งมั่นปฏิบัติให้ถึงนิพพานได้
และในเวลานี้ ข้าพเจ้าได้เหยียบภพที่ 2 แล้ว ซึ่งเป็นเหล่าดวงวิญญาณใต้พิภพ เป็นการช่วยเหลือเหล่าดวงวิญญาณ สัมภเวสี วิญญาณที่ถูกอำนาจของคุณไสย มนต์ดำต่างๆ ให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรมไปสู่ภพภูมิใหม่ที่ดีกว่าภพเดิม ซึ่งล่าสุดนี้ 2 วันที่ผ่านมา พระแม่ ได้ให้ข้าพเจ้าช่วยเหลือเหล่าดวงวิญญาณที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจมนต์ดำ ที่โดนอาคมอย่างแรงกล้าไปสู่ภพภูมิใหม่ได้มากมาย อีกทั้งได้ช่วยเหลือเหล่าดวงวิญญาณที่สถิตย์อยู่แถวร้านที่ข้าพเจ้าเช่าอยู่และบริเวณใกล้เคียงไปสู่ภพภูมิใหม่ได้
ทั้งนี้ดวงวิญญาณที่อยู่ใต้อำนาจมนต์ดำนั้น มีหลายประเภท โดยเฉพาะประเภทที่โดนอำนาจอาคมแรงกล้าควบคุมไว้ ต้องอาศัยบารมีขององค์ชายอั้งไห้ยี้ องค์หญิงนาจา พระแม่กวนอิม และมหาเทพแห่งสรวงสวรรค์เท่านั้นจึงจะสามารถช่วยดวงวิญญาณเหล่านี้ไปสู่ภพภูมิใหม่ได้
ในเวลานี้ถือว่าข้าพเจ้าได้ช่วยเหลือและปฏิบัติภารกิจในภพที่ 2 นี้ได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนตามที่เบื้องบนกำหนดแล้ว
จากนี้ไปข้าพเจ้าต้องเพียรปฏิบัติเพื่อที่จะสามารถเหยียบภพที่ 3 คือภพเบื้องบนต่อไป
นิมิตจากพระแม่และองค์ชายองค์หญิง ให้เห็นเหตุการณ์ขณะลงมาจุติในชาติภพนี้ขององค์หญิงไป๋ทู่ และราชบุตรเขย และพาท่องแดนนรกและสวรรค์
วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2557
เช้านี้ประมาณตี 5 ข้าพเจ้าได้มีนิมิตเห็นองค์ชายองค์หญิงพาข้าพเจ้าไปดูเหตุการณ์เมื่อชาติที่แล้ว
คือองค์หญิงไป๋ทู่และราชบุตรเขย (ใบหน้าเหมือนภาพที่ข้าพเจ้าได้วาดก่อนหน้านี้) ก่อนที่ข้าพเจ้าจะลงมาเกิด
องค์ชายอั้งไห้ยี้ได้แสดงอภินิหารให้ดู โดยการพ่นไฟออกจากฝ่ามือ
จากนั้นทำให้ทั้งตัวมีแต่ไฟล้อมรอบ ข้าพเจ้าเห็นแล้วก็ตื่นเต้นอยากทำบ้าง
พอลองทำดูไฟกำลังจะติดฝ่ามือ สักพักก็ดับไป ข้าพเจ้าจึงถามองค์ชายว่า…ร้อนหรือเปล่าอะ องค์ชายตอบว่า ไม่ร้อนนะ
ส่วนองค์หญิงนาจานั้นพ่นไฟออกทางปาก (เป็นอันว่าข้าพเจ้าลองแล้วไม่สำเร็จเท่าที่ควร)
จากนั้นองค์ชายและองค์หญิงได้พาไปท่องแดนนรกภูมิ
และได้เห็นขั้นตอนการทำงานอย่างมีระบบ ระเบียบภายในนรก
หน้าประตูทางเข้ามีผู้ดูแลคุมปากทางเข้าประตู เมื่อไปถึงทหารมากมายได้ออกมาตั้งแถวคล้ายกองทัพทหาร
แต่งกายชุดสีน้ำตาล มือถือทวนยาว และมีนายกองอยู่ด้านหน้าสุดได้กล่าวสั่งแถวว่า
“ทั้งหมดแถวตรง ทำความเคารพ” ทุกคนในกองยืนตัวตรง เท้าชิด ทำความเคารพ
จากนั้นข้าพเจ้าและราชบุตรเขย
พร้อมทั้งองค์ชายและองค์หญิงจึงได้เข้าไปตามทางประตูนรก
ซึ่งดูคล้ายอุโมงค์ขนาดใหญ่ พอเข้าประตูนรกไปตามทางเดินถึงด้านใน ในนรกมีลำดับการทำงานเป็นชั้น ๆ
ตามกรรมหนักหรือเบา โดยชั้นบนสุดจะเป็นที่สำหรับคนที่สร้างกรรมน้อยที่สุด
เมื่อถึงระหว่างทางผ่านไปราว 4 ชั้น ก็ได้พบท่านยมบาล องค์ท่านแต่งกายชุดสีดำล้วน ใส่หมวกมีเขา มีหนวด
หน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม องค์ใหญ่กว่าบ้าน 2 ชั้น นั่งอยู่บนบัลลังก์
พร้อมทั้งมีสมุนอีก 2 ท่านยืนประกบด้านซ้ายและขวา ข้าพเจ้าได้พบและพูดคุยกับท่านยมบาล
บรรยากาศในนรกช่างวังเวง อึมครึม น่ากลัว
เมื่อท่านยมบาลตรวจดูข้อมูลแล้วพบว่า ทั้ง 2
คนไม่มีกรรมอะไร จากนั้นองค์ชายองค์หญิงจึงได้พาไปแดนสวรรค์
ได้พบและพูดคุยกับองค์ชายองค์หญิง แต่งกายผ้าแพรชุดสีฟ้าอ่อนนั่งอยู่บนก้อนเมฆ
จากนั้นข้าพเจ้าก็ได้ลงมาเกิดใหม่พร้อมกับราชบุตรเขย ข้าพเจ้าได้บอกกับ องค์ชายว่า แล้วจะกลับขึ้นมาใหม่อีกนะ จะกลับขึ้นมาอย่างแน่นอน
ลักษณะนิสัย กิริยาท่าทาง ดูแล้วคล้าย ๆ กับข้าพเจ้าในเวลานี้
และในขณะที่กำลังเหาะลงมาจากเบื้องบน องค์ชายองค์หญิงได้ให้พรมข้าพเจ้าเพื่อนั่งเหาะลงมา ข้าพเจ้านั่งบนพรมที่องค์ชายองค์หญิงให้ด้วยความตื่นเต้น เนื่องด้วยความเหาะด้วยความเร็วสูงมาก และองค์ท่านได้ลงมาส่งครึ่งทาง ขณะที่เหาะลงมาพร้อมราชบุตรเขยพอถึงครึ่งทาง ราชบุตรเขยได้ลงไปเกิดอีกแห่งหนึ่ง โดยถึงเบื้องล่างก่อนข้าพเจ้าไม่นานนัก ข้าพเจ้าก็ได้ลงมาถึงเบื้องล่าง และปรากฏตนเองมีรูปร่างหน้าตาดั่งเช่นทุกวันนี้ และ อยู่ที่ลานนั่งเล่นในบ้านในหมู่บ้านสิรินโฮม 2 บ้านที่อยู่ ณ ปัจจุบันนี้ ซึ่งพระแม่ชี้แจ้งนั่นเป็นเหตุการณ์ในช่วงขณะที่ข้าพเจ้าและราชบุตรเขยกำลังจะลงมาเกิด
ภาพองค์ชายแสดงอภินิหารพ่นไฟออกจากตัว ส่วนองค์หญิงนาจานั้นจะพ่นไฟออกทางปาก ส่วนข้าพเจ้านั้นพ่นได้เล็กน้อย
ภาพปากทางเข้านรกภูมิ มีผู้คุมหลายกองพลออกมาแสดงความเคารพ
ภาพพบท่านยมบาล ตรวจรายละเอียดแล้วไม่พบกรรมใด ๆ
ทั้งนี้ท่านหน้าวัว และท่านหน้ากระทิง สามารถเนรมิตกายเป็นหน้าคน รูปหน้าคล้าย ๆ ท่านยมบาลได้
ภาพพบองค์ชายองค์หญิงรวมร่างนั่งรออยู่บนก้อนเมฆ
ภาพขณะลงมาจุติพร้อมราชบุตรเขยสู่ชาติภพปัจจุบัน
นิมิตพระแม่ได้เตรียม “คฑา” ให้ข้าพเจ้าแล้ว
วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557
เช้านี้ได้มีนิมิต พระแม่ชี้แจ้งว่า ได้จัดเตรียม คฑา ให้ข้าพเจ้าแล้ว มีขนาดยาว 1 เมตร เป็นไม้สีเงิน ด้านบนเป็นวงกลมภายในมีรูปดาว ซึ่งประมาณปีที่แล้ว บุตรสาวได้เคยบอกข้าพเจ้าว่า พระแม่เตรียมคฑา ไว้ให้ข้าพเจ้าแล้ว และได้วาดรูปให้ดูในตอนนั้นซึ่งเหมือนกับที่ข้าพเจ้านิมิตเห็นในวันนี้
ตัวอย่างภาพวาด ไม้คฑา ที่พระแม่ทรงเตรียมไว้ให้สำหรับปฏิบัติภารกิจ
พระแม่ชี้แจ้ง เร็ว ๆ นี้ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินให้รักษาการณ์นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง และนายสุเทพ เทือกสุบรรณไม่ได้เป็นนายก ฯมาตรา 7
วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2557
วันนี้พระแม่ได้ชี้แจ้ง
ในเร็ววันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินให้รักษาการณ์นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง และนายสุเทพ
เทือกสุบรรณ ไม่ได้เป็นนายกฯตามมาตรา 7
พระแม่ชี้แจ้ง ถึงเวลาข้าพเจ้าหยุดปฏิบัติภารกิจการ ดูดวงสำหรับบุคคลทั่วไปชั่วคราว
วันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557
วันนี้พระแม่ได้ชี้แจ้ง ถึงเวลาที่ข้าพเจ้าควรหยุดภารกิจการดูดวงแล้ว เนื่องจากข้าพเจ้าได้ปฏิบัติภารกิจนี้สำเร็จตามที่เบื้องบนกำหนดแล้ว ข้าพเจ้าเริ่มหัดดูดวงตั้งแต่อายุ 16 ปีในขณะที่เรียนอยู่ชั้นมัยธมศึกษาปีที่ 2 จวบจนถึงปัจจุบันนี้กระทั่งได้เหยียบภพที่ 2 เมื่อไม่นานมานี้ จึงเป็นอันสิ้นสุดภารกิจการดูดวงสำหรับบุคคลทั่วไป จะดูได้เฉพาะรายบุคคลที่พระแม่กำหนดเท่านั้นและจากนี้ไปพระแม่ให้ปฏิบัติสมาธิเพื่อรอการปฏิบัติภารกิจใหม่ในลำดับต่อไป
เส้นผมองค์หญิงนานา
วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2557
ทุกเช้าภายหลังจากตื่นนอน ข้าพเจ้าจะจัดผ้าห่มคลุมหมอนของพระแม่และองค์หญิงนานาทุกครั้ง เมื่อถึงเวลานอนก็จะทำการพับผ้าห่มส่วนที่ห่มคลุมหมอนไว้ลงเล็กน้อยเพื่อให้องค์ท่านห่มได้พอดี วันนี้ก็เช่นเดียวกันก่อนเข้านอนข้าพเจ้าได้ทำการพับผ้าห่มส่วนที่คลุมหมอนไว้ ขณะที่เปิดผ้าห่มได้พบว่าที่หมอนขององค์หญิงนานามีเส้นผม 3 เส้นมีลักษณะเส้นเล็กบาง ยาว 1 คืบครึ่ง สีผมสีน้ำตาลอ่อน เส้นผมเส้นเล็กซึ่งต่างจากผมของลูกสาวและองค์หญิงนาจา เมื่อถามเด็ก ๆ ในบ้านทุกคนบอกว่าไม่ได้เข้าไปนอนเล่น ข้าพเจ้าจึงได้ถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้งเป็นเส้นผมขององค์หญิงนานาเอง ข้าพเจ้าและอาม่าจึงได้ทำการเก็บเส้นผมไว้เป็นที่ระลึก
นิมิต สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องสูงทั้งหมดลงมาจากสวรรค์แล้ว
วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557
เช้านี้ข้าพเจ้ามีนิมิตว่ามีหญิงกลุ่มหนึ่งมาบอกข้าพเจ้าว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดโดยเฉพาะองค์ สูง ๆ ได้ลงมาจากสวรรค์แล้ว ข้าพเจ้าบอกว่า ใช่แล้ว ตอนนี้ฝั่งองค์พระศิวะลงมาแล้ว พระอวโลกิเตศวรกำลังจัดเตรียมกระเป๋าเสื้อผ้า สัมภาระ มีกระเป๋าเป้ประมาณ 7-8 ใบและกำลังจะลงมาแล้ว จากนั้นนิมิตจึงหมดไป รุ่งเช้าตื่นนอนข้าพเจ้าได้ถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้ง ณ เวลานี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์ สูง ๆ ทั้งหมดได้ลงมาจากสวรรค์แล้ว เมื่อก่อนนี้บางองค์จะไป ๆ มา ๆ แต่ตอนนี้ได้ลงมาประทับที่บ้านเราบางส่วน บางองค์ท่านไปประทับที่วัดวาอาราม วิหารต่าง ๆ เนื่องจากที่บ้านเราคับแคบองค์ท่านไม่สามารถอยู่ได้ แต่อีกไม่นานนี้เมื่อเราเข้าบ้านใหม่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดทุกๆ องค์จะเข้าไปประทับที่บ้านใหม่พร้อมกัน
เหตุผลที่องค์ท่านลงมาจากสวรรค์ เนื่องจากใกล้ถึงเวลาแล้ว โดยเฉพาะเหตุการณ์บ้านเมืองและภารกิจที่ต้องปฏิบัติ ทุกองค์ลงมาเตรียมงาน
ภาพวาดตัวอย่างนิมิต องค์พระอวโลกิเตศวรจัดเตรียมกระเป๋าสัมภาระเตรียมลงมาอยู่บนโลกมนุษย์
นิมิต สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทดสอบจิต และความพร้อมของข้าพเจ้า ครั้งที่ 1
วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2557
เช้านี้ข้าพเจ้าได้มีนิมิตว่า ได้มีคนนำเงินมาให้ข้าพเจ้าจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน พร้อมทั้งส่งเงินให้ข้าพเจ้าถือไว้เป็นแบงค์พันราวหลายแสนบาท ซึ่งข้าพเจ้าได้โยนทิ้งไปและบอกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่อยากได้ไม่ต้องการเลยแม้แต่บาทเดียว จากนั้นก็ได้ไปยังสถานธรรมแห่งหนึ่ง อาม่ากำลังจัดเตรียมของไหว้พระตามจุดต่าง ๆ ซึ่งมีองค์ประทับแต่ละจุดมากมาย ข้าพเจ้าจึงได้กราบไหว้สิ่งศักดิ์แต่ละจุด โดยเริ่มจากองค์ทีกง และองค์หนี่ออเนี่ยเนี๊ย ตามด้วยพระพุทธองค์ พระแม่กวนอิม และอีกหลาย ๆ องค์ที่ข้าพเจ้ายังไม่รู้จักองค์ท่านก็มี โดยแต่ละจุดที่ข้าพเจ้ากราบไหว้ ข้าพเจ้าจะขอองค์ท่านให้ช่วยให้บ้านเมืองสงบ เจริญรุ่งเรือง ให้ทุกคนอยู่อย่างมีความสุข แต่สุดท้ายข้าพเจ้านึกได้ว่าลืมขอให้ตนเอง จึงได้ขอให้ตนเองร่ำรวย ก่อนที่จะออกจากนิมิต เมื่อถามพระแม่แล้ว พระแม่ชี้แจ้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ทดสอบจิต และความพร้อมของข้าพเจ้าก่อนที่จะปฏิบัติภารกิจ ซึ่งในเวลานี้จิตเกือบผ่านแล้ว (ยังไม่ผ่าน) เพราะจิตยังมีความต้องการให้ตนเองหลงเหลืออยู่จึงเป็นเหตุให้จิตยังไม่พร้อมอย่างสมบูรณ์
วันนี้ข้าพเจ้าได้นั่งวาดรูปองค์ราชบุตรเขย ซึ่งเป็นพระสวามีขององค์หญิงไป๋ทู่ ภพปัจจุบันคือ ขอไม่เอ่ยนามในที่นี้ ซึ่งเป็นร่างแยกของพระมหาสถาปราปต์โพธิสัตว์เพิ่มเติมอีกภาพ ทั้งนี้เมื่อ ท่านนี้ สิ้นสุดในชาติภพนี้แล้ว จะขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ เพื่อรอการมาจุติเป็นมนุษย์อีกครั้ง เพื่อให้บรรลุอรหันต์ในชาติภพหน้า
พระแม่เร่งทำตาทิพย์ให้ข้าพเจ้า ให้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเร็ว
วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
หลายวันมานี้ขณะที่ข้าพเจ้าปฏิบัติสมาธิ จะรู้ได้เหมือนศรีษะถูกบีบรัดโดยเฉพาะตำแหน่งดวงตาทิพย์ ทำให้ข้าพเจ้าปวดศรีษะตัวเกรงแข็งเหมือนดั่งก้อนหิน จึงได้ถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้ง ตอนนี้กำลังเร่งทำดวงตาทิพย์เพื่อให้ข้าพเจ้าเห็นองค์ชายองค์หญิง พระแม่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์โดยเร็ว ซึ่งยังมีหลายขั้นตอน ต้องใช้เวลาอีกสักระยะ
นิมิตเห็นเทวดา
วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
2 คืนมานี้ขณะที่ข้าพเจ้านั่งทำสมาธิ ได้มีนิมิตเห็นเทวดา แต่งกายเต็มยศ สวมชฎา มาปรากฏเบื้องหน้าข้าพเจ้า บางองค์เหาะมาในท่าพับเพียบพร้อมกับพนมมือไหว้ข้าพเจ้า และหลายวันมานี้ องค์ชายองค์หญิงจะให้ข้าพเจ้าอยู่แต่ที่บ้าน ไม่ยอมให้ไปอยู่ที่ร้าน ข้าพเจ้าจึงได้ถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้งว่า ช่วงนี้ให้ข้าพเจ้าอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องไปเปิดร้าน ซึ่งข้าพเจ้าจะต้องเห็นเหล่าเทวดา จึงจะได้เห็นองค์ต่อ ๆ ไปตามลำดับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น