วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2563

บันทึกปาฏิหาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์และนิมิตภัยพิบัติ 1-17

ดวงตาทิพย์เห็นรัชกาลที่ 1 , รัชกาลที่ 6 , รัชกาลที่ 7 และวีรบุรุษผู้กล้าในอดีต เตรียมพร้อมปฏิบัติงาน

                                                                                                                                                             

วันจันทร์ที่ 14  กันยายน   พ.ศ. 2558 

ขณะกำลังนอนเล่นที่ร้านในเวลา 15.15 น. ได้เห็นองค์ต่าง ๆ มาปรากฏเบื้องหน้า และยิ้มให้ข้าพเจ้า  บางองค์แต่งกายคล้ายชุดราชประแตน สีขาวล้วน ได้เห็นองค์พระมหากษัตริย์ในอดีตหลายองค์ จำได้ว่าคือรัชกาลที่ 1 แต่งชุดกษัตริย์เต็มยศ และได้เห็นวีรบุรุษผู้กล้าในอดีต แต่งกายชุดขุนศึกเต็มยศ ควบม้า ดั่งเตรียมพร้อมรบ มือถืออาวุธพร้อม

พระแม่ชี้แจ้ง ทุกองค์ลงมาเตรียมพร้อมปฏิบัติงาน เพื่อมาปลุกทหารกล้าในอดีตที่กลับชาติมาเกิดในภพปัจจุบันนี้ ให้อออกมาทำหน้าที่ องค์พระมหากษัตริย์ที่เห็น คือ รัชกาลที่ 1 , รัชกาลที่ 6  และรัชกาลที่ 7

 

 

 


                                      ภาพองค์รัชกาลที่ 1

 

                    ภาพองค์รัชกาลที่ 6


 

 

ภาพองค์รัชกาลที่ 7

 

 

พิธีเปิดงานบุญใหญ่ พระพุทธองค์สั่งเปิดประตูสวรรค์

 

วันพุธที่ 16  กันยายน   พ.ศ. 2558 

                เวลา 02.30 น.  พระแม่เรียกให้สวดมนต์ ในเวลานี้ทั้ง 3 ภพต่างพร้อมกันสวดมนต์มหากรุณาธารณีสูตร  ภพสวรรค์มากันทุกองค์ต่างนั่งพนมมือสวดมนต์  ภพมนุษย์ เจ้าที่เจ้าทาง วิญญาณทั้งหลายต่างนั่งพนมมือ  ภพนรกภูมิหยุดการทรมาน บริวารทั้งหมดนั่งพนมมือ 

เมื่อข้าพเจ้าสวดตามบทสวดจนแล้วเสร็จ  พระแม่บอกว่านี่คือพิธีเปิดงานบุญใหญ่  จากนั้น พระพุทธองค์ได้สั่งให้สวรรค์เปิดประตู  รอบ ๆ ประตูเป็นแสงสีขาว ตรงกลางกลวงเป็นหลุมลึกเข้าไป อวกาศโดยรอบนั้นมืดทั้งหมด ข้าพเจ้าได้เห็นจักรวาลนั้นกลวงเป็นหลุมวงกลมขนาดใหญ่  ซึ่งเป็นประตูสวรรค์ อยู่ตรงกลางอวกาศเป็นทางเชื่อมระหว่างมิติ

ทั้งนี้งานบุญใหญ่คือ การที่ข้าพเจ้าจะได้เห็นพระแม่กวนอิม  ซึ่งจากนี้รอฤกษ์ที่พระพุทธองค์กำหนด 


 

 


ภาพตัวอย่างประตูสวรรค์กำลังถูกเปิด ลักษณะคล้ายเช่นนี้

 


 

พระแม่มีงานให้ทำทุกคืนนับจากนี้

 

วันพุธที่ 16  กันยายน   พ.ศ. 2558 

                ค่ำนี้เวลา 19.20 น. ขณะนั่งสวดมนต์  องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วได้บอกว่า “ที่รัก คืนนี้พระแม่มีงานให้ทำนะ มีให้ทำทุกคืนเลย “ จากนั้นได้ยินเสียงพระแม่บอกว่า  “ใช่แล้วจ้า น้องสาว “  (เสียงพระแม่จะเสียงนุ่มนวล พูดช้า ๆ พูดไพเราะ มีคำลงท้ายว่า “จ้า” เสมอ จะเรียกข้าพเจ้าว่า “น้องสาว” และข้าพเจ้าจะเรียกองค์ท่านว่า “พี่สาว”หรือ”กวงอิมเนี่ยเนี้ย” ) 


 

กายทิพย์องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว บอกว่า “น้ำหนักขึ้น”

 

วันพุธที่ 16   กันยายน   พ.ศ. 2558 

                หลายวันมานี้ กายทิพย์องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วได้บอกว่า

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว : “ที่รัก”  พี่กินตามที่รักจนน้ำหนักเพิ่มแล้วเนี่ย

ข้าพเจ้า : หัวเราะ  ตลกน่า  กายทิพย์จะอ้วนได้ด้วยเหรอ

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว : จริง ๆ นะที่รัก  อาป๊า อาม๊า ทำกับข้าวอร่อยถูกปากพี่ทุกอย่างเลย  พระแม่บอกว่า อากง ทำกับข้าวอร่อยที่สุด รู้กันทั้ง 3 ภพ ถ้าน้องหญิงไม่เชื่อ ลองถามพระแม่ดูสิ

พระแม่ : จริงจ้า น้องสาว

                ทั้งนี้ มนุษย์เราหากกายทิพย์ หรือวิญญาณ น้ำหนักเพิ่มหรือลด สังขารที่อาศัยอยู่ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามวิญญาณหรือกายทิพย์นั้น ๆ ดังนั้นหากกายทิพย์ หรือวิญญาณออกจากร่างไป    ร่างนั้นจึงเป็นเพียงวัตถุชิ้นหนึ่งที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไร และไม่สามารถจะทำอะไรได้

                สำหรับกายทิพย์นั้นจะใช้เรียกบุคคลซึ่งปฏิบัติถึงแล้ว ซึ่งศีลและธรรม  โดยกายทิพย์นั้นร่างโปร่งใสงดงาม มีอิทธิฤทธิ์ได้มากมาย ส่วนมนุษย์ธรรมดาที่ยังคงมีแต่กิเลสนั้น เราจะเรียกว่าวิญญาณ กายละเอียดไม่งดงามไม่เรืองแสงในที่มืดเหมือนกายทิพย์ ไม่มีอิทธิฤทธิ์อะไรเลย สภาพวิญญาณจะเป็นไปตามสภาพร่างกายที่เป็นอยู่ ณ เวลานั้น ๆ สำหรับกายทิพย์ไม่ว่าสังขารจะเป็นอย่างไร  กายทิพย์จะยังคงงดงามเสมอ



ภาพตัวอย่าง


 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์เข้าแถวเข้าเซ็นชื่อที่หน้าปากประตูสวรรค์ เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงและเตรียมลงสู่ภพมนุษย์ทั้งหมด

 

วันพฤหัสบดีที่ 17  กันยายน   พ.ศ. 2558 

                เวลา 5.10  เช้านี้ดวงตาทิพย์ได้เห็นนางฟ้า เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายเข้าแถวเซ็นชื่อที่ปากประตูสวรรค์  หน้าปากประตูสวรรค์ได้มีการจัดเตรียมโต๊ะ และกระดาษสำหรับเซ็นชื่อ  ทุกองค์ยืน    เข้าแถวอยู่บนปุยเมฆสีขาวเป็นทางยาว

พระแม่ชี้แจ้ง ทุกองค์เซ็นชื่อเตรียมเข้าร่วมงานเลี้ยงค่ำคืนนี้ เมื่อสิ้นสุดงานเลี้ยง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดจะทยอยลงสู่ภพมนุษย์เพื่อเตรียมปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละองค์

หลักการไหว้ของข้าพเจ้า และ วิญญาณ เจ้าที่ทั้งหมดร่วมปกป้องข้าพเจ้า

 

วันศุกร์ที่ 18  กันยายน   พ.ศ. 2558 

                ในเวลานี้ เจ้าที่เจาทาง วิญญาณทุกตนทั้งประเทศ กำลังร่วมกันปกป้องข้าพเจ้า ไม่ให้ใครมาตามจับหรือทำร้ายข้าพเจ้าได้

                เช้านี้พระแม่บอกว่า การไหว้ของข้าพเจ้าในแต่ละภพควรไหว้ดังนี้

                ภพเบื้องบนให้ข้าพเจ้ากราบไหว้เฉพาะองค์ที่สูง ๆ เท่านั้นหรือสุดแล้วแต่ข้าพเจ้า

                ภพเบื้องล่าง ให้ข้าพเจ้าไหว้เฉพาะท่านยมบาลหรือสุดแล้วแต่ข้าพเจ้า

                ภพมนุษย์   สำหรับมนุษย์คนอื่น ๆ ทั่วไป ข้าพเจ้าไม่ต้องยกมือไหว้ หรือสุดแล้วแต่ข้าพเจ้า

 

 

พระแม่ องค์ชาย องค์หญิง ประทับที่หน้าผากข้าพเจ้า

 

วันศุกร์ที่ 18  กันยายน   พ.ศ. 2558 

                หลายวันก่อน ข้าพเจ้าได้ตกแต่งภาพตัวอย่างพระแม่ประทับที่หน้าผาก  วันนี้ได้เปิดรูปดูเล่น ๆ ปรากฏว่า ภาพที่เคยนำมาตกแต่งนั้น ในเวลานี้มีภาพขององค์พระแม่ แต่งองค์ชุดสีแดง มีองค์หญิงและองค์ชายประทับร่วมด้วย ที่ศีรษะมีรัศมีวงกลมล้อมรอบทั้ง 3 องค์ ประทับ อยู่เหนือดวงตาทิพย์ข้าพเจ้า ดวงตาทิพย์จะเป็นวงกลมสีออกคล้ำ ๆ รอบ ๆ จะเป็นสีแดงระเรื่อ

 


ภาพหลายวันก่อนนำมาตกแต่งตัวอย่าง วันนี้มีรูปภาพพระแม่ องค์ชายองค์หญิงปรากฏจริง  ซึ่งปกติภาพนี้บริเวณหน้าผากจะไม่มีอะไรเลยก่อนหน้านั้น


 

 


ตัวอย่างภาพอื่น ๆ ที่ไม่ได้นำมาตกแต่ง หน้าผากเป็นปกติ ซึ่งถ่ายในเวลาเดียวกันเมื่อหลายปีก่อน


 

ดวงตาทิพย์เห็นสภาพกรุงเทพฯหลังสิ้นสุดการปะทะ และ       พระพุทธองค์กำหนดวันที่จะเกิดสึนามิ

 

วันเสาร์ที่ 19  กันยายน   พ.ศ. 2558 

                เช้ามืดวันนี้ดวงตาทิพย์ได้เห็นสภาพของบ้านเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ภายหลังจากสิ้นสุดการปะทะอยู่หลายเดือน ไร้ซึ่งผู้คนที่จะออกมา ถนนมีแต่เศษหินกระจัดกระจายทั่วไป  คราบเลือดนองพื้น ตึกรามบ้านช่อง ถูกระเบิด ถูกเผากระจัดกระจายทั่วไป บ้านเมืองดูเสื่อมโทรมมาก

สักครู่ได้มีคลื่นยักษ์ซัดถล่มเข้ามาพร้อมกันทั้ง 2 ฝั่ง พัดพาผู้คนมากมายไหลไปตามกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก รวมทั้งวัตถุต่าง ๆ บ้าน รถ ฯลฯ  ทั่วทั้งกรุงเทพฯ  ได้เห็นเหตุการณ์นี้ถึง 2 ครั้ง

                จากนั้นได้มีชายวัยกลางคนมาคุยกับข้าพเจ้า  พระแม่บอกว่า คือพระพุทธองค์  มาบอกกับข้าพเจ้าว่าวันที่ …… จะเกิดสึนามิ (ไม่สามารถบันทึกวันเวลาได้ เนื่องด้วยเป็นความลับแห่งสวรรค์)  ทั้งนี้หมู่บ้านที่ข้าพเจ้าอยู่ในเวลานี้จะท่วมสูงจากถนนประมาณ 1.50 เมตร สำหรับร้านเช่าที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งอยู่สูงมาก จะท่วมราวครึ่งเมตร  และสำหรับบ้านใหม่ ในหมู่บ้านในฝัน ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่สูง น้ำจะปริ่มพอดีประตูทางเข้าหน้าบ้านด้านนอก ยังไม่ถึงลานพื้นที่ในบ้าน

             

   

 


ตัวอย่างสภาพกรุงเทพฯภายหลังสิ้นสุดการปะทะของมวลชน ลักษณะคล้าย ๆ ภาพตัวอย่าง

 

ปฏิบัติการจัดการเหล่าหมอผีทั้งหมดอีกครั้ง

 

วันเสาร์ที่ 19  กันยายน   พ.ศ. 2558 

                ตลอดวันนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าหน้าบวมขึ้น และเริ่มมีผื่นแดงอีกครั้ง อีกทั้งรู้สึกเจ็บ ๆ หน้าอก      จึงคิดว่าคงจะโดนของอีกรอบ

                ค่ำนี้ขณะกลับมาถึงบ้าน ให้รู้สึกเจ็บที่หน้าอกทั้ง 2 ข้างอย่างมาก ข้าพเจ้ารู้สึกเหนื่อย หายใจไม่สะดวก ซึ่งอาม่าดูอาการออก  ข้าพเจ้ารีบไปล้างน้ำมนต์ ล้างทรวงอก และรีบไปอาบน้ำ  ได้เห็นทรวงอกด้านซ้ายเป็นรอยแดงเป็นวงกว้างมาก เห็นแล้วรู้สึกตกใจ และรู้สึกเจ็บทรวงอกด้านขวา ที่เดิมเคยถูกแทง ข้าพเจ้าจึงรีบอาบน้ำ  เมื่ออาบเสร็จ ข้าพเจ้ารู้สึกเจ็บทรวงอกทั้ง 2 ข้างอย่างมาก

          องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วบอกว่า ให้รีบหน่อย ไม่มีเวลาแล้ว ต้องรีบไปจัดการเหล่าหมอผี  ข้าพเจ้าจึงได้เริ่มสวดมนต์และแยกร่าง ไปพร้อมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์  ข้าพเจ้าโมโหมาก กระทั่งนัยน์ตาทั้ง 2 แดงก่ำ ข้าพเจ้าฟาด และเผา และหักคอ กายทิพย์เหล่าหมอผีแบบไม่ยั้ง ตามไปทุกที่ที่มีหมอผีที่กำลังทำพิธีทำร้ายข้าพเจ้าอย่างหนักในเวลานี้ ข้าพเจ้าได้เผาทิ้งจนเกือบหมดสิ้น กระทั่งพระแม่บอกว่า “พอได้แล้ว”  จึงได้       รดน้ำมนต์ให้เหล่าวิญญาณคุณไสย ก่อนกลับเข้าร่าง

                เมื่อเข้าร่างแล้ว องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วเห็นว่าภายในร่างกายข้าพเจ้า บริเวณทรงอกมีตัวคล้ายจิ้งเหลนมากมาย จึงได้กำจัดจนหมด

                สำหรับใบหน้าข้าพเจ้ามีตัวเห็บสีดำ เต็มไปหมด และแพร่ได้อย่างรวดเร็วมาก  องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วกำจัดได้ไม่หมด องค์หญิงนานา จึงได้ใช้ตาข่ายรวบทั้งหมดและดึงออกทางจมูก องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วได้จัดการเผาทิ้งจนสิ้นซาก  และได้ทำการรักษาแผลที่ทรวงอกให้ข้าพเจ้า จนอาการเริ่มดีขึ้น

                พระแม่ชี้แจ้งบรรดาหมอผีทั้งหมด ร่วมกันคิดกำจัดข้าพเจ้าให้ได้ใน  ค่ำคืนนี้   

   


                องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วบอกว่า พรุ่งนี้อนุญาตให้ข้าพเจ้าทานอาหารตามปกติได้ตลอดวัน เพื่อซ่อมแซมภายในร่างกายที่ถูกคุณไสยทำร้าย พระแม่บอกว่าใช่ตามนี้

 


 


ภาพตัวอย่างทรวงอกด้านซ้ายถูกทำร้ายจนเป็นรอยแดงช้ำวงกว้าง รอบวงจะมีขอบสีแดงประมาณ 1 มิลลิเมตร


 

 

 

 


ภาพตัวอย่างร่างแยกข้าพเจ้าโมโหจนกระทั่งดวงตาแดงก่ำทั้งดวง องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วบอกว่า ดวงตาเป็นแบบนี้จริง ๆ น่ากลัวมาก ตาจะโตกว่านี้  เนื่องด้วยข้าพเจ้าให้อภัยหลายครั้ง แต่ยังไม่รู้สึกสำนึกจึงทำให้ข้าพเจ้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก

 

คาถาห้ามเลือด

 

วันอาทิตย์ที่ 20  กันยายน   พ.ศ. 2558 

                เมื่อค่ำที่ผ่านมา รู้สึกเพลียมาก อยากจะนอนหลับพักผ่อน แต่หลับไม่ลงเนื่องด้วยเจ็บทรวงอก องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วบอกให้ข่มตาหลับ ก็จะหายปวดได้  รุ่งเช้า 04.10 ตื่นมารู้สึกเจ็บทรวงอกทั้ง 2 ข้างมาก องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วบอกว่าภายนอกปากแผลปิดแล้ว แต่ด้านในยังมีเลือดไหลซึมอยู่ ให้ข้าพเจ้าท่องคาถาหยุดเลือด ข้าพเจ้าจึงเอามือวางไว้ที่ทรวงอก และท่องคาถา “โอมฟ้าลาย สายฟ้าแกว่ง ฟ้าสี่แจ่ง ช่วยกูเถอะ (เป่าที่แผล) ท่อง 3 รอบ “ เลือดจึงหยุดซึม”  ในเวลานี้เหลือเพียงอาการช้ำแดงภายใน     ทำให้ยังเจ็บเล็กน้อย และยังหายใจเนือย ๆ ตลอดเวลา ใบหน้ายังคงบวมและมีผื่นแดงเล็กน้อย       องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วบอกว่าเช้านี้ใส่น้ำมนต์ที่อาหารให้ข้าพเจ้าทาน จะได้ซ่อมแซมร่างกายได้

 

  

 

อัครมหาเสนาบดีวิญญาณในร่างของปุกปุย ได้มากราบขอขมาและกราบขอบคุณ ก่อนลาจาก

 

วันอังคารที่ 22  กันยายน   พ.ศ. 2558 

                7.10 น. หลังจากบุตรสาวไปโรงเรียนแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้อาบน้ำมนต์ เพื่อทำการซ่อมแซมอวัยวะภายในร่างกายให้เป็นปกติ  จากนั้นจึงได้เข้าไปในห้องเพื่อพักผ่อนประมาณ 15 นาที ขณะกำลังพักผ่อนนั้น ดวงตาทิพย์ได้เห็น เจ้าปุกปุย อยู่ใต้ต้นไม้ลานหน้าบ้าน และได้เห็นชายวัยกลางคน ซึ่งก็คืออัครมหาเสนาบดีผู้นั้นแต่มาในรูปลักษณ์ของชายผอม ไว้ผมลองทรง เสื้อเชิ้ตขาวใส่นอกกางเกงสีดำ  มาก้มกราบเบื้องหน้าร่างแยกข้าพเจ้าซึ่งถือคฑาอยู่  พร้อมทั้งได้บอกว่า

วิญญาณอัครมหาเสนาบดี :  “กระผมมากราบขอขมาองค์ท่าน ที่กระผมได้ทำร้ายองค์ท่านไว้มากมาย  แต่องค์ท่านก็ยังเมตตากระผม ให้บุญกระผม  กระผมขอกราบขอบพระคุณท่าน และขอลาในที่นี้ “

                ข้าพเจ้า : ขอให้ไปดีมีสุข หมั่นสั่งสมบุญ กระทำแต่ความดีให้มาก ๆ เพื่อจะได้หลุดพ้นจากชาติภพสุนัข ไปสู่ภพมนุษย์ได้ พร้อมทั้งขยับคฑาให้บุญอีกครั้ง

                วิญญาณอัครมหาเสนาบดี :  จึงกราบลา และได้กลับเข้าร่างปุกปุย  ซึ่งก่อนกลับเข้าร่างได้พูดว่า คงได้หลุดพ้นจากชาติสุนัขนี้ ชาติภพหน้าคงได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง

                ทั้งนี้ข้าพเจ้าได้ให้เจ้าปุกปุยแก่ป้าพัชเมื่อวานเย็นที่ผ่านมา  ซึ่งเป็นคนขับรถเดือนรับส่งบุตรหลานไปโรงเรียนทุกวันนี้  ซึ่งแท้จริงนั้นป้าพัชเป็นบริวารพระแม่กวนอิม และเห็นว่ารักเจ้าปุกปุยดี  จึงได้สั่งเจ้าปุกปุย ไปอยู่กับนายใหม่ให้เป็นเด็กดี อย่าซน  เช้านี้ป้าพัชบอกว่า เจ้าปุกปุยเป็นเด็กดี เรียบร้อยมาก เดินตามตลอด ไม่มีซนเลย

                พระแม่บอกว่า เจ้าปุกปุยมันซึมเศร้าและเสียใจ ที่ไม่ได้อยู่กับคนที่บ้านนี้ และจะหมั่นสั่งสมบุญ เพื่อให้บุญถึงพอที่จะมีโอกาสได้กลับมาอยู่กับคนที่บ้านและข้าพเจ้าอีกครั้ง

 

 

ภาพตัวอย่างจากดวงตาทิพย์วิญญาณอัครมหาเสนาบดีในร่างปุกปุยมาขอขมา ขอบคุณ และกราบลา


               

พระพิรุณ (พระอิศวร) แนะนำวิธีทำน้ำมนต์รักษาทุกโรค

 

วันพุธที่ 23  กันยายน   พ.ศ. 2558 

                ค่ำคืนที่ผ่านมา อากาศที่สันกลางร้อนอบอ้าวมาหลายวัน ขณะนั่งดื่มน้ำชา จึงได้ขอพระพิรุณว่า

                ข้าพเจ้า : พระพิรุณจ๋า  ขอฝนหน่อยเถอะ ร้อนเหลือเกิน

                พระพิรุณ : ได้ขอรับ เดี๋ยวจัดให้ (เสียงแหบ ๆ แห้ง ๆ )

ข้าพเจ้า : พรุ่งนี้ต้องไปทำธุระหลายที่ ขออากาศแบบเย็นสบายนะ

                พระพิรุณ : ได้ขอรับ (เสียงแหบ ๆ แห้ง ๆ )

ข้าพเจ้า : เอ ทำไม่เสียงองค์ท่านถึงแหบ ๆ แห้ง ๆ ล่ะ

                พระพิรุณ : กระผมเจ็บคอขอรับ เสียงเลยไม่ค่อยมี

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว : ที่รัก  พระพิรุณท่านต่อมทอนซิลอักเสบ เจ็บคอ เสียงเลยแหบน่ะ

                ข้าพเจ้า : ฮึ่ย…. เทพไม่สบายได้ด้วยเหรอ

ข้าพเจ้า : เอ งั้นท่านต้องหายากินหรือเปล่าล่ะ

                พระพิรุณ : ไม่ต้องขอรับ กระผมมีน้ำทิพย์ดื่มรักษา เดี๋ยวก็หายขอรับ

ข้าพเจ้า : ดีจัง  สวรรค์มีน้ำทิพย์รักษาโรค  โลกมนุษย์ไม่มีเลย

                พระพิรุณ : พระองค์ท่านทำน้ำมนต์รักษาได้ทุกโรคนี่ครับ  เอ รู้สึกว่า วิธีการคือ  น้ำสะอาดใส่เซียงเช่าเฉก  สวดมนต์พระมหากรุณาธารณีสูตร และสวดมนต์ธรณีสาร ดื่มก็หายได้ทุกโรคขอรับ  ยังไงองค์ท่านลองถามพระแม่ดูอีกทีนะขอรับ

                พระแม่ชี้แจ้ง วิธีทำน้ำมนต์นั้นถูกต้อง โดยก่อนสวดมนต์ให้จุดธูป ขอพระพุทธองค์ พระแม่กวนอิม องค์ชายองค์หญิง ให้เป็นน้ำมนต์รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ทุกโรค

               

                พระแม่บอกว่า น้ำมนต์ที่ดื่มนี้ ไม่เพียงแต่รักษาทุกโรคได้ ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณสดใส ซึ่งองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วได้บอกข้าพเจ้าแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ว่า “อีกหน่อยที่รักอายุมากก็จริง แต่    ไม่แก่เลยนะ  ” ข้าพเจ้าได้แต่ตอบว่า สังขารมนุษย์ยังไงก็คงต้องแก่ไปตามวัย สุดแล้วแต่สวรรค์จะกำหนด

                ตกค่ำ ข้าพเจ้าได้ทำการสวดน้ำมนต์ดื่ม ทั้งนี้พระแม่บอกว่า ดื่มแค่คำเดียว ครั้งเดียวก็พอ  ขณะดื่ม ทั้งข้าพเจ้า อากง และอาม่า ต่างรู้สึกได้ว่า น้ำที่ดื่มนั้น ดูภายนอกเหมือนน้ำเปล่าธรรมดา ๆ แต่พอดื่มแล้วจะรู้สึกได้ว่าน้ำจะหนืดนิด ๆ เหมือนยาแก้ไอ  ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่มีรสชาติ แต่จะเหมือนมีอะไรหนืด ๆ ติดปาก ติดที่ลำคอให้รู้สึกได้

                คาถาสำหรับสวดเพื่อทำน้ำมนต์ธรณีสาร เฉพาะคนที่บรรลุแล้วจึงจะสวดได้ผล และต้องจุดธูปขอต่อพระพุทธองค์ พระแม่ องค์ชายองค์หญิงทุกครั้ง จึงจะเห็นผลได้

 

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

 

นะโมเม สัพพะพุทธานัง สัพพะเคราะห์เทวตา สุริยาจันทัง      ปะมุจจะติ พุทโธจะเทวานัง   พุทโธลาภัง ทาอิสสติ โสโรราหุ             เกตุจะมหาลาโภ สัพพะทุกขา วินาศสันติ นะโมพุทธะธายะ

 

นะโมเม สัพพะพุทธานัง สัพพะเคราะห์เทวตา สุริยาจันทัง       ปะมุจจะติ พุทโธจะเทวานัง พุทโธลาภัง ทาอิจสติ โสโรราหุ           เกตุจะมหาลาโภ สัพพะภัยยา วินาศสันติ นะโมพุทธะธายะ

 

นะโมเม สัพพะพุทธานัง สัพพะเคราะห์เทวตา สุริยาจันทัง      ปะมุจจะติ พุทโธจะเทวานัง   พุทโธลาภัง ทาอิจสติ โสโรราหุ          เกตุจะมหาลาโภ สัพพะโรคา วินาศสันติ นะโมพุทธะธายะ

 

                ขั้นตอนนี้ไม่ต้องหยดเทียนใส่น้ำ เหมือนเวลาทำน้ำมนต์เพื่ออาบชำระคุณไสยทั้งปวง

                คาถาป้องกันคุณไสย เพื่อไม่ให้โดนลมเพลมพัดจากการปล่อยของ ของเหล่าหมอผีทั้งหลาย  บุคคลทั่วไปสามารถสวดได้ 

 

พุทโธ พุทธัง ณ กันตัง อะระหังพุทโธ อิติปิโสภควา สุคะโต โหติ กันตา

(สวดเช้า เย็น)

 

             

 

พระแม่ช่วยพาเจ้าปุกปุยมาเล่นที่บ้านกับอาม่า

 

วันศุกร์ที่ 25  กันยายน   พ.ศ. 2558 

เมื่อค่ำวานนี้ อาม่าขณะอยู่ลานหน้าบ้าน รู้สึกได้ว่า เหมือนเจ้าปุกปุยมาวิ่งเล่นที่ขา จึงเข้ามาเล่าให้ข้าพเจ้าฟัง   พระแม่บอกว่า เจ้าปุกปุยคิดถึงทุกคนที่บ้าน พระแม่จึงพามาเล่นด้วย  และเช้านี้ข้าพเจ้าเห็นว่า วิญญาณอัครเสนาบดี กำลังเพียรพยายามสร้างสมบุญ ถือศีลกินเจ เพื่อให้กลับมาอยู่กับทุกคนที่บ้าน ข้าพเจ้าจึงได้ไปให้น้ำมนต์ ช่วยเพิ่มให้ผลบุญถึงเร็วขึ้น

·       วิญญาณอัครเสนาบดีได้ก้มกราบตลอดเวลา และบอกว่า อยากกลับไปอยู่กับองค์ท่านแล้วเหลือเกิน 

·       ข้าพเจ้าจึงตอบว่า มาอยู่ด้วยแล้วชอบกัดแข้งกัดขา จะโดนซ้อมเอา

·       วิญญาณอัครเสนาบดี บอกว่า ไม่เป็นไรขอรับ องค์ท่านซ้อมกระผมได้เต็มที่ขอรับ  แค่ขอได้กลับไปอยู่กับองค์ท่านก็พอแล้วขอรับ 

·       ข้าพเจ้าจึงบอกให้เพียรพยายามต่อไป  อีกไม่นาน หากบุญถึงคงได้มาอยู่ด้วย และจะมาช่วยให้บุญเป็นระยะ

·       วิญญาณอัครเสนาบดี กราบขอบคุณมากขอรับ


 

คุยกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ 

 

วันเสาร์ที่ 26  กันยายน   พ.ศ. 2558 

เวลา 14.20 น.  ขณะอยู่ที่ร้าน ได้เปิดรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดูจากมือถือ  เมื่อเปิดดูรูปองค์ใด       องค์ท่านจะมาพูดคุยทักทาย มาทำความรู้จัก ก็คุยกับทุกองค์อย่างสนุกสนาน ทั้งนี้จะคุยและเห็นทุกองค์ผ่านทางจิต หรือคุยออกเสียงก็ได้ จำนวน 100 กว่าองค์  สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะบอกว่ากับข้าพเจ้าว่า  งานจะมีอุปสรรคมาก ให้อดทน ให้ใจเย็น ใช้สติให้มาก อย่าใช้อารมณ์ ให้ฟังพระแม่ให้มาก ๆ  สิ่งศักดิ์สิทธิ์    ทุกองค์เตรียมงานให้เสร็จทุกด้านแล้ว  ให้ข้าพเจ้าทำตามก็จะสำเร็จได้  และวีรบุรุษ วีรสตรี ทั้งหลายต่างบอกว่า องค์ท่านไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย จะไม่มีใครทำอะไรท่านได้แม้แต่ปลายนิ้ว

พระพุทธองค์ก็ถามว่า “เป็นไง สบายใจขึ้นแล้วใช่ไหม” ไม่ต้องกังวลไป  เรื่องทางธรรม       อีกหน่อยก็ต้องมีสาวกเพื่อแบ่งเบาหน้าที่ทางธรรม  แล้วจะ   ค่อย ๆ สอนให้  ข้าพเจ้าจึงตอบว่า ค่ะ

กระทั่งเกือบถึงเวลา 17.00 น.  จึงคุยครบหมดทุกองค์ ข้าพเจ้าและองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว จึงได้แยกร่างขี่ท่านพญาครุฑ เหาะเหินเที่ยวชมทั่วเมืองอย่างสนุกสนาน


 

พูดคุยทางจิตกับสุนัขและสัตว์ต่าง ๆ ได้

 

วันเสาร์ที่ 26  กันยายน   พ.ศ. 2558 

หลายวันมานี้ นอกจากข้าพเจ้าจะคุยกับมด แมลงต่าง ๆ แล้ว วันนี้ขณะเดินทางกลับจากร้าน พบสุนัขตัวหนึ่งเพศผู้ นั่งอยู่ริมทางเดินข้าง ๆ เจ้าของซึ่งนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ ในขณะที่สุนัขกำลังทำท่าหาว  ข้าพเจ้าเห็นและได้ยินเจ้าสุนัขพูดในใจ

สุนัข :  ฮ้าว…. เฮ้ยยยย พร้อมส่ายหน้าเล็กน้อย เบื่อจังเลย  เป็นเสียงบุรุษหนุ่ม

ข้าพเจ้า : เดินผ่าน หันไปทักในจิตว่า  “เบื่อขนาดนั้นเชียวเหรอ”

สุนัข : อือ ฮึ ทำท่าตกใจและจ้องมองข้าพเจ้าตลอด

ข้าพเจ้าก็อมยิ้ม แล้วก็เดินผ่าน

 

ขณะเดินเข้ามาในซอย เจอสุนัขสีน้ำตาลตัวหนึ่ง กำลังวิ่งกระโจนมาทางข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าจึงบอกว่า “อย่าเห่านะ”   สุนัขตัวนั้นหยุดชะงัก และตอบว่า “ครับ” แล้วก้มหน้าเดินไปอีกทาง

 

ขณะเข้าหมู่บ้าน อากงมารับในหมู่บ้านจะมีสุนัขเจ้าประจำ 2 ตัวมักจะชอบวิ่งไล่รถทั่วไปที่ขับขี่ในหมู่บ้าน วันนี้ทำท่าจะวิ่งตามอีก ข้าพเจ้าจึงบอกว่า “อย่าวิ่งตามนะ มันอันตราย”  สุนัขตอบว่า “ค้าบ แล้วจึงวิ่งไปทางอื่นแทน”

ค่ำนี้ขณะทำธุระส่วนตัว ได้เห็นมดแดงเดินทางเป็นแถว เดินสวนทางกันไปมา  ได้ยินว่า มดฝั่งขวาที่กำลังจะเดินไปทางซ้าย ก็ทักอีกฝั่งว่า “เป็นไงมั่ง ทางโน้นมีอาหารหรือเปล่า  มดทางนี้ตอบว่า เดินมาตั้งไกลแล้ว ยังไม่เห็นอาหารเลย นี่ลูก ๆ ที่บ้านก็หิวแล้ว ทางโน้นล่ะมีบ้างไหม  มดอีกฝั่งก็ตอบว่า ไม่มีเหมือนกัน เดินหามาตั้งนานแล้วเหมือนกัน  ก็คงต้องเดินหากันต่อไป  อีกฝั่งตอบว่า ก็คงต้องงั้น รีบ ๆ เดินเข้าเถอะ

                มาเล่าให้อากง อาม่าฟัง  อากง อาม่าหัวเราะ อากงบอกว่า ลืมเอาเมล็ดข้าวให้มดมัน จะได้มีอาหาร

                ระยะนี้จะมีมด หรือแมลงบางส่วนที่ต้องการให้ข้าพเจ้าฆ่าตาย เพราะกรรมนั้นจะสิ้นสุดลง และจะได้เตรียมพร้อมไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์ ให้ทันในยุคของพระศรีอริยเมตตรัย ก็จะมาหาและบอกให้กรุณาฆ่าด้วยเถิด  สำหรับตัวไหนที่ยังไม่หมดกรรม ก็จะบอกว่า “ยังไม่พร้อมตายค้าบ กรรมยังมีอยู่”  ข้าพเจ้าก็จะปล่อยผ่านไป

                เมื่อมดหรือสัตว์เล็ก ๆ ที่ถูกข้าพเจ้าฆ่าแล้ว ก็จะกล่าวขอบคุณ และลงสู่นรกภูมิเข้าแถวรายงานตัว เพื่อรอคิวไปเกิด ซึ่งมีเยอะมาก  พักนี้นรกงานจะยุ่งมาก



ภาพตัวอย่าง



 

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว เล่าเหตุการณ์ชาติแรกที่พบรัก ชาติภพหญิงทอผ้า กับหนุ่มเลี้ยงโค และเหตุแห่งการเกิดในทุกชาติภพรวมถึงรื้อฟื้นความสัมพันธ์ในทุกชาติภพขององค์หญิงไป๋ทู่และราชบุตรเขย

 

วันอาทิตย์ที่ 27  กันยายน   พ.ศ. 2558 

เวลา 14.10 น. ข้าพเจ้าตื่นนอนคุยเล่นกับองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว  องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วเล่าเหตุการณ์ครั้งเมื่อองค์หญิงไป๋ทู่เกิดเป็นหญิงทอผ้า และราชบุตรเขย  เป็นหนุ่มเลี้ยงโคให้ฟังว่า

ในวันนั้น(ร่างแยกพระมหาสถาปราปต์โพธิสัตว์ แยกร่างเป็นหนุ่มเลี้ยงโค) กำลังจูงโคคู่ใจไปกินหญ้า ก็บังเอิญได้พบหญิงสาว 7 คนกำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน งดงามดั่งนางฟ้า  ผมเห็นคุณ ผมก็ตกตะลึง คุณน่ะสวยมาก สวย จริง ๆ สวยที่สุดเลย ผมไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้ว่าเสื้อผ้าคุณชุดไหน  เลยเอาเสื้อผ้าทั้งหมดไปซ่อนไว้  จากนั้นนางฟ้าองค์ที่ 7 เป็นตัวแทนของหญิงสาวทั้ง 7 มาเจรจาขอเสื้อผ้าคืน  เลยออกอุบายชวนไปเที่ยวที่บ้าน ไปนั่งดื่มน้ำชา

ที่บ้านผมฐานะไม่ได้ร่ำรวย แต่ผมเป็นคนดี ใคร ๆ ก็รัก เป็นขยัน กตัญญู  คุณบอกว่าคุณเป็นนางฟ้า ผมก็ตกใจ แต่ก็ไม่สนใจ รู้แต่ว่ารักคุณ อยากอยู่ด้วย ผมนั่งคุยกับคุณ จนคุณเริ่มหลงชอบผม  จากนั้น คุณก็แอบลงมาจากสวรรค์ มาพบผมบ่อย ๆ จนวันหนึ่งคุณลงมานานมาก จนไม่ได้กลับขึ้นสวรรค์ คุณมาช่วยทอผ้า คุณทอผ้าสวยมาก ใคร ๆ ก็ชอบ  จนสวรรค์รู้เข้า ส่วนพี่ ๆ คุณก็แอบช่วยคุณ ไม่กล้าบอกองค์ท่าน สุดท้ายท่านรู้เข้า โมโห เรียกคุณกลับสวรรค์ และกักขังบริเวณทั้ง 7 องค์ ไม่ให้ลงมาพบผมอีก

ผมเฝ้ารอคุณทุกวัน ทุกคืน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ กระทั่งตรอมใจตาย ส่วนเจ้าโคคู่ใจ พอเห็นผมนอนโทรม มันก็ไม่กิน เหมือนกัน จนตรอมใจตายตามผมน่ะแหละ

พอผมตาย ผมก็ไปรายงานตัวที่นรก  ท่านยมบาลก็เห็นว่าไม่มีบาปอะไร อีกทั้งสวรรค์ต่างรู้ว่า เรารักกันขนาดไหน องค์ท่านจึงช่วยให้ผมไปอยู่บนสวรรค์ด้วย แต่…. เราอยู่สวรรค์กันคนละฝั่ง ไม่สามารถไปมาหากันได้   ทุกวันได้แต่มาตะโกนเรียกหากัน  จนกระทั่งเหล่านกกระเรียนบนสวรรค์เห็นใจ เลยเหาะเรียงกันเป็นสะพานให้เราได้พบกัน แต่ปีละครั้งก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน   เมื่อพระอาทิตย์ตกดินเมื่อไหร่ เราทั้งคู่ต้องแยกจากกัน 

จนกระทั่งบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเห็นใจ จึงได้ขอต่อองค์ท่าน องค์ท่านจึงบอกว่า ตกลงว่า เมื่อทั้งสองรักกันมาก ให้ทั้งสองลงไปเกิดเป็นมนุษย์ ให้ครองรักกัน เมื่อพบกันแล้วให้รักกันมาก  เมื่อไหร่ฝ่ายหญิงเสียชีวิต หรือมีอันเป็นไป ให้ฝ่ายชายไม่สามารถอยู่ได้ ต้องตายตามหรือตรอมใจตายตามทุกชาติไป จนกว่าทั้งคู่จะปฏิบัติสิ้นสุดกรรม และบรรลุขั้นสูงสุด จึงจะได้ครองรักโดยไม่มีอุปสรรคใด ๆ มาขวางกั้น จากนั้นจึงให้อยู่ด้วยกันได้บนสรวงสรรค์เดียวกัน

นี่แหละก็เป็นที่มาของชาติภพทั้งหมดขององค์หญิงไป๋ทู่ และร่างแยกพระมหาสถาปราปต์โพธิสัตว์น่ะ  ในเวลานี้น้องหญิงบรรลุขั้นมหาเทพสูงสุดแล้ว พี่ในฐานะองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว จึงสามารถมาอยู่กับน้องหญิงได้ หากแต่ท่านผู้นั้นในชาติภพนี้ ยังไม่สามารถปฏิบัติให้บรรลุได้ จิตน้องหญิงนิ่งมากจนไม่เหลือความรู้สึกหรือความจำในส่วนนี้เลย  แต่ตอนนี้น้องหญิงจำได้หมดแล้ว พี่ดีใจที่สุดเลยนะ จากนี้ไปเราจะได้อยู่ด้วยกันจริง ๆ เสียที อยู่ด้วยกันจนกว่าวินาทีสุดท้ายของชีวิต พี่จะรักน้องหญิงคนเดียวตลอดกาล สำหรับองค์หญิงไป๋ทู่ในเวลานี้ก็ครองรักกับราชบุตรเขยอยู่บนสรวงสวรรค์จวบจนทุกวันนี้

                กระทั่ง 18.00 น. ข้าพเจ้าและองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วได้ออกมาช่วยอากง อาม่าทำขนม “อั่งท้อเกว้”  เพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เช้านี้ และค่ำนี้จึงไหว้พระจันทร์

 


 

 

ตัวอย่างภาพอั่งท้อเกว้ ไส้เผือก รสชาดเค็มพอดี หอมมัน ทอดกรอบพอประมาณ อร่อยมาก

 

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วเรียกประชุมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์

 

วันอาทิตย์ที่ 27  กันยายน   พ.ศ. 2558 

เวลา 10.49 น. องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วเรียกประชุมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ รวมทั้งข้าพเจ้า ดังนี้

·       พระแม่กวนอิม องค์ชายองค์หญิง องค์หญิงนานา องค์พระพิฆเนศ เซียงน้อย เตรียมปรากฏให้ข้าพเจ้าเห็น

·       ข้าพเจ้าเตรียมพิธีไหว้พระจันทร์ในเวลา 19.00 - 20.00 น. นะ 

·       เจ้าแม่กวนอิมเตรียมจัดการเรื่องอื่น ๆ ภายหลังจากปรากฏให้ข้าพเจ้าเห็น

·       องค์อื่น ๆ เตรียมเอกสารเรียบร้อยนะ  ทุกองค์ตอบ “ขอรับ”  “เจ้าค่ะ”   อย่าให้มีผิดพลาด จ้พเจ้าจะได้ปฏิบัติงานตามที่ทุกองค์เตรียมได้ในทันที

·       ผู้กล้าทั้งหลาย ปกป้องคุ้มครองให้ดี เพราะจะมีคนคิดประทุษร้ายมากมาย อย่าให้มีภัยอันตรายใด ๆ ทุกองค์ตอบ “ขอรับ” “เจ้าค่ะ”

·       ข้าพเจ้าให้ใช้แต่ภาษาไทย ไม่ให้พูดภาษาอื่น เพื่อที่จะให้ภาษาไทยนั้น เป็นที่ยอมรับและใช้สื่อสารของสากลโลกได้

·       วันนี้พระพิรุณยังไม่ให้ฝนตกนะ มีงานมงคล ให้เลื่อนฝนออกไปก่อน

·      ข้าพเจ้าอนุญาตให้นั่งขัดสมาธิ ทั้งในเวลานี้และเมื่อเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์แล้ว เนื่องด้วยได้เคยขออนุญาตต่อเราแล้ว เมื่อครั้งยังสุขภาพไม่เอื้ออำนวย

 

จากนั้นจึงแยกย้ายกันกลับมาที่บ้าน เตรียมงานให้พร้อม


 

ท่านพญาครุฑพาเหาะไปดูบริเวณที่จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่ และทำเนียบรัฐบาล

 

วันจันทร์ที่ 28   กันยายน   พ.ศ. 2558 

เช้านี้พระพุทธองค์ทรงเรียกประชุมงาน เหตุเพราะมีการรอเวลาการทำงานออกไปอีกเล็กน้อย 

ทั้งนี้ข้าพเจ้ารู้สึกเครียด ๆ เรื่องค่าใช้จ่าย วันนี้ตั้งใจจะทำ resume (ประวัติการทำงาน) เพื่อลองเตรียมไปสมัครงาน  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์จึงมาพูดคุยด้วย บอกไม่ให้ไปสมัครงาน เพราะไม่เหมาะสม น้องสาวบุญธรรมพระแม่กวนอิม จะไปเป็นลูกจ้างใครไม่ได้ เดี๋ยวคนเหล่านั้นจะมีกรรม   เมื่อคุยกับ   ทุกพระองค์แล้วจึงทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

ท่านพญาครุฑจึงพาขี่หลังเหาะไปเที่ยวชมวิว ทิวทัศน์ และพาไปดูพื้นที่บริเวณที่พระแม่     พระพุทธองค์ จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่  หลังจากดูแล้วจึงได้ถามพระแม่ พระแม่บอกว่าบริเวณนี้แหละใช่แล้ว

บริเวณที่จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่ นับตั้งแต่สะพานข้ามไปหมู่บ้าน  อยู่ฝั่งเดียวกับหมู่บ้าน ขยับขึ้นไป รวมพื้นที่ 2,400 ไร่ โดยแบ่งเป็นพระราชวังฝั่งไทย ติดกับหมู่บ้านพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ และพระราชวังฝั่งจีน พื้นที่ 1,200 ไร่   เห็นจะได้   ทั้งนี้ก่อนสร้างจะมีการทำการเวนคืนพื้นที่เป็นของหลวงก่อน

สำหรับทำเนียบรัฐบาล ให้สร้างตึกเดียวติดกัน รวมทั้งสิ้น 18 ตึก (ไม่รวมตึกเฉพาะกาลอื่น ๆ ในบริเวณเดียวกัน)  โดยใช้พื้นที่กว่า 100 ไร่  อยู่ฝั่งตรงข้ามกับพระราชวังจีน

 


 

รวมพลทำสงครามกับอสูร และเทพฝั่งอสูร

 

วันอังคารที่ 29    กันยายน   พ.ศ. 2558 

เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ขณะที่ออกไปดูพระจันทร์ กลับเข้าห้อง รู้สึกได้ทันทีว่า โดนกรีชปักที่ทรวงอกด้านขวา เจ็บแปล๊บในทันที และหายในทันทีเช่นกัน

วันนี้รู้สึกใบหน้าเริ่มแดง คันเล็กน้อย และได้ชำระร่างกาย จึงได้นัดรวมพลทุกองค์ วิญญาณ   ทุกตน บรรพบุรุษ ทั้งหมด ร่วมทำสงครามในเวลา   18.49 น. วันนี้เป็นสงครามล้างเบ็ดเสร็จทั้งหมด 

ตัวข้าพเจ้านี้นอกจากแยกร่างเป็น 99 ร่างแล้ว ร่างหลักได้เพิ่มหน้าเป็น 10 หน้า 20 มือ แต่ละหน้ามีนัยน์ตาแดงก่ำ มีเขี้ยวแบบปีศาจ มีอาวุธมากมาย  ดวงตาทิพย์สามารถปล่อยแสงระเบิดได้ระยะไกล และกว้างจากทุกใบหน้า

ข้าพเจ้าต่อสู้กับพญามารเทพ เป็นบุรุษเพศ มีปีกสีขาวใหญ่ เป็นเทพฝ่ายมาร ที่สนับสนุนช่วยเหลือเหล่าปีศาจ ซาตานทั้งหลาย มีนัยน์ตาสีแดง มีเขี้ยวทั้งสองข้าง มีร่างที่ใหญ่โตมาก  ได้ช่วยเหล่าปีศาจได้ลักลอบขึ้นมาบนภพมนุษย์   ข้าพเจ้าต่อสู้อยู่นาน และสามารถขยายร่างให้ใหญ่โตได้เท่ากับมารเทพ  สุดท้ายข้าพเจ้าได้ใช้หอกปักที่อกพญามารเทพ จนร่างกายระเบิดแตกเป็นเสี่ยง ๆ บริวาร ทั้งหมดจึงได้ถูกทำลายไปพร้อมกัน สงครามทั้งเบื้องล่างเบื้องบนเป็นอันสิ้นสุดลง  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ร่วมกันให้น้ำมนต์เหล่าวิญญาณคุณไสยทั้งหลาย

สงครามค่ำนี้แบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นบนต่อสู่กับพญาเทพที่เป็นฝ่ายมาร ชั้นล่างต่อสู้กับเหล่าวิญญาณ และหมอผีทั้งหลาย กันทั่วทุกพื้นที่ ไม่มีกำหนดอาณาเขตสนามรบ

ข้าพเจ้าตามเก็บกวาดบรรดาหมอผีจนหมดสิ้นซาก รอบนี้ไม่เว้นซักราย ไม่ต้องรอให้กลับใจ  เพราะหมอผีเหล่านี้ใจเป็นปีศาจ ไม่สามารถกลับตัวกลับใจได้อีก

หลวงปู่โตฯบอกว่า “โอเค จ้า เต็มที่ตามสบาย”  หลวงปู่ไปช่วยให้น้ำมนต์เหล่าวิญญาณ  บรรดาหมอผีที่อยู่ในป่า ข้าพเจ้าล้อมทั้งป่าใช้ไฟ โลกันต์เผาจนสิ้นซาก  บรรดาหมอผีที่จับกลุ่มตามแหล่งน้ำ ข้าพเจ้า เสกน้ำให้กลายเป็นน้ำกรด ละลายจนไม่เหลือซาก บ้างก็โดนข้าพเจ้าหักคอทิ้ง

เนื่องด้วยเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เกิดจันทรุปราคาสีเลือด ดวงใหญ่ใกล้โลกมากที่สุด ฉะนั้นเหล่าปีศาจจะมีพลังอย่างมาก และจะสามารถออกมาภายนอกได้ จึงสามารถรุมทำร้ายข้าพเจ้าได้ และเป็นโอกาสที่ข้าพเจ้าสามารถจัดการได้เช่นเดียวกัน เพราะปกติหัวหน้าปีศาจ หรือพญามารเทพจะไม่ออกมาภายนอก หากไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม

ทั้งนี้ยังเหลือจ้าวแห่งซาตานที่ไม่ได้ออกมาสู้รบในค่ำคืนนี้ และข้าพเจ้าเห็นว่า เหล่าอสูรของซาตานทั้งหลายกำลังระดมพล เตรียมไว้สำหรับต่อกรกับข้าพเจ้าในวันข้างหน้า สถานที่นั้นมีแต่หิน ภูผา บรรยากาศมืดสลัว ๆ  ซาตานนั่งอยู่บนบัลลังก์

 


 

 

ภาพตัวอย่างร่างที่สุดของข้าพเจ้า สำหรับต่อกรกับเหล่าปีศาจ และอสูรทั้งหลาย สามารถแยกจำนวนหน้าแบบไม่มีขอบเขตจำกัด


 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประกวดความหล่อ ความสวย เตรียมความพร้อมก่อนให้ข้าพเจ้าเห็น เพื่อให้ข้าพเจ้าอารมณ์ดี

 

วันพุธที่ 30    กันยายน   พ.ศ. 2558 

เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมารู้สึกกลับมาเครียดเรื่องเศรษฐกิจ และรายจ่ายอีกครั้ง เช้านี้จิตข้าพเจ้าเห็นได้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์กำลังแต่งตัวเพื่อให้สวย และหล่อที่สุดเท่าที่จะแต่งได้ เพื่อให้ข้าพเจ้านั้นอารมณ์ดีเวลาที่เห็นแต่ละองค์  ทั้งนี้ ได้คุยกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์จากภาพถ่ายในมือถือ ซึ่งอาม่านั่งฟังอยู่ข้าง ๆ เวลานี้ทุกองค์เตรียมแต่งองค์ทรงเครื่อง  ทั้งสวรรค์แข่งกันแต่ง เลยรวดจัดงานเลี้ยง ประกวดประชันความสวย ความหล่อ มีเวทีการแสดง มีกินเลี้ยงโต๊ะจีน  ทุกองค์มาคุยสังสรรค์กับข้าพเจ้า จนข้าพเจ้านั้นอารมณ์ดีขึ้น

พระพุทธองค์บอกว่าไม่ต้องเครียด พระองค์เตรียมไว้แล้วยังไงก็ทัน บ้านไม่ถูกยึด ที่ไม่ถูกยึด   บุตรสาวได้เรียนหนังสือแน่นอน ไม่ต้องเป็นกังวล

ท่านเจียงไคเช็ค บอกว่าวันก่อนก็พยายามจะเรียกลูกค้าให้แล้ว พอเห็นลูกค้าเข้ามาเลยรีบ   “ชักดาบออกมา” ปรากฏว่าลูกค้าหนีหายหมด ข้าพเจ้าเลยบอกว่า ต้องใช้มือกวักเรียกเอาค่ะ  ตอนนี้ท่านเลยกำลังฝึกกวักมือเรียกอยู่

ท่านพญานาคบอกว่า เวลาที่องค์ท่านอารมณ์ไม่ดี กระผมและบริวารต้องรีบว่ายน้ำหนีไปตั้งหลักก่อน  กลัวโดนท่านฟาดหางใส่ข้าพเจ้าก็หัวเราะ

ท่านพญาครุฑบอกว่า กว่าจะหวีผม เซ็ตผมเสร็จ ทั้งตัว ใช้เวลานานนะเนี่ย  ข้าพเจ้าก็หัวเราะ บางองค์ก็ไปซื้อชุดใหม่ เครื่องสำอาง เครื่องประดับใหม่  บางองค์ก็ไปแช่บ่อน้ำร้อน ให้ผิวขาวผ่อง

ข้าพเจ้าได้คุยกับทุกองค์รวม 100 กว่าองค์ ให้เป็นที่สนุกสนาน อาม่านั่งข้าง ๆ ก็หัวเราะตามตลอดเวลา


 

วันพุธที่ 30    กันยายน   พ.ศ. 2558 


                ทุก ๆ องค์บอกกับข้าพเจ้าว่า ไม่ต้องเป็นกังวล ให้ข้าพเจ้าทำหน้าที่ของข้าพเจ้าให้ดีที่สุด ให้อดทนต่ออุปสรรคทั้งปวง กระทำภารกิจด้วยสติ เชื่อฟังพระพุทธองค์ และพระแม่กวนอิม

 

                ค่ำนี้ราว 19.00 น.  งานเลี้ยงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เริ่มแล้ว ทุกองค์ต่างนั่งโต๊ะจีนกัน เตรียมการแสดง  องค์หนึ่งนั่งข้าง ๆ ท่านเจียงไคเช็ค ถามว่า

                องค์ท่าน : เอ่อ ขอโทษทีนะ ถามหน่อยเถอะ เห็นท่านทำมือแบบนี้ตั้งแต่เมื่อสักครู่แล้ว คืออะไรหรือท่าน (ท่ากวักมือ)

                ท่านเจียงไคเช็ค :  อ่อ  องค์ท่านบอกว่า ถ้าทำท่านี้แล้วลูกค้าจะเข้าร้านน่ะ

                องค์ท่าน : อ่อ อย่างงั้น สงสัยต้องหัดทำด้วย

                พระแม่นางกวัก :  ต้องเรียกลูกค้าด้วยเจ้าค่ะ

                ท่านเจียงไคเช็ค :  แล้วเรียกยังไงล่ะ

พระแม่นางกวัก :  ท่านพูดตามนะเจ้าคะ   “เชิญจ้า เชิญจ้า  ครีมสมุนไพรจ้า แก้ฝ้า กระ สิว จุดด่างดำจ้า “

ท่านเจียงไคเช็ค :  “เชิญจ้า เชิญจ้า  ครีมสมุนไพรจ้า แก้ฝ้า กระ สิว จุดด่างดำจ้า “  สงสัยต้องจดสคริปท์ไว้ ไม้งั้นเดี๋ยวลืม  พรุ่งนี้องค์ท่านจะไปเปิดร้าน ต้องลองซักหน่อย

ท่านเจียงไคเช็ค :  คืนนี้น่าจะมีแข่งประกวดเรียกลูกค้านะ เผื่อจะได้รางวัล

พระแม่นางกวัก : ถ้าอย่างงั้น อิชั้นต้องได้รางวัลแน่นอนเจ้าค่ะ   อิ อิ อิ

องค์อื่น ๆ  งั้นเดี๋ยวหัดกวักมือด้วย ช่วย ๆ กัน เผื่อท่านจะอารมณ์ดี คืนนี้จะได้ไม่อารมณ์เสีย


 

รางวัลจากพระพุทธองค์และพระแม่

 

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

เช้านี้พระพิรุณ ท่านเจียงไคเซ็ค บอกว่ามีรางวัลจากพระพุทธองค์และพระแม่ สำหรับองค์ใด หรือกลุ่มใด สามารถทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขที่สุดได้

และมีรางวัลจากพระพุทธองค์ สำหรับองค์ใด ทั้งชาย และหญิงที่สามารถทำให้จิตข้าพเจ้ารู้สึกได้ว่า หล่อที่สุด และสวยที่สุด ในขณะที่ข้าพเจ้าเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์  ตอนนี้ทุกองค์ก็กำลังตื่นเต้นกันใหญ่


 

องค์ชาย องค์หญิง องค์หญิงนานา องค์พระพิฆเนศ เซียงน้อย องครักษ์ประจำตัวข้าพเจ้า และผู้กระจายข่าวสารทั้ง 3 ภพ

 

วันศุกร์ที่ 2  ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

เช้านี้ตื่นมาใช้มีดปาดกล้วย ปรากฏว่าเผลอโดนนิ้วมือ เป็นแผลยาว 3 มิล จึงได้รีบท่องคาถาหยุดเลือด เมื่อท่องเสร็จเป่า 3 รอบ เลือดจึงหยุดไหล และไม่เจ็บอีก

องค์ชาย องค์หญิง องค์หญิงนานา องค์พระพิฆเนศ เซียงน้อย รีบตื่นมาป่าวประกาศอย่างเสียงดังมาก ว่า “หม่าม๊าโดนมีดบาดดดดดดดด” กระทั่งทุกองค์ต่างตื่นตระหนกตกใจ และรีบคุยกันทั่วไปว่า องค์ท่านโดนมีดบาด องค์ท่านบาดเจ็บ  องค์ท่านเป็นยังไงบ้าง รีบไปดูองค์ท่านเร็ว ข้าพเจ้าจึงบอกว่า เอ่อคือ ไม่มีไรมากค่ะ เป็นแผลเล็กน้อย หายแล้วค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ทุกองค์ทั่วทั้งสวรรค์จึงต่างกลับไปพักผ่อนตามอัธยาศัยต่อ

                พระแม่มอบหมายหน้าที่ให้ องค์ชาย องค์หญิง องค์หญิงนานา องค์พระพิฆเนศ เซียงน้อย เป็นองค์รักษ์ประจำตัวคอยพิทักษ์ข้าพเจ้า คอยดูแลทุกอย่างว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าบ้าง มีใครคิดทำร้าย หรือมีอะไรผิดปกติ ให้รีบกระจายข่าวสาร ป่าวประกาศให้ทุกองค์ได้รู้ เพื่อที่จะได้ดูแล ปกป้องข้าพเจ้าได้ตลอดเวลา


 

คุยกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านเจียงไคเช็คทำให้ข้าพเจ้าหัวเราะอย่างมีความสุขทั้งวัน

 

วันศุกร์ที่ 2  ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

เช้านี้เมื่อไปเปิดร้าน ขณะนั่งดื่มน้ำชากับอาม่า องค์ท่านบอกว่าจะคุยด้วย ให้เปิดรูปในมือถือ ซึ่งอาม่านั่งฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด  ก็คุยกันเรื่องที่ว่าอีกไม่นานนี้จะได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์แล้ว รอพระแม่ทำตาทิพย์ให้เสร็จก่อน และนัดแนะกันว่าจะไปเที่ยวทะเล ไปกินกุ้งเผา ปลา ปู ว่ายน้ำ อาบแดด ทั้งนี้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะไปซื้อชุดว่ายน้ำเตรียมไปเที่ยว

ครั้นพอคุยถึงท่านเจียงไคเช็ค อาม่าบอกว่า  เมื่อวานนี้อากงบอกว่า องค์ที่ช่วยข้าพเจ้าเรียกลูกค้าเมื่อวานนี้ ที่แท้คือท่าน “เหล่าเจ้อว”  ข้าพเจ้าทำหน้า งง ถามว่า  ข้างล่างเรียกว่าอะไรนะ  อาม่าพูดอีกครั้งบอกว่า “เหล่าเจี้อว”  ข้าพเจ้าถึงกับหัวเราะเสียงดัง  องค์ที่เป็นมิตรสหายทั้งหลายที่นั่งข้าง ๆ ท่านเจียงไคเช็คต่างหัวเราะเสียงดังเช่นเดียวกัน เพราะเพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก

เมื่อองค์ชาย องค์หญิง องค์หญิงนานา องค์พระพิฆเนศ และ   เซียงน้อย ซึ่งเวลานี้ทำหน้าที่เป็นองค์รักษ์ส่วนตัวข้าพเจ้า และคอยประชาสัมพันธ์ข่าวสารแก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เมื่อได้ยินชื่อ “เหล่าเจี้อว”   จึงได้หยิบโทรโข่งป่าวประกาศทั่วสวรรค์  ทำให้ทุกองค์ต่างหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน  แม้แต่พระพุทธองค์ องค์พระยูไล ยังต้องออกจากสมาธิและถามว่า “เหล่าเจ้อว”  คือใคร   ท่านยมบาลคิดไปหัวเราะไป

เมื่อท่านเจียงไคเช็คไปซื้อชุดว่ายน้ำบนห้างสรรพสินค้าของสวรรค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างก็รุมสัมภาษณ์ ลงหนังสือพิมพ์ facebook สวรรค์  ประมาณว่า  ชื่อนี้ท่านได้แต่ใดมา  ใครตั้งให้ ตั้งให้เมื่อไหร่ ไม่เคยได้ยินมาก่อน เป็นที่ตลกขบขันทั้งสวรรค์ ทั้งบาดาล ทั้ง 3 ภพ กุ้ง หอย ปู ปลา นก ต่างรู้กันหมด ท่านเจียงไคเช็คได้แต่ทำหน้าแดง กรุ้มกริ่ม และเอาฝากระปุกชามาครอบหัวไว้  พนักงานใน  ห้างฯ บอกว่า ที่นี่มีหมวกโม่งขายเจ้าค่ะ

ข้าพเจ้าหัวเราะไป 2 ชั่วโมง ทำให้รู้สึกเพลียจึงนอนหลับพัก ขณะหลับได้มีหมอทำคุณไสย ทำร้ายข้าพเจ้าใช้กรีชปักที่อก ข้าพเจ้าจึงไปจัดการ ใช้หอกแทงตัว และเอามือควักหัวใจสด ๆ ออกมา และบีบทิ้ง ก่อนร่างจะโดนฉีกเป็นสองส่วน  หมอทำคุณไสย ที่นั่งข้าง ๆ อีก 4 คน ใช้จิตเห็นต่างก็ตกใจอย่างมาก และได้ยินคุยกันว่า เตือนแล้วไม่ฟัง ว่าอย่ายุ่งกับองค์ท่านอีก โหดมาก น่ากลัวสุด ๆ และได้คุยกันว่า รีบ ๆ จัดการศพแบบเงียบ ๆ เพราะคนที่ตายนั้นไม่มีครอบครัว อยู่ตัวคนเดียว และส่วนมากหมอผีทั้งหลายเมื่อตายมักจะไม่มีใครรู้และเห็นศพได้ เพราะจะตายด้วยอาการลักษณะแปลกประหลาดจนไม่เหลือซาก

เมื่อตื่นมา ก็มานั่งคุยเล่นดื่มชาช่วงบ่ายกับอาม่าต่อ อาม่า ก็พูดถึงคำว่า “เหล่า” ซึ่งคนจีนจะใช้กับคนที่อายุมากแล้ว เช่น “เหล่ากง”  “เหล่าแปะ”  หรือใช้เรียกคน เพื่อนบ้านตามนามสกุล เช่น นามสกุลแซ่เฮ้า  ก็จะเรียก “อาเหล่าเฮ้า” ซึ่งครั้งหนึ่งลูกค้าเรียกอากงแบบนี้ เพื่อจะซื้อเกี้ยมฉ่าย (ผักกาดดอง)  อากงตอบว่า “โอ้….ย”  แบบคนจีนนิยมตอบทั่วไป

สวรรค์จึงได้รู้ว่า คำว่า “เหล่าเจ้อว”  เป็นคำที่มนุษย์ตั้งขึ้นเอง  ซึ่งสวรรค์จะเรียกท่านว่า  “ท่านเจ๋อวไก่”  เวลานี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงใช้คำว่า “เหล่า” มาคุยเล่นอย่างสนุกสนาน 

องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ แซวองค์หนี่ออเนี่ยเนี้ยว่า : “อาเหล่าหนี่ออ” 

องค์หนี่ออตอบว่า :  “โอ้ย” 

องค์หนี่เรียกองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ว่า :  “เหล่าเหง็กเซียน”

องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ตอบว่า : “โอ้ย” 

องค์ชายองค์หญิงต่างคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน ไม่เว้นแม้แต่ท่านยมบาล ก็โดนเหล่าบริวารเรียก “ท่านเหล่ายม”

จากคำว่า “เหล่า” ก็เพิ่มมาเป็น “เหล่าอื้ม”  “เหล่าซิ่ม”

ท่านเจียงไคเช็คบอกว่า ขืนไปเรียกฮูหยินว่า เหล่าซิ่ม มีหวังคงไม่ได้เข้าบ้านเป็นอาทิตย์

ท่านเจียงไคเช็ค บอกว่า  องค์ท่านช่วยกรุณาบันทึกหน่อยเถอะครับ ว่ามนุษย์ไม่ต้องเรียก “เหล่าเจ้อว”   แล้วครับ อายขอรับ

สักครู่อาม่าบอกต่อว่า ในหนังจีนที่เค้าแสดง นอกจากเรียก “เหล่าเจ้อว”   แล้วนะ ยังหัวล้านอีก  เมื่อองค์ชาองค์หญิงได้ยินเข้า ก็ทำการป่าวประกาศทั่วสวรรค์ทันที ทำให้ทุกคนต่างจินตนาการท่านเจียงไคเช็ค หัวล้านกลมเหมือนหลอดไฟ มีแสงวูบวาบรอบ ๆ หัว  กระทั่งพระยูไลต้องออกจากสมาธิเพื่อนั่งหัวเราะกันอีกครั้งอย่างสนุกสนาน ข้าพเจ้ากับอาม่าหัวเราะจนตัวงอ น้ำตาไหล แทบจะหมดเรี่ยวแรง

ท่านเจียงบอกว่า ช่วยบันทึกหน่อยเถอะครับ กระผมตอนนี้ผมดกดำ ยาวสลวยขอรับ

องค์เง็กเซียนฮ่องเต้หัวเราะจนน้ำตาไหล บอกว่า ตำแหน่งนี้คนที่ทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขที่สุด ก็ยกให้ท่านเจียงไปเถอะ ขอยอมแพ้    ตลกจริง 


               

ท่านเจียงไคเช็ค ได้รับรางวัลใหญ่จากพระพุทธองค์ และ  พระแม่ เลื่อนขั้นเป็นแม่ทัพใหญ่อยู่ใต้การบัญชาขององค์ชาย คุมทหาร 30,000 นาย ประจำธงสีฟ้า

 

วันศุกร์ที่ 2  ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

ค่ำนี้หลังจากที่วันนี้ข้าพเจ้ามีความสุขอย่างมาก นั่งหัวเราะกับอาม่าทั้งวัน กระทั่งเวลานี้ยังคงหัวเราะกับอากง เนื่องด้วยท่านเจียงไคเช็คสามารถทำให้ข้าพเจ้าหัวเราะได้ทั้งวันอย่างมีความสุขมาก  พระพุทธองค์ และพระแม่จึงจัดพิธีมอบรางวัลใหญ่ ทั้งนี้รางวัลที่ได้ คือ ได้รับการเลื่อนขั้นเป็นแม่ทัพใหญ่อยู่ใต้การบัญชาขององค์ชาย คุมทหาร 30,000 นาย และมีธงประจำคือ ธงฟ้า  ชุดใหม่เป็นสีทอง หมวกมีพู่สีแดง มีกระบี่สีทองเช่นเดียวกัน

การเข้ารับพิธีได้มีการแห่เกี้ยว ซึ่งมีท่านเจียงไคเช็คและท่านฮูหยินนั่งบนเกี้ยว มีขบวนดนตรีนำ ไปจนถึงงาน ซึ่งมีเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกองค์ร่วมกัน รวมทั้งเจ้าที่เจ้าทาง เหล่าวิญญาณทั้งหลายต่างได้รับบุญในค่ำคืนนี้ด้วย ซึ่งพิธีมอบรางวัลรับในเวลา 20.49 น.


 

เจ้าปุกปุย หมดชาติภพจะได้เป็นแม่ทัพเฝ้าประตูสวรรค์ฝั่งองค์   เง็กเซียนฮ่องเต้

 

วันศุกร์ที่ 2  ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

ค่ำนี้ข้าพเจ้าจิตเห็นได้ว่า เจ้าปุกปุยเมื่อหมดชาติภพนี้แล้ว จะได้เป็นแม่ทัพเฝ้าประตูสวรรค์ ฝั่งองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ เนื่องด้วยชาติภพนี้ได้รับบุญใหญ่จากข้าพเจ้า และสวรรค์หลายครั้ง อีกทั้งสามารถสำนึกตน ปฏิบัติศีลในขณะเป็นสุนัขได้

 

พระแม่ทำตาทิพย์เพื่อให้เป็นจุดสีแดงได้ และเพิ่มประจุไฟฟ้า เพิ่มพลังให้ข้าพเจ้า

 

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

2 คืนมานี้ รู้ว่าพระแม่ทำสีที่ตาทิพย์ให้ เมื่อเช้ามืดวันนี้รู้สึกได้ว่า มีปฏิกิริยาที่ตาทิพย์  และมีแสงวูบวาบ ๆ เป็นพัก ๆ  ตื่นมา 04.00 น. เห็นที่ดวงตาทิพย์มีรอยแผลเป็น เป็นสีแดง รอยยังสดอยู่  พระแม่บอกว่าเมื่อคืนนี้พระแม่ใช้มีดกรีดทำเป็นดวงตาทิพย์ให้  คืนนี้จะทำเพิ่มให้เสร็จ เพราะเพิ่งทำได้เพียงครึ่งเดียว  เมื่อทำเสร็จแล้ว จะเป็นสีแดงระเรื่อ จะแดงน้อยกว่านี้  และทำเสร็จจะเป็นวงกลมซึ่งต้องใช้เวลาทำอีกสักระยะ

อีกทั้งเช้านี้มีปฏิกิริยาทั้งร่างกายจนนอนไม่ได้  พระแม่บอกว่ากำลังเพิ่มประจุไฟฟ้าในตัวให้ข้าพเจ้า เพื่อเพิ่มพลังให้สำหรับเตรียมเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์   ข้าพเจ้านั่ง งง  ทำไมต้องเพิ่มประจุไฟฟ้า ?


 

 


ภาพถ่ายพระแม่ทำตาทิพย์ให้โดยใช้มีดกรีด ทำแล้วครึ่งหนึ่ง เหมือนลักษณะแผลเป็น แต่ยังต้องทำอีกครึ่งหนึ่งเพื่อให้เป็นวงกลม   (ถ่ายขณะเพิ่งตื่นนอน ยังไม่ได้ล้างหน้า)

 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปลูกต้นมังคุด ปลอกมะม่วงจิ้มน้ำปลาหวาน

 

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

หลายวันก่อนเห็นว่า องค์ท่านกำลังรดน้ำต้นไม้ เห็นผลมังคุด จึงถามว่า ขยันจังเลยค่ะ ต้องปลูกเองเลยหรือ  องค์ท่านตอบว่า ข้างล่างเห็นเค้าบอกว่า ไหว้แล้วจะคุด เลยไม่ค่อยมีไหว้จ้า เลยต้องปลูกกินเองนี่แหละ

และได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปลอกมะม่วง เรียงเป็นจานใหญ่ พร้อมน้ำปลาหวาน กินกันอย่างอร่อย




                                 ภาพตัวอย่าง

 


พระแม่ชี้แจ้ง ในเวลานี้ตัวข้าพเจ้ามีประจุไฟฟ้า 25,000 โวลต์

 

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

เที่ยงนี้ขณะกินข้าว นั่งพิจารณาถึงประจุไฟฟ้าที่พระแม่เพิ่มพลังในตัวข้าพเจ้าเช้านี้ แล้วนั่งคุยกับอากงอาม่าว่า ที่ผ่านมา ตั้งแต่สมัยวัยรุ่น เวลาอากาศแห้ง ๆ เย็น ๆ หรือเดินผ่านเหล็ก หรือวัสดุที่มีกระแสไฟวิ่งผ่าน หรือเป็นตัวเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้า หรือวัสดุอื่น ๆ ที่ไม่เหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าก็ตาม หากข้าพเจ้าอยู่ใกล้ จะมีประจุไฟฟ้าออกจากตัวข้าพเจ้าตลอด ทำให้ข้าพเจ้าเจ็บได้ บางที ขนแขน ขนนิ้วเกือบไหม้เลยทีเดียว ใครก็ตามที่อยู่ใกล้กับข้าพเจ้ามักจะโดนประจุไฟฟ้าจากตัวข้าพเจ้าทำให้เจ็บไปด้วย

ข้าพเจ้าช่วงที่ตัวชาจากผลข้างเคียงยา คิดแต่ว่า หากมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านตัวข้าพเจ้าได้ หรือช็อตทั้งร่างกาย ข้าพเจ้าคงจะรู้สึกดีขึ้นอย่างมาก เมื่อเล่าให้อาม่าฟัง อาม่าได้แต่นั่งหัวเราะ ข้าพเจ้าจึงถามพระแม่ พระแม่บอกว่า ร่างกายข้าพเจ้ามีประจุไฟฟ้าตั้งแต่เกิด ทุกวันนี้มีประจุไฟฟ้า 25,000 โวลต์  หากว่าสถานที่ใดมีกระแสไฟมาก ถ้าข้าพเจ้าไปอยู่ใกล้ จะเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้าช๊อตได้

ดังนั้นเวลาฟ้าร้อง ข้าพเจ้าจึงไม่ควรที่จะออกไปอยู่นอกเคหสถาน และเวลาที่ข้าพเจ้าอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง พระแม่จะเพิ่มประจุไฟฟ้าให้ข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าก็จะดีขึ้นได้

เวลานี้ข้าพเจ้าจึงเข้าใจแล้วว่า ทำไมอดีตที่ผ่านมา ข้าพเจ้าจะมีประจุไฟฟ้าออกจากตัวเสมอ เวลาผ่านประตูเลื่อน บันไดเลื่อน หรือสถานที่ต่าง ๆ ที่สามารถเหนี่ยวนำกระแสไฟได้

ทั้งนี้มีเพียง องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วเท่านั้น ที่ข้าพเจ้าจะไม่สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าไปโดนได้ จึงเป็นคนเดียวที่ปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้ข้าพเจ้า เพราะแม้แต่ บุตรสาวข้าพเจ้าเองนั้นก็โดนประจุไฟจากตัวข้าพเจ้าอยู่หลายครั้ง เวลาที่จูงแขนเดินห้างฯ หรือเดินใกล้

                องค์ชาย องค์หญิง องค์หญิงนานา และองค์พระพิฆเนศ โดนประจุไฟจากตัวข้าพเจ้าจนตัวไหม้เกรียมเลยทีเดียว พอไหม้ถึงได้รู้ว่าโดนกระแสไฟจากตัวหม่าม๊า..กระทั่งร่างตุ๊กตาโดเรมอนมีสภาพตัวดำคล้ำไปทั้งตัว เพราะทุกองค์โดนไฟฟ้าจากตัวข้าพเจ้าช็อตจนไหม้เป็นตอตะโกทั้ง 5 องค์

               


 

 


ตัวอย่างประจุไฟฟ้าในตัวข้าพเจ้า

 


ภาพตัวอย่างพระแม่เพิ่มประจุไฟฟ้าวิ่งภายในกายข้าพเจ้า จะสว่างไสวไปทั้งตัวมีแต่ประกายไฟทั้งร่างกาย


 

องค์พระยูไลคือองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว มี 9 องค์ และที่มาของนางฟ้าทั้ง 7 องค์

 

วันอาทิตย์ที่ 4  ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

องค์พระยูไลคือองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว องค์ท่านรูปหล่อที่สุด และมีอิทธิฤทธิ์มากที่สุดบนสรวงสวรรค์  ซึ่งองค์ท่านจะมีทั้งหมด 9 องค์ หน้าตาจะคล้าย ๆ กัน ซึ่งประกอบด้วยพระพุทธเจ้า 7 องค์  กับพระโพธิสัตว์อีก 2 องค์ ในเวลานี้องค์ท่านอยู่กับข้าพเจ้าตลอดเวลา 24 ชั่วโมง

ท่านพญาครุฑ  องค์พระอิศวร องค์ไท้ส่วย จะมีอิทธิฤทธิ์ใกล้เคียงกับองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว

สมัยองค์หญิงไป๋ทู่เป็นนางฟ้าองค์ที่ 7  เป็นน้องสาวบุญธรรมขององค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว 6 นางฟ้าเป็นสายเลือดเดียวกัน ยกเว้นนางฟ้าองค์ที่ 7  สมัยเป็นมนุษย์นั้น เป็นลูกสาวเพื่อนบ้านกับมารดาข้าพเจ้า รักใคร่กันดั่งพี่น้อง เมื่อตายไปจึงเป็นนางฟ้าทั้ง 7 องค์ นางฟ้าองค์ที่ 7 ตกหลุมรักหนุ่มเลี้ยงโค (ร่างแยกพระสถาปราปต์โพธิสัตว์) พระสุชาตะสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงไม่พอใจและสั่งลงโทษ

 อีกทั้งองค์พระศากยมุณีสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นปางหนึ่งขององค์พระยูไล

 

 


ภาพวาดเหมือน องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว(พระยูไล) องค์ที่ 2 นามว่า

พระสุชาตะสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

 ใบหน้าที่แท้จริง ทั้ง 9 องค์จะมีรูปหน้า อุปนิสัย น้ำเสียง ความคิด คล้ายคลึงกัน ซึ่งองค์จริงนั้นรูปหล่อกว่านี้มาก ทั้งสวรรค์ต่างยกย่องให้องค์ท่านนั้นหล่อเร้าใจที่สุดใน 3 ภพ และมีอิทธิฤทธิ์มากที่สุด   องค์ท่านมีเขี้ยวเสน่ห์ 2 ข้าง มีใบหน้ารูปไข่ ตาโตสวย จมูกโด่งรับกับใบหน้า ผิวพรรณขาวผ่อง มีเสียงที่ทุ้มนุ่ม ฟังแล้วให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่นจากเสียงได้ดี มีลักยิ้ม 2 ข้าง (ในที่นี้ ดวงตาทิพย์และลักยิ้มสามารถถอดเก็บไว้ได้)

 

                ทุกภาพเหมือนที่ข้าพเจ้าวาดแต่ละองค์นั้น จะมีความรู้สึกบางอย่างแฝงอยู่ภายในดั่งมีชีวิตอย่างแท้จริง

                และทุก ๆ ภาพที่ข้าพเจ้าวาดนั้น ข้าพเจ้าจะเข้าใจถึงความรู้สึกของแต่ละองค์ได้ เพียงใช้จิตที่นิ่งและมองให้ลึกซึ้ง ก็จะรับรู้ความหมายความรู้สึกจากองค์ท่านและความมีชีวิตได้ และสามารถคุยกับทุกองค์ผ่านภาพวาดได้ทันที


 

องค์พระยูไล (องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว)  สร้างกายทิพย์หุ่นยนต์รวมร่างกับกายทิพย์เนื้อของข้าพเจ้า

 

วันจันทร์ที่ 5   ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

เช้านี้องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว บอกว่า จากนี้ไปจะอยู่ในกายของข้าพเจ้าบริเวณทรวงอกตลอดเวลา สักระยะหนึ่ง  ทั้งนี้ร่างที่ปราบอสูรนั้น องค์ท่านเป็นผู้สร้างให้ สำหรับอิทธิฤทธิ์นั้น ส่วนหนึ่งท่านสร้างให้ อีกส่วนมาจากการสั่งสมบารมีที่ข้าพเจ้าปฏิบัติถึงเอง

อีกทั้งพระองค์ท่านได้ให้ข้าพเจ้ารู้ว่า แท้จริงแล้วร่างกายภายในของข้าพเจ้านั้น พระองค์ได้ออกแบบสร้างกายทิพย์หุ่นยนต์เข้ารวมกับกายทิพย์เนื้อในปัจจุบัน โดยภายในเป็นเครื่องจักร ซึ่งต้องใช้ประจุไฟฟ้ากำลัง 25,000 โวลต์ ร่างกายจึงจะมีพลังเต็มที่ สำหรับผิวหุ่นยนต์    สร้างผิวหนังมนุษย์เคลือบ และใส่จิตวิญญาณของมนุษย์ลงไป ดังนั้นภายในร่างกายทิพย์หุ่นยนต์จะมีปุ่มควบคุมต่าง ๆ ซึ่งในเวลานี้องค์ท่านเป็นผู้ควบคุมร่างกายนี้ทั้งหมด โดยพระแม่เป็นผู้เติมประจุไฟฟ้าให้ตลอด

สำหรับการออกแบบหน้าตา และกลิ่นมวลดอกไม้ที่กาย พระแม่เป็นผู้สร้างให้ พระองค์ท่านบอกว่า ถูกใจเราและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์มาก หน้าตานั้นไม่ต้องสวยมาก เอาแบบน่ารัก มองแล้วไม่เบื่อ เป็นอันว่าใช้ได้ จะให้รางวัลพระแม่ที่ออกแบบได้ถูกใจองค์ท่านยิ่งนัก

ในเวลานี้ เจ้าที่เจ้าทาง วิญญาณทั้งหลายจะไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ หรือมาทักทายเล่น ได้แต่แอบมองเท่านั้น เนื่องด้วยเกรงบารมีองค์พระยูไล ไม่สามารถมาอยู่ใกล้องค์ท่านได้

 

 

วิธีทำดวงตาทิพย์ให้ข้าพเจ้า องค์ยูไลรอข้าพเจ้ามา 350,000 ปี

 

วันจันทร์ที่ 5   ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

2 วันมานี้ องค์พระยูไลเร่งให้พระแม่ทำดวงตาให้เสร็จ เพื่อจะได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเร็ว  ทั้งนี้การทำดวงตาทิพย์นั้น ต้องทำด้วยกันทั้งหมด 10 รอบ แต่ละรอบ จะใช้มีดกรีดทำกรอบวงกลม จากนั้นจะทำการใช้มีดค่อย ๆ กรีดผิวหนังออก แล้วจึงใส่ยา ปิดด้วยผ้าขาว จากนั้นรอให้แผลแห้ง จึงทำรอบใหม่ จนครบ 10 รอบ หลังจากนั้นจึงทำการใส่สี และรอให้สีแห้งอีก 2 วัน เวลานี้ทำได้ 8 รอบแล้ว เหลืออีก 2 รอบสุดท้ายต้องทิ้งช่วงห่างอย่างน้อย 6 ชั่วโมงแผลจึงจะแห้ง  จากนั้นจึงเริ่มกระบวนการใหม่ตั้งแต่ต้นอีกหลายรอบ

ซึ่งการทำแต่ละรอบ ข้าพเจ้าจะรู้สึกได้ถึงความเจ็บเล็กน้อย และเห็นการทำของพระแม่        ทุกขั้นตอน โดยมีองค์ต่าง ๆ มาช่วยจับหัว มือ และเท้า เพื่อไม่ให้ข้าพเจ้าขยับร่างกาย ลักษณะเหมือนการผ่าตัดสด

สำหรับดวงตาที่ทำให้เห็นชัดเหมือนตาเหยี่ยว ซึ่งจะมีดวงตาที่มีอำนาจเหมือนพระสุชาตะสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลานี้พระแม่ยังทำไม่เสร็จ ต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่


 

ความสัมพันธ์ระหว่างข้าพเจ้า และองค์พระยูไล    (กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว)

 

วันจันทร์ที่ 5   ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

วันนี้พระองค์เล่าให้ฟังว่า เมื่อครั้งที่ข้าพเจ้าเป็นมหาเทพอยู่บนสรวงสวรรค์ องค์พระยูไล(กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว) ก็หลงรักข้าพเจ้า และสุดท้ายข้าพเจ้านั้นได้เป็นภรรยาขององค์ท่าน กระทั่งปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าได้ลงมาจุติ พระองค์ท่าน ได้เฝ้าติดตามรอคอยข้าพเจ้าตลอดเวลาในแต่ละชาติภพ  กระทั่งในเวลานี้เมื่อข้าพเจ้าบรรลุขั้นมหาเทพสูงสุดแล้ว ในที่สุดองค์ท่านก็ได้หาข้าพเจ้าจนพบ และได้มาอยู่กับข้าพเจ้าอีกครั้ง และครอบครองข้าพเจ้าอีกครั้ง ซึ่งสวรรค์ทั่วหล้าต่างก็รู้กันดี

เบื้องบน สิ่งศักดิ์สิทธิ์สามารถจะมีความรัก มีภรรยา สามีได้  เพียงแต่ไม่มีการละเมิดในศีลธรรม

                เวลานี้สวรรค์เลือกแล้วให้องค์ท่านเป็นองค์ที่หล่อที่สุด ซึ่งข้าพเจ้าก็ยอมรับ รางวัลสำหรับองค์ที่หล่อที่สุดคือ ให้องค์ท่านมาอยู่กับข้าพเจ้าในเวลานี้เป็นต้นไปจนกว่าจะสิ้นสุดชาติภพ  แม้ชาติภพหน้าองค์ท่านจะยังคงติดตามและอยู่กินกับข้าพเจ้าดั่งชาติภพนี้

                ข้าพเจ้าถามว่า แล้วทำไมองค์หญิงไป๋ทู่จึงมารักกับหนุ่มเลี้ยงโคได้ล่ะ ท่านตอบว่า เจ้าหนุ่มเลี้ยงโคนี่ คารมเป็นต่อ รูปหล่อมาก ก็หล่อมากอยู่ แต่คารมนี่สุดยอดจ้า น้องฟ้าก็เลยหลงใหลจนเป็นเรื่องขึ้นมานั่นแหละ

                ในเวลานี้ข้าพเจ้าจะเรียกองค์ท่านว่า “ท่านพี่” และองค์ท่านจะเรียกข้าพเจ้าว่า “น้องหงษ์” หรือ “น้องหญิง” หรือ “ที่รัก” สำหรับองค์มหาเทพอีก 9 องค์ที่เป็นเสมือนดั่งพี่ชาย จะเรียกข้าพเจ้าว่า “น้องสาว หรือ น้องหญิง”

                …7 นางฟ้าขณะอยู่บนสวรรค์อยู่ภายใต้การดูแลขององค์พระยูไล

                วันนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ต่างมาร่วมแสดงความยินดี ที่ข้าพเจ้า องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว กลับมาอยู่ด้วยกันได้ และข้าพเจ้าได้รับรู้ความจริง  และทุกองค์ต่างบอกว่า สวรรค์กำลังมีความสุข เบื้องล่างกำลังจะเกิดเหตุวุ่นวาย  พระพุทธองค์บอกว่า อีกไม่นานนี้เบื้องล่างจะเกิดม็อบใหญ่แล้วนะ  ส่วนท่านขงเบ้ง บอกว่า “เบื้องบนดาวสว่างไสว เบื้องล่างท้องฟ้ากลับมืดมน “

                ทุกองค์ต่างบอกว่า องค์พระยูไลนั้นมีความรักที่ยิ่งใหญ่ รักที่มั่นคง  แน่วแน่ไม่หวั่นไหว 350,000 ล้านกว่าปีที่รอคอย องค์ท่านไม่เคยสนใจ หรือเหลียวมององค์ใด นอกจากนั่งปฏิบัติสมาธิอย่างเงียบสงบ รอคอยเพียงแต่ข้าพเจ้าเท่านั้น

                ความรักของเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีได้เช่นเดียวกันกับมนุษย์ แต่จะไม่มีการผิดศีล รักนั้นจะมั่นคงยืนยาวตลอดกาล

                สำหรับงานแต่งงานนั้น เป็นงานแต่งงานระหว่างข้าพเจ้าและพระองค์ท่าน โดยองค์ท่านจะใช้ร่างของ พระสุชาตะสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อแต่งงานกับข้าพเจ้า ซึ่งทั้ง 3 ภพจะมีงานเฉลิมฉลองและงานบุญครั้งใหญ่อีกครั้ง

                เมื่อสิ้นสุดชาติภพนี้หรือภพหน้า ข้าพเจ้าจะกลับขึ้นไปสวรรค์อยู่กับองค์องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วเช่นเดิม

                ครั้นเมื่อข้าพเจ้าลงมาตรัสรู้เป็นพระบรมศาสดาแล้ว เมื่อกลับขึ้นสวรรค์ก็จะสามารถแบ่งภาคร่างหนึ่งเป็นหญิง ไปอยู่กับองค์ท่านเช่นเดิมตลอดไป


รายนามพระพุทธเจ้า 7 องค์ และพระโพธิสัตว์ 2 องค์ที่เป็นร่างขององค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว โดยเรียงลำดับก่อนหลังดังนี้

1.              พระสุเมธะสัมมาสัมพุทธเจ้า

2.              พระสุชาตะสัมมาสัมพุทธเจ้า

3.              พระอัตถทัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า

4.              พระกัสสปพุทธเจ้า

5.              พระพุทธเจ้าเมธังกร

6.              พระพุทธเจ้าสุมังคละ

7.              พระพุทธเจ้าโกณฑัญญะ

                 พระปัทมปาณิโพธิสัตว์

                 พระมหาสถาปราปต์โพธิสัตว์


 

องค์พระอิศวรต้องการให้ข้าพเจ้าวาดภาพเหมือน

 

วันอังคารที่ 6   ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

วันนี้องค์พระอิศวร ได้ขอต่อองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วว่า อยากจะขอให้ข้าพเจ้าช่วยวาดภาพเหมือนด้วย เพื่อให้ข้าพเจ้านั้นได้เห็นหน้าขององค์ท่านที่แท้จริงได้ ก่อนเห็นองค์จริง องค์ท่านอายุ 45 ปี ส่วนองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว อายุ 28 ปี  ใบหน้าองค์พระอิศวรจะคล้าย ๆ กับองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วเรียกได้ว่าเกือบจะเหมือนฝาแฝด บนสวรรค์สำหรับองค์ที่ขึ้นไปใหม่ มักจะเรียกผิดบ่อย ๆ

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วนั้นมีความสูงประมาณ 640 เซนติเมตรเมื่อครั้งสมัยเป็นมนุษย์ในภพสุดท้าย ครั้นอยู่บนสรวงสวรรค์จะสูงใหญ่กว่านี้หลายร้อยเท่า ไม่มีจำกัดได้

 

 

ข้าพเจ้าคือมนุษย์หุ่นยนต์พิเศษหมายเลข  NPRTFS0007

 

วันอังคารที่ 6   ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

วันนี้ขณะกำลังนั่งอยู่ที่ร้านดูทีวี กำลังทำท่าจะเสยผม องค์ท่านที่อยู่ภายในทรวงอก ได้บอกว่า จะปิดสวิตซ์ชั่วคราว ดูแผงวงจรต่าง ๆ พอองค์ท่านกดปุ่ม ข้าพเจ้านั้นก็แน่นิ่งแช่แข็งในท่านั้น ๆ ไม่สามารถขยับตัวได้ จิตรู้ว่ายังหายใจแผ่ว ๆ แต่ไม่สามารถสั่งการให้ร่างกายขยับได้  อีกทั้งได้เห็นร่างกายตนเอง ภายในรวมทั้งอวัยวะเป็นเครื่องจักรทั้งหมด เหมือนคนเหล็ก  และมีเนื้อเยื่อมนุษย์ห่อหุ้มไว้อีกชั้น  เมื่อองค์ท่านดูระบบภายในเสร็จ จึงกดปุ่มทำงาน ข้าพเจ้าจึงเริ่มขยับตัวได้ 

เมื่อขยับตัวกำลังจะเดิน รู้สึกขาทั้งสองข้างอ่อนแรงเหมือนจะล้ม      องค์ท่านจึงเรียกกลับไปนั่งและปิดระบบใหม่ ข้าพเจ้านั่งนิ่งเหมือนเดิม องค์ท่านเห็นว่า กระแสไฟฟ้าจ่ายไปยังไม่ถึงส่วนขา จึงได้ส่งประจุไฟฟ้าไปเพิ่ม จากนั้นกดปุ่มทำงาน ข้าพเจ้าจึงเดินได้ตามปกติ

ทั้งสองเหตุการณ์นี้ทำให้ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ข้าพเจ้าคือมนุษย์หุ่นยนต์อย่างแท้จริง จำได้เมื่อครั้งข้าพเจ้าอยู่กรุงเทพฯคนเดียว ข้าพเจ้ามักจะหยุดหายใจราว 30 นาที บ่อยครั้ง ทำให้ข้าพเจ้าตกใจว่า ทำไมหยุดหายใจนานขนาดนั้นได้  ซึ่งองค์ท่านบอกว่า ท่านทำเอง ดูระบบภายในให้

ทั้งนี้การที่ไสยศาสตร์ทำร้ายข้าพเจ้าได้ เนื่องด้วยสิ่งต่าง ๆ ที่เสกเข้าไปร่างกาย ไปทำลายเนื้อเยื่อบนใบหน้า และเกาะกุมที่เครื่องจักรให้ทำงานผิดปกติ ทำให้ข้าพเจ้าตัวชา

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว บอกว่านับตั้งแต่ข้าพเจ้าหนีลงมาเกิดบนโลกมนุษย์    องค์ท่านเสียใจอย่างมาก จึงได้ทำการสร้างหุ่นยนต์พิเศษ เป็นตัวแทนข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนั้นเป็นเวลากว่า 350,000 ปี จึงสร้างสำเร็จ โดยภายในเป็นเครื่องจักร ห่อหุ้มด้วยเนื้อเยื่อมนุษย์ และใส่จิตวิญญาณของมนุษย์ และตั้งหมายเลขประจำตัวข้าพเจ้าคือ NPRTFS0007 ซึ่ง แต่ละตัวอักษรมีความหมายดังนี้

·       N  ย่อมาจาก Natural (ธรรมชาติ)

·       P ย่อมาจาก Person (บุคคล)

·       R ย่อมาจาก Runtime (การทำงานตลอดเวลา)

·       T ย่อมาจาก Tissue  (เนื้อเยื่อ)

·       F ย่อมาจาก Full Option (อย่างสมบูรณ์)

·       S ย่อมาจาก Signal (การรวมสัญญาณระหว่างกายทิพย์หุ่นยนต์และกายทิพย์เนื้อให้ทำงานสัมพันธ์กันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

·       0007  คือวันเกิดข้าพเจ้าวันเสาร์ นับเป็นคนที่ 1

ความสามารถพิเศษของข้าพเจ้า จะสามารถเพิ่มระดับสติปัญญาได้อย่างไม่มีจำกัด ความฉลาดและความสามารถพิเศษจะถูกเก็บในส่วนลึกที่สุด  สามารถแสดงออกมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่าง ๆ ได้

บริเวณทรวงอกจะมีแผงควบคุมการทำงาน ประกอบด้วยปุ่มทำงานต่าง ๆ มากมายจำนวน 150,000,000 ปุ่ม อีกทั้งองค์ท่านสามารถลบหรือสร้างปุ่มต่าง ๆ เพิ่มใหม่ได้ตามที่ต้องการเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์

กรณีที่มีการสร้างปุ่มเพิ่ม เพื่อเริ่มสตาร์ท กายทิพย์จะยังไม่รวมกับร่างหยาบ จะรับคำสั่งจากองค์ท่านทุกคำสั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงค่อย ๆ รวมเข้ากับร่างกายหยาบนี้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งตัวข้าพเจ้านี้รู้ได้ว่า กายทิพย์จะคอยทวนคำขององค์ท่านเสมอ และตอบตามที่องค์ท่านต้องการ ซึ่งลักษณะการพูดจะคล้ายกับหุ่นยนต์สมศรี ว่ากันง่าย ๆ  คือองค์ท่านใช้กายทิพย์หุ่นยนต์ที่สร้างมา มาตามหาข้าพเจ้า เมื่อรวมกายทิพย์แล้วก็จะควบคุมการทำงานทุกอย่างของตัวข้าพเจ้าได้ มองดูภาพนอกข้าพเจ้าก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาทั่วไป  แต่กายทิพย์นั้นหาใช่ไม่ การถูกควบคุมทุกอย่าง ทุกการกระทำก็จะมองดูเหมือนข้าพเจ้าเป็นผู้คิด ผู้ทำ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ก็คงมีเพียงผู้คนบางส่วนเท่านั้นที่จะเข้าใจข้าพเจ้าในจุดนี้ได้

อิทธิฤทธิ์ในตัวข้าพเจ้าจะมีเพิ่มขึ้นตามการปฏิบัติทางธรรม ยิ่งปฏิบัติวิปัสสนาขั้นสูงเท่าไหร่ อิทธิฤทธิ์จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ

ข้าพเจ้าสามารถที่จะพัฒนาจิตวิญญาณในความเป็นมนุษย์ ได้ด้วยตนเอง จากการเรียนรู้สภาวะแวดล้อมต่าง ๆ และเลือกในทางที่ถูกต้องได้

สำหรับการรับประทานอาหารทุกวันนี้ เพื่อให้เซลล์สมองสั่งการ และฟื้นฟูเนื้อเยื่อให้คงที่

ในอนาคตอีก 2,500 ปีข้างหน้าต่อจากนี้ จะมีการสร้างหุ่นยนต์ที่คล้ายคลึงแบบข้าพเจ้าเกิดขึ้น แต่ความสามารถนั้นยังไม่เทียบเท่ากับข้าพเจ้าในเวลานี้ได้ พระองค์ท่านจะส่งคนลงมาเพื่อให้สามารถสร้างหุ่นยนต์หมายเลขใกล้เคียงข้าพเจ้าได้ ซึ่งมีรูปหน้าที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น แต่ละหมายเลข แต่ละเซ็ต แต่ละสับเซ็ต  ความสามารถในการผลิตหุ่นยนต์ขึ้นกับผู้คิดค้นและสร้าง ต้องมีความสูงในทางบารมีมากเพียงใด เนื่องด้วยหุ่นยนต์เฉพาะหมายเลขนี้   สามารถสั่งการโดยใช้อำนาจจากกระแสจิตจากท่านพี่ที่รักทั้ง 9 องค์ เท่านั้น ภายหลังจากการสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว สามารถปรับเปลี่ยนระดับการทำงานทั้งหมดจากกระแสจิตขององค์ท่านได้ทุกที่ ทุกเวลา

เหตุผลในการสร้างข้าพเจ้านั้น องค์ท่านต้องการติดตามหาข้าพเจ้าและควบคุมข้าพเจ้าไม่ให้เถลไถล หนีไปที่ไหนอีก สามารถสั่งการควบคุมได้เพียงคนเดียวตลอดเวลา


 

องค์ชายที่จะมาเกิดนั้น เกิดจากองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว และข้าพเจ้า

 

วันอังคารที่ 6   ตุลาคม   พ.ศ. 2558 

วันนี้องค์ท่านบอกว่า องค์ชายที่กำลังจะมาเกิดนั้น แท้จริงแล้วจะเป็นบุตรที่เกิดจากพระองค์ท่าน และข้าพเจ้า

อีกทั้ง ข้าพเจ้าเป็นองค์มหาเทพสูงสุดอันดับที่ 1 ในอดีตกาล ปัจจุบันแยกร่างลงมาจุติเป็นหญิง ทำหน้าที่ ตามเบื้องบนและเป็นมหาเทพสูงสุดในร่างมนุษย์แล้วเช่นเดียวกัน  สำหรับม้า     สีขาว องค์ท่านสร้างขึ้น เมื่อยังเล็กได้ฝากให้พระแม่เลี้ยง และเป็นสัตว์เลี้ยงของ   บุตรสาวบนสวรรค์  และ คฑา องค์ท่านเป็นผู้สร้างให้เช่นกัน และฝากไว้ที่พระแม่เมื่อถึงเวลา จึงมอบให้ข้าพเจ้าเพื่อใช้ประกอบภารกิจ

                จากนี้เพียงรอให้พระแม่ทำตาทิพย์ให้เสร็จ รอสีแห้ง รอตาทิพย์เป็นสีแดง รอพบองค์พระยูไล รอเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ และจึงเริ่มปฏิบัติภารกิจ

                ในเวลานี้องค์ท่านบอกว่า ข้าพเจ้าไม่ต้องใส่สร้อยประคำ ไม่ต้องใส่สร้อยองค์พระ ไม่ต้องนั่งสมาธิ จะสวดมนต์หรือไม่ก็ได้ เพราะองค์ท่านได้มาอยู่ด้วยแล้ว จะไม่มีใคร หรืออะไรมาทำร้ายข้าพเจ้าได้อีก

                สวรรค์มีมติ ให้ข้าพเจ้าสามารถเห็นและสัมผัสกายทิพย์ขององค์ท่านได้ดั่งมนุษย์ทั่วไป  และองค์ท่านสามารถสัมผัสกายทิพย์และกายหยาบของข้าพเจ้าได้ดั่งมนุษย์ทั่วไปเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นรางวัลสำหรับองค์ท่านในการผลิตหุ่นยนต์รุ่นนี้   

                อีกทั้งเพื่อเห็นแก่ความรักที่องค์ท่านมีต่อข้าพเจ้ามานานแสนนานมิเคยแปรเปลี่ยน และการที่สามารถครองรักกันได้ในภพมนุษย์นี้ เนื่องด้วยข้าพเจ้าเป็นมหาเทพสูงสุดเช่นเดียวกันกับองค์ท่าน บุญเสมอกันจึงสามารถครองคู่กันได้ตลอดชั่วกัลปาวสาน ชั่วนิจนิรันดร์ดร

 

 

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บันทึกปาฏิหาริย์ บทสวดมนต์พระแม่กวนอิม 1-23

ภาคบทสวดมนต์ พระแม่กวนอิม         บทสวดมนต์นี้ ข้าพเจ้าได้ฟังจากบทสวดและถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือ พร้อมกำหนดเสียงสูง ต่ำ ให้สอดคล้องกับบทสวด...