วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บันทึกปาฏิหาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์และนิมิตภัยพิบัติ 1-12


 

นิมิตเหตุการณ์ก่อนเวลาที่ข้าพเจ้าลงมาจุติ

 

วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

 

ภายหลังจากได้นิมิตเรื่องราวเหตุการณ์เครื่องบิน MH370   แล้วข้าพเจ้าได้นิมิตเห็นว่า ข้าพเจ้ามองเข้าไปที่กลางหน้าผากซึ่งอยู่เหนือดวงตาทิพย์ (ซึ่งที่กลางหน้าผากข้าพเจ้าได้มีพระแม่ องค์ชายและองค์หญิงมาประทับเมื่อไม่นานมานี้) เมื่อข้าพเจ้ามองเข้าไปได้เห็น พระพุทธองค์ พระแม่ องค์หญิงไป๋ทู่ และองค์อื่น  ๆ อีกหลายองค์กำลังนั่งประชุมหารือกัน ซึ่งมีโต๊ะญี่ปุ่น 1 ตัวและทุกองค์นั่งล้อมรอบคุยกันอยู่บนสวรรค์ และตกลงกันว่า ให้ข้าพเจ้าลงมาเกิดเพื่อที่จะได้ล้างกรรมให้หมด และเพิ่มบารมีเพื่อที่จะได้จุติเป็นองค์พระศาสดาในภพต่อไปได้

แต่ในนิมิตนั้นข้าพเจ้าหน้าตาเป็นองค์หญิงไป๋ทู่ รู้สึกว่าเป็นข้าพเจ้า แต่ไม่ใช่ข้าพเจ้า และคุยกับอีกหลายองค์ว่า “เราต้องลงไปทั้งหมดจริงเหรอ ต้องลงไปจริง ๆ เหรอ “ ทำสีหน้าประมาณว่า ไม่อยากลงมาเกิด ไม่อยากเลย  แต่ทุกองค์บอกว่าใช่ ต้องลงไป  แล้วข้าพเจ้าก็ได้ลงมาจุติบนโลกมนุษย์ ปรากฏเป็นภาพข้าพเจ้าในปัจจุบันนี้กำลังเดินกับอากง อาม่าในที่  แห่งหนึ่ง  เมื่อข้าพเจ้าถามพระแม่  พระแม่ชี้แจ้งว่า การที่ข้าพเจ้าลงมาเพื่อล้างกรรมให้หมดสิ้น ซึ่งในอนาคตเมื่อข้าพเจ้าปฏิบัติภารกิจ ยังคงต้องเจออุปสรรคและปัญหาอีกมากมายล้วนแล้วแต่เป็นการ    ลดกรรม และการสร้างบารมีทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อสิ้นสุดชาติภพจึงจะหมดกรรมได้ อีกทั้งเมื่อข้าพเจ้าลงมาแล้ว องค์ชายองค์หญิง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ก็จะตามลงมาด้วย  ซึ่งในเวลานี้ทุกองค์ก็ได้ลงมาอยู่กับ    พระแม่และข้าพเจ้าที่บ้านแล้ว

ในช่วงนี้เศรษฐกิจย่ำแย่มาก ๆ ข้าพเจ้า วัน ๆ แทบจะไม่มีรายได้เลย ติดลบมาหลายเดือนแล้ว  เดือนนี้ 17 วันมาแล้วที่ข้าพเจ้าไม่มีรายรับเข้าเลย กระทั่งต้องเอาที่ดินที่ลำปางไปเข้าธนาคาร เพื่อกู้เงินให้ทั้ง 3 คนได้หมุนเวียน แม้จะย่ำแย่มาก แต่พระแม่ก็ไม่อนุญาตให้ข้าพเจ้ากลับไปทำงานเป็นลูกจ้างที่กรุงเทพฯอีก ห้ามแม้แต่คิดจะไป  เพราะว่าไม่เหมาะสม และไม่ถูกต้อง ข้าพเจ้าไม่สมควรจะไปเป็นลูกจ้างใครอีก  อีกทั้งข้าพเจ้าไม่สมควรที่จะเข้าวัดทำบุญ ตักบาตรใด ๆ ทั้งสิ้นพระแม่ชี้แจ้งไม่ถูกต้อง เนื่องด้วยบารมีข้าพเจ้าสูงกว่าจึงเป็นการไม่สมควร

ข้าพเจ้าเคยคิดดื้อต่อพระแม่ ไม่ฟังคำพระแม่ตั้งใจจะกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯอีกครั้งเพื่อความอยู่รอดของครอบครัว แต่นั่นทำให้พระแม่เสียใจมาก กระทั่งข้าพเจ้าเศร้าใจจนร้องไห้ไม่หยุด และ   พระแม่ก็ทำให้ข้าพเจ้าตัวชาไม่สามารถนอนหลับได้มาหลายคืนแล้ว แต่เมื่อวานนี้ข้าพเจ้าบอกพระแม่ว่า ข้าพเจ้าจะไม่แม้แต่จะคิดไปกรุงเทพฯอีกแล้ว จนกว่าองค์ท่านจะเห็นสมควรแก่เวลาและอนุญาต และไปเพื่องานขององค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว และพระแม่เท่านั้น ทำให้เมื่อคืนนี้ข้าพเจ้านอนหลับสบายร่างกายไม่ชาอีกเลย

 

องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วและพระแม่ให้ข้าพเจ้าแยกร่างได้ 99 ร่าง

 

วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557

 

เดือนกว่าที่ผ่านมานี้ ในเวลาที่ข้าพเจ้านั่งทำสมาธิ หรือแม้แต่เวลาที่กำลังหลับตาลง แต่ยังไม่ได้หลับอย่างแท้จริง จะรู้ได้ว่ามีอีกร่างหนึ่งในตัวข้าพเจ้าขยับไปขยับมา หรือนอนหันไปหันมาในขณะที่ร่างจริงๆ กำลังหลับตาอยู่แต่ก็รู้สึกได้ตลอดเวลา (สนุกดี)  พระแม่ชี้แจ้งว่า ในร่างข้าพเจ้าไม่ได้มีอีกเพียงร่างเดียว แต่มีจำนวน 99 ร่าง นับรวมร่างจริง ๆ โดยองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วเป็นผู้สร้างให้ ซึ่งในเร็ว ๆ นี้   พระแม่จะให้ข้าพเจ้าแยกร่างทั้งหมดออกมาได้ ทุกร่างสามารถเดินเหินไปที่แห่งใดก็ได้ และจะมีเพียงผู้ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจข้าพเจ้า และผู้มีบุญบารมีเท่านั้นที่จะสามารถเห็นร่างแยกมากมายของข้าพเจ้าได้

 

 

นิมิตเห็นสุริยคราส ประเทศจะเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ และความเจริญรุ่งเรือง

 

วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557

 

คืนนี้ข้าพเจ้าได้มีนิมิตเห็นเหตุการณ์การเกิดสุริยคราส  มีรัศมีปรากฏรอบดวงอาทิตย์ในขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังจะเริ่มมืดอย่างสวยงาม ขณะที่มืดทั้งดวงได้ปรากฏเห็นเป็นแสงสว่างจ้าคล้ายกับเพชรเม็ดใหญ่ ส่องแสงตระการตาอย่างงดงามมาก

พระแม่ชี้แจ้ง เหตุการณ์นี้บ่งบอกให้รู้ว่า ภายหลังจากที่ผู้ชุมชุนออกมาประท้วงและสิ้นสุดการปะทะกันแล้ว ประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรือง และความผาสุก


 

นิมิตเห็นมวลมหาชนมากมายออกมาประท้วง และสภาพบ้านเมืองที่เสื่อมโทรมภายหลังการสิ้นสุดการปะทะ

 

วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

 

คืนนี้ขณะที่ข้าพเจ้านั่งทำสมาธิ ได้มีนิมิตเห็นมวลชนมากมาย หลายกลุ่มออกมาเต็มท้องถนนเพื่อประท้วงให้นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก ในขณะที่ยังมีกฎของทหารควบคุมบ้านเมืองอยู่ จากนั้นได้เห็นสภาพของบ้านเมืองที่เสื่อมโทรม เศษหิน ดินทราย เกลื่อนตามถนน ไร้ซึ่งผู้คนบนท้องถนน

พระแม่ชี้แจ้งเหตุการณ์จะเป็นจริงตามนิมิต

 

 

นิมิต สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทดสอบจิตอีกครั้ง

 

วันศุกร์ที่ 24  ตุลาคม พ.ศ. 2557

 

เช้านี้ข้าพเจ้าได้มีนิมิตฝัน  ข้าพเจ้ามีทุกสิ่งทุกอย่าง แต่มีผู้หนึ่งถามข้าพเจ้าว่า ถ้าให้เลือกระหว่างสิ่งเหล่านี้ กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะเลือกสิ่งใด  ข้าพเจ้าตอบทันที หากในชีวิตนี้ต้องเลือกระหว่างสิ่งนี้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชีวิตนี้ขอเลือกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และข้าพเจ้าได้หันหลังให้กับวัง อำนาจ และทรัพย์สมบัติมากมายนั้น และเดินไปหา         สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นจึงตื่นนอนราวตี 2 กว่า  รุ่งเช้าถามพระแม่  พระแม่ชี้แจ้งเป็นการทดสอบจิตจากพระแม่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ เนื่องด้วยใกล้ถึงเวลาปฏิบัติภารกิจ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงต้องแน่ใจว่าจิตข้าพเจ้าจะไม่ยึดติดในสิ่งใด ๆ


 

นิมิต พบพระพุทธองค์ ชี้แจ้งขั้นตอนการเห็นพระแม่อีกครั้ง

 

วันอังคารที่ 28  ตุลาคม พ.ศ. 2557

 

เช้านี้ข้าพเจ้าได้มีนิมิตฝัน  ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังอยู่ที่กรุงเทพฯ แถวๆมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ข้าพเจ้าได้สังเกตเห็นมีวัด ๆ หนึ่ง ซึ่งในวัดนั้น ได้เห็นองค์หลวงปู่ประทับด้านใน พร้อมทั้งมีชายหนุ่มอีก 2-3 คนแต่งกายชุดธรรมดาทั่วไป เสื้อยืดโปโลสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ (เข้าใจว่าหลวงปู่องค์นั้นคือหลวงปู่โตฯ)  ข้าพเจ้าจึงได้ร้องถามว่า

อ้าว หลวงปู่  สวัสดีค่ะ  หลวงปู่มาที่นี่ได้ยังไงคะ  

หลวงปู่ยิ้มรับ และตอบว่า  ไปไงมาไง  เข้ามาก่อนสิ  มาคุยกัน

แล้วข้าพเจ้าก็เดินเข้าไปหาองค์ท่าน  ทันใดนั้นก็นึกในใจว่า เอ๊ะ!... นี่เราเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วเหรอ  องค์ท่านตอบว่า ที่เห็นได้น่ะ เพราะมีผู้ชายที่แต่งกายสีฟ้าคนนั้นอยู่น่ะ  หากว่าไม่มีชายผู้นี้ก็ไม่สามารถเห็นได้ ข้าพเจ้าจึงได้ทดสอบด้วยการเดินเข้าไปหาชายหนุ่มผู้นั้น (ลักษณะเหมือนองค์จี้กง)  และบอกว่า น้อง ๆ  พี่ขอโทษจ้า  พี่รบกวนขอน้องช่วยไปยืนอยู่ที่ด้านหลังประตูสักครู่ได้ไหม  ชายหนุ่มผู้นั้น ทำหน้ายิ้ม ๆ แล้วก็เดินไปหลังประตู (ข้าพเจ้าเองก็สงสัยว่าทำไมเรียกชายผู้นี้ว่า น้อง ทำไมไม่เรียกว่าพี่ถึงจะถูก)  จากนั้นข้าพเจ้าได้หันมาทางหลวงปู่  ปรากฏว่า  อ้าว……ไม่เห็นหลวงปู่เลย ถ้าไม่มีชายหนุ่ม ผู้นี้ ก็ไม่เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

จากนั้นข้าพเจ้าก็ได้เดินทางไปที่ทำงานเก่า ซึ่งอยู่กับผู้คนอีกมากมายหลายคน กำลังทำงานกันอยู่ งานยุ่งมาก อาจารย์ได้บอกกับข้าพเจ้าว่า ที่นี่เป็นถิ่นของคนผู้หนึ่ง ซึ่งคนผู้นี้มีอำนาจมาก และมีบุตรสาวอยู่คนหนึ่ง บุตรสาวนี้ครั้งเวลาอารมณ์ดีก็น่ารัก ใจดีมาก แต่ถ้าใครทำให้ไม่ถูกใจละก็ ไม่กล้าเข้าใกล้กันเลยทีเดียว หญิงสาวนี้คุมถิ่นแถวนี้ทั้งหมด จึงไม่ค่อยมีใครกล้าทำอะไรมากมาย  ข้าพเจ้าจึงสงสัยว่า เป็นใคร จึงได้นั่งรอดูหน้าหญิงสาวผู้นั้น สักครู่ หญิงสาวนั้นได้ออกมาที่ลานข้างนอกเพื่อที่จะขึ้นรถไปทำธุระ  ก่อนขึ้นรถได้หันมามองและยิ้มและโบกมือให้ พร้อมกับบอกว่าไปล่ะนะ  ซึ่งหน้าตาน่ารักมาก ๆ สวยไม่มีที่ติ ผมยาวตรงสลวย  กิริยา อ่อนหวานมาก  ข้าพเจ้าสงสัยว่านี่นะเหรอที่บอกว่าน่ากลัว  ออกจะน่ารักอ่อนหวานขนาดนั้น

  จากนั้นข้าพเจ้าจึงตื่นนอนในเวลา 04.35 น.

รุ่งเช้าเมื่อได้ถามพระแม่แล้ว จึงได้ความตามนี้

หลวงปู่ในนิมิต คือ พระพุทธองค์

ชายแต่งกายชุดสีฟ้า คือ องค์ชายอั้งไห้ยี้

หญิงสาวงดงามนั้น คือ องค์หญิงนาจา

อาจารย์นั้น คือ  หลวงพ่อโสธร (เนรมิตกายให้เหมือนอาจารย์)



 

นิมิต ประเทศไทยเจริญรุ่งเรือง เป็นเมืองศิวิไลซ์ มีรถไฟความเร็วสูงที่ทันสมัย รถไฟใต้ดินมีอุโมงค์ที่งดงาม

 

วันพุธที่ 29   ตุลาคม พ.ศ. 2557

 

เช้านี้ได้รับข่าวสารจากทาง อาจารย์  ท่านได้ให้ผู้ช่วยโทรถามถึงสภาวะความเป็นอยู่ของข้าพเจ้า รวมทั้งได้แนะนำตำแหน่งงานให้ หากข้าพเจ้าสนใจจะไปทำ (โอ้…..สนใจมาก อยากไปทำมาก เพราะในเวลานี้บริหารค่าใช้จ่ายไม่ไหวแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ เงินที่กู้มาก็ต้องนำมาหักค่าใช้จ่ายทุกเดือนโดยที่แทบจะไม่มีรายได้เข้าร้านเลย)   แต่เมื่อวานนี้พระพุทธองค์ และหลวงพ่อโสธร มาชี้แจ้ง ไม่อนุญาตให้กลับไปทำงานที่คณะฯในเวลานี้ ข้าพเจ้าจึงได้ส่ง Email ให้ทางอาจารย์เป็นที่ทราบแล้ว  ในที่นี้อาจารย์เป็นผู้ที่มีเมตตาต่อข้าพเจ้าเสมอมา

ค่ำนี้ข้าพเจ้านั่งทำสมาธิเวลา 21.00 – 22.00 น. และตื่นมาทำสมาธิในเวลา 01.30-02.30 น. และตื่นมาทำสมาธิอีกครั้งในเวลา 05.00 น.  ขณะนั่งทำสมาธิได้มีนิมิตเห็น อุโมงค์รถไฟใต้ดิน เป็นสีน้ำตาลอ่อน สว่างไสว เป็นช่องสี่เหลี่ยม งดงามไม่เหมือนทุกวันนี้เท่าไหร่นัก มีรถไฟความเร็วสูงที่ทันสมัยมาก  มีทางด่วน โทลเวย์ มีรถวิ่งไปมามากมาย แต่รถไม่ติด บ้านเมืองร่มเย็น เจริญรุ่งเรือง เป็นเมืองศิวิไลซ์อย่างแท้จริง  ผู้คนอยู่กันอย่างสะดวกสบาย เมื่อถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้ง จะเป็นไปตามนิมิต และอุโมงค์รถไฟใต้ดินทำด้วยหินอ่อน สีน้ำตาลอ่อน ๆ ประดับด้วยไฟสว่างไสวตลอดแนว   ซึ่งภายหลังจากการปะทะกันสิ้นสุดลง บ้านเมืองจึงจะเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์

 

 

พระแม่ชี้แจ้ง ลักษณะอุโมงค์คล้ายกับภาพตัวอย่างนี้ ทำด้วยหินอ่อน สีออกนวล ๆ สว่างไสวตลอดแนว

 

นิมิต เห็นมวลมหาชนออกมาประท้วงมากมายเต็มถนน

 

วันอาทิตย์ที่ 9  พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

 

ค่ำนี้ขณะที่นั่งทำสมาธิได้สักครู่ จิตได้ออกจากร่าง เมื่อหันกลับมามองเห็นตัวข้าพเจ้าเองกำลังนั่งทำสมาธิอยู่ และได้เห็นเหตุการณ์มวลมหาชนออกมามากมายเต็มท้องถนนเพื่อประท้วงให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี

รุ่งเช้าถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้งเหตุการณ์จะเกิดในเร็ว ๆ นี้ และทุกครั้งที่ข้าพเจ้านิมิตเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ นั่นคือข้าพเจ้าได้แยกกายทิพย์ไปดูอนาคตหรืออดีตนั่นเอง

ทุกครั้งหลังจากทำสมาธิ เมื่อหลับตานอนข้าพเจ้าจะรู้สึกตัวเบามาก เหมือนกำลังลอยอยู่บนอากาศเหนือพื้นดินเล็กน้อย

ข้าพเจ้ายังคงต้องพยายามต่อไปเพื่อที่จะสามารถเหาะเหินเดินอากาศ หายตัว และแยกร่าง 99 ร่างเพื่อการปฏิบัติภารกิจในวันข้างหน้า

สำหรับการรู้จิตของผู้คนนั้น ส่วนใหญ่จะรู้ได้เฉพาะรายบุคคล หรือกรณีที่พระแม่ให้ข้าพเจ้ารู้ได้เท่านั้น



นิมิตเห็นน้ำท่วมหนักทั่วทั้งประเทศอีกครั้ง

 

วันพุธที่ 13  พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

 

ค่ำนี้ขณะที่นั่งทำสมาธิ ได้มีนิมิตเห็นน้ำท่วมหนัก น้ำมาจากทั่วสารทิศ มวลน้ำมากมายไหลมาอย่างเชี่ยวกรากท่วมบ้านเมือง ผู้คนต่างอยู่บนแพ มองไปทางไหนก็มีแต่น้ำ พระแม่ชี้แจ้ง จะเกิดตามนิมิตภายหลังจากการปะทะสิ้นสุดลง

 

ชุดใหม่องค์หญิง องค์ชาย เซียงน้อย

 

วันเสาร์ที่ 22  พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

 

หลายอาทิตย์ก่อนองค์หญิงได้ออกแบบชุดนอนใหม่ และให้ข้าพเจ้าถักให้ วันนี้จึงมีโอกาสได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ท่ามกลางบรรยากาศการดื่มน้ำชาในห้องนอนข้าพเจ้ากับอากง และอาม่า



ภาพชุดนอนใหม่องค์หญิง องค์ชาย และเซียงน้อย

ชุดนอนองค์หญิงหมวกจะมีลักษณะเป็นคิตตี้ ขององค์ชายชุดจะหลากสี

 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประชุมโครงงานและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

 

วันอังคารที่ 25  พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

 

                เช้านี้ได้มีนิมิตเห็นข้าพเจ้าเดินไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงอาหารภายในโรงเรียน จำได้ว่าเป็นโรงเรียนรังษีวิทยา  ซึ่งข้าพเจ้าเรียนที่แห่งนี้ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย ได้เห็นมีกลุ่มคนประมาณ 10 กว่าคน นั่งกันอยู่ 3 กลุ่มในโรงอาหาร กำลังนั่งประชุมงาน โครงการต่าง ๆ พร้อมทั้งแจกแจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายในแต่ละงาน และมีองค์ที่เป็นชายหนุ่มซึ่งมีรูปหน้าคล้าย ๆ กันประมาณ 9 องค์นั่งมองหน้าข้าพเจ้าอย่างขะมักเขม้น  ข้าพเจ้าเห็นแล้วให้รู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย จากนั้นข้าพเจ้าจึงได้เดินเข้าไปร่วมประชุมด้วย และได้ถามว่าแล้วเราต้องช่วยจ่ายเงินรวมแล้วเท่าไหร่ หัวหน้าประชุมซึ่งเป็นหญิงสาว     ผู้หนึ่งตอบว่า รวมทั้งสิ้น 26 บาท ข้าพเจ้าจึงหยิบเงินให้ และได้คุยทักทายกับคนในกลุ่ม

                เมื่อตื่นนอน พิจารณาแล้ว จึงรู้ว่านั่นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์กำลังประชุมงานที่จะให้ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติภารกิจ และ 9 องค์ที่มองข้าพเจ้าตลอดเวลานั้นคือองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว และเมื่อได้ถามพระแม่แล้ว    พระแม่ชี้แจ้งเป็นไปตามนี้

 



พระแม่ให้ข้าพเจ้ามีหูทิพย์ ได้ยินเสียงเทพ แต่ให้พูดเฉพาะภาษาไทยเท่านั้น

 

วันพฤหัสบดีที่ 27  พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

                ค่ำนี้ในเวลา 18.00 น. ขณะที่กำลังจะทานอาหารเย็น ที่บ้านเปิดละครดู ข้าพเจ้านั่งดูพระเอก กับรองพระเอกสนทนากัน แต่ที่ได้ยินกลับไม่ใช่ภาษามนุษย์ แต่จำได้ว่าเป็นภาษาเทพ (ในอดีตข้าพเจ้าเคยได้ยินภาษาเทพมาแล้วจึงพอจำได้) แต่ก็ไม่แน่ใจ พยายามตั้งใจฟังหลายครั้ง เหมือนจะพูดภาษาไทย แต่ก็ไม่ใช่ จึงถามอากงว่า 2 คนนี้เขาคุยอะไรกัน เหมือนกำลังคุยภาษาเทพอยู่เลย  ข้าพเจ้าจึงได้ถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้งที่ได้ยินนั้นเป็นภาษาเทพ และองค์ที่คุยกันนั้นคือองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว และพระแม่ให้ข้าพเจ้ามีหูทิพย์ เพื่อที่วันข้างหน้าข้าพเจ้าจะสามารถฟังเข้าใจได้

                ในเวลานี้ข้าพเจ้าก็รอแต่เพียงให้เห็นองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ และรอสถานการณ์บ้านเมือง แล้วจึงจะเริ่มปฏิบัติภารกิจได้ ช่วงนี้จึงได้แต่ติดตามข่าวสารและรอคอยเวลา

 


 

นิมิตเห็นองค์หนี่ออเนื่ยเนี้ย

 

วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

 

                เช้ามืดนี้ข้าพเจ้านั่งทำสมาธิในเวลาตี 2.30 ถึง ตี 4.00 น. ได้มีนิมิตเห็นองค์ผู้หญิงสวย สง่างามมาก นั่งอยู่บนบัลลังก์ สวมมงกุฎ แต่งกายชุดกษัตริย์จีนโบราณ เห็นอยู่ 2 ครั้ง  ขณะนั่งไปครู่ใหญ่ ๆ ได้เกิดเป็นตะคริวขึ้นมากะทันหัน รู้สึกเจ็บมากจึงออกจากสมาธิ มองนาฬิกาเวลา ตี 4.00 รุ่งเช้าถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้งคือ องค์หนี่ออเนื่ยเนื้ย  


        

 

นิมิตเห็นองค์ชายร่างแยกที่จะมาเกิดกับข้าพเจ้าอีกครั้ง

 

วันอังคารที่ 16  ธันวาคม พ.ศ. 2557

 

ค่ำนี้อาม่ามาช่วยนวดตัว นวดขาให้ข้าพเจ้าก่อนนอนราว 1 ชั่วโมง ทำให้ข้าพเจ้าสามารถนอนหลับได้ กระทั่งถึงตี 03.00 น. ข้าพเจ้าได้มีนิมิตเห็นเด็กชายอายุราว 13-14 ปี ไว้ผมลองทรงสั้น สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว หน้าตาหล่อเข้มมาก ท่าทางฉลาดมาก รูปหน้าเหมือนพระมหาสถาปราปต์โพธิสัตว์ ข้าพเจ้ารู้ได้ว่านั่นคือ ร่างแยกองค์ชายที่จะมาเกิดกับข้าพเจ้าในเร็ววันนี้ ซึ่งเมื่อถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้งเป็นไปตามนี้



 

นิมิตเห็นซากศพนอนเกลื่อนตามชายหาดนับหมื่น หลายชายหาด หลังสึนามิสงบ คนตายนับแสน

 

วันอังคารที่ 16  ธันวาคม พ.ศ. 2557

 

ภายหลังจากนิมิตเห็นร่างแยกองค์ชายที่จะมาเกิดกับข้าพเจ้าแล้ว ได้เห็นภาพนิมิต ซากศพนอนเกลื่อนเต็มชายหาดภายหลังจากคลื่นสึนามิสงบแล้ว  สภาพแทบไม่ต่างไปจากซากศพของปลาที่นอนเกยตื้น  เมื่อถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้ง เป็นนิมิตคนตายภายหลังเกิดสึนามิที่จะเกิดในเร็ววันนี้ เฉพาะที่ชายหาดนี้มีคนตายนับหมื่น และจะเกิดหลายชายหาด ไม่นับรวมอีกมากมายทั่วประเทศ ผู้คนราว 2 แสนคนเห็นจะได้

 

 

นิมิตบ้านเมืองเกิดกลียุคเข้าสู่สงครามกลางเมือง

 

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

 

                ช่วงเวลาที่พยายามข่มตาให้นอนหลับได้มีนิมิตเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ หลายเหตุการณ์ ดังนี้

·       นิมิตแรกเห็นผู้คนมากมายหลากหลายอาชีพ หลากหลายกลุ่มออกมาประท้วง  ต่างเข่นฆ่ากัน ทำร้ายกัน ซึ่งมวลมหาประชาชนที่ออกมาในรอบนี้มีมากกว่ารอบที่ผ่านมาอย่างมาก มากที่สุดในประวัติศาสตร์

·       จากนั้นได้นิมิตเห็นข้าพเจ้าและอากง ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้าน ข้าพเจ้าชี้ให้อากงมองดูพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ อับแสงลง

·       จากนั้นได้นิมิตเห็นกองทัพกำลังเดินสวนสนามอย่างสง่างาม

·       และนิมิตสุดท้ายได้เห็น อากง อาม่า และข้าพเจ้ากำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน ได้ปรากฏมีแมวดำตัวหนึ่งมาร้องเพลงอยู่ริมระเบียง ซึ่งอากง และข้าพเจ้าก็ได้ร่วมร้องด้วย ร้องเพียงท่อนสั้น ๆ มีใจความเนื้อเพลงดังนี้  ………ให้เธอมีความสุข  ให้เธอมีความหวังก้าวเดินต่อไป …….

 

พระแม่ชี้แจ้ง ในครั้งนี้จะมีมวลมหาประชาชนหลายส่วน ออกมาประท้วงมากมายประเทศเข้าสู่กลียุค สู่สงครามกลางเมือง  ภายหลังประเทศพ้นจากกลียุคแล้ว จะมีการจัดระเบียบบ้านเมืองใหม่ เพื่อให้ประเทศเข้าสู่ความเจริญรุ่งเรือง ความสงบสุข ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข

สำหรับแมวดำที่มาร้องเพลงนั้น คือ พระพุทธองค์เนรมิตกาย เพื่อให้รู้ว่าประเทศจะเข้าสู่ความรุ่งเรือง ประชาชนมีความสุข

 

5 ชาติภพสุดท้ายขององค์นายหลวงในระหว่าง 2,500 ปี

 

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ภายหลังจากได้รู้รายละเอียดเหตุการณ์บ้านเมืองแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้ถามจำนวน 5 ชาติภพที่เหลือขององค์นายหลวง พระแม่ชี้แจ้ง องค์นายหลวงเมื่อสิ้นสุดชาติภพนี้แล้ว จะเกิดเป็นพรหม ในชาติต่อไป และในอีก 4 ชาติภพต่อจากชาติที่เกิดเป็นพรหม จะลงมาเกิดเป็นพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย ซึ่งจะไม่มีผู้ใดมาประทุษร้ายเหมือนดั่งเช่นชาตินี้ เมื่อสิ้นสุดชาติภพ แล้วจึงรอจุติเป็นศาสดาองค์ต่อไปในอนาคตกาล

ทั้งนี้อีก 5 ชาติภพขององค์นายหลวงจะเกิดในช่วงระหว่าง 2,500 ปี ในยุคขององค์พระ   สังกัจจายน์ลงมาจุติเป็นพระศาสดา


 

นิมิตข้าพเจ้าถอดร่างจากหงส์ทองเป็นมังกรทอง เหินเวหาอย่างองอาจ

 

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2557

 

เมื่อวานอยู่ร้านปวดร่างกายทั้งวัน ค่ำนี้อาม่านวดยาให้จึงรู้สึกดีขึ้น สามารถนอนหลับได้ กระทั่งตื่นนอนในเวลา 05.20 น. ก่อนตื่นนอนได้มีนิมิตหลายเหตุการณ์ เหตุการณ์แรก นิมิตเห็นข้าพเจ้าเป็นหงส์ทองคู่ อยู่บนฟ้า กำลังพยายามจะถอดร่าง หลังจากพยายามอยู่ 2-3 ครั้งก็สามารถถอดร่างและกลายร่างเป็นมังกรทองพุ่งออกมาด้วยความรวดเร็ว เหาะเหินเวหาอย่างองอาจ เปรียบดั่งเป็นจ้าวเวหาเหาะไปมาอย่างทรงพลัง

พระแม่ชี้แจ้ง เวลานี้ได้ปลดปล่อยข้าพเจ้าเป็นอิสระทุกอย่าง ดั่งมังกรทองเหินเวหาได้อย่างอิสระ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิบัติภารกิจ

 

 

 

 

 


 

ภาพตัวอย่างในนิมิตข้าพเจ้าเป็นร่างหงส์คู่กำลังถอดร่างให้เป็นมังกร  และท้ายสุดได้ถอดร่างสำเร็จเป็นมังกรทองเหินเวหาอย่างทรงพลัง



นิมิตน้ำมันดิบในประเทศไทย ประเทศไทยจะเป็นประเทศมหาอำนาจของโลกประเทศหนึ่ง

 

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2557

 

หลักจากนิมิตข้าพเจ้ากลายร่างเป็นมังกรทองแล้ว ขณะที่ข้าพเจ้าก้มลงดูพื้นดิน รู้ได้ว่าภายใต้ผืนดินที่ยืนอยู่นั้นมีน้ำมันดิบมากมายในประเทศนี้  ซึ่งพระแม่ชี้แจ้ง ประเทศไทยมีน้ำมันดิบมากมาย ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยนั้นเป็นประเทศมหาอำนาจของโลกประเทศหนึ่งได้

 

นิมิตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทดสอบจิตข้าพเจ้า ในด้านคุณธรรม

 

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2557

 

ก่อนตื่นนอนอีกครั้งของวันนี้ในเวลา 7.45 นาที เนื่องด้วยวันนี้ปิดร้าน จึงนอนตื่นสายได้ และจากการที่ไม่ได้นอนมาหลายคืน จึงทำให้หลับได้นาน ก่อนตื่นนอนได้นิมิตเห็นคู่รักคู่หนึ่ง คล้ายกับละครเรื่องมาหยารัศมี  คุณชายกับนางเอกถูกกีดกันเรื่องความรัก ทั้ง 2 ต่างหลบไปอยู่ด้วยกัน สุดท้ายมีคนตามจนพบ คุณชายถูกนำตัวกลับไป ส่วนนางเอกถูกรุมทำร้าย ซ้ำร้าย มีผู้มียศศักดิ์ทั้งหลาย รวมไปถึงหม่อม คนในราชวงศ์รวมกันราว 20 คน จ้องจะทำร้ายและใสร้ายนางเอก ซึ่งในนิมิตข้าพเจ้ายืนเห็นเหตุการณ์โดยตลอด นางเอกคนนี้เป็นคนจิตใจดี ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยกลับถูกคนมีอำนาจ กดขี่ ข่มเหง ทำร้าย  ข้าพเจ้าทนไม่ได้ จึงได้เข้าไปช่วยนางเอกคนนั้น และได้ชี้หน้าต่อว่าผู้คนเหล่านั้นด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด ว่า ไม่ละอายแก่ใจบ้างหรือ เป็นถึงผู้สูงศักดิ์ ผู้มีอำนาจเป็นถึงหม่อมทั้งหลาย กลับทำร้ายผู้หญิงตัว  เล็ก ๆ คนหนึ่งที่ไม่มีทางจะสู้ได้ ทุกคนในที่นี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่เห็นแก่ตัวทั้งสิ้น แล้วข้าพเจ้าก็พานางเอกนั้นออกไปที่ปลอดภัย จิตคิดแต่ว่าเมื่อได้ทำงานแล้วจะปราบคนชั่วเหล่านี้ให้ราบคาบสิ้น

เมื่อถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้ง คนต่าง ๆ เหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาทดสอบจิตของข้าพเจ้า ทดสอบความพร้อมในด้านคุณธรรมก่อนการปฏิบัติภารกิจที่จะมาในเร็ว ๆ นี้ สำหรับพระเอกและนางเอกในนิมิตนั้นคือ องค์ชายและองค์หญิง


อีกทั้งระยะนี้ข้าพเจ้าผดผื่นขึ้นเต็มหน้าตลอด เป็น ๆ หาย ๆ ตั้งแต่แพ้ยากดภูมิคุ้มกันก่อนที่หมอจะให้หยุดยา ก็มีอาการผื่นแพ้ เป็นสิวผดเล็ก ๆ  ขึ้นเต็มหน้า เป็น ๆ หาย ๆ ต้องทานยาแก้แพ้ตลอด สืบเนื่องจากการทานยากดภูมิที่มี     สเตียรอยด์มาเป็นเวลานาน ซึ่งได้ทานยา เมโธเทรกเซท (Methotrexate) เป็นเวลา เกือบ 8 ปี และทานยา dexamethasone 2 เดือน ไม่ค่อยแน่ใจในชื่อยานัก จึงเกิดผลข้างเคียงหนัก ซึ่งผลเสียจากการใช้ สเตียรอยด์ติดต่อกันนานๆ คือ จะทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำ ติดเชื้อง่าย ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อเรื้อรังหรือรุนแรง หน้าบวม ผิวหนังบางมีอาการบวม  ท้องลาย สิวเม็ดเล็กที่มีลักษณะเฉพาะที่เรียกว่าสิวสเตียรอยด์ ผิวเข้มขึ้น ความดันโลหิตสูง อ่อนเพลีย ขนขึ้นตามตัว ติดเชื้อง่ายขึ้น เกิดเชื้อราในช่องปากง่ายขึ้น เพราะยาจะไปกดระบบภูมิคุ้มกันที่คอยต่อต้านเชื้อโรค และอีกหลายอย่าง  ทำให้ข้าพเจ้าเกิดอาการผิวติดสเตียรอยด์ ตั้งแต่เกิดผลข้างเคียงมาจนถึงทุกวันนี้ รวมทั้งอาการปวดร้าวทั้งตัว จึงยิ่งทำให้ไม่สามารถนั่งสมาธิได้เลย


 

นิมิตว่าด้วยเรื่องของ กาลเทศะ

 

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

 

ก่อนตื่นนอนวันนี้ได้มีนิมิตเห็นว่า มีผู้คนมากมายหลายกลุ่มกำลังจะมีการประชุมใหญ่ แต่การประชุมกลับไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องด้วยมีเด็กสาวคนหนึ่งไม่ยอมเข้าร่วมประชุม และเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อผู้อื่นมาก ทำให้ไม่สามารถจัดการประชุมได้หากเด็กสาวนี้ไม่มาร่วมประชุม

เมื่อข้าพเจ้าไปถึงจึงได้ตามให้เด็กสาวนี้มาร่วมประชุม เด็กสาวร้องให้และบอกอย่างสำนึกผิดว่าได้ทำความผิดไปตั้ง 19 เรื่อง  ซึ่งข้าพเจ้าตอบเด็กสาวนี้ว่า แค่เรื่องเดียว  ทำผิดแค่เรื่องเดียว คือ “กาลเทศะ” เด็กสาวมองหน้าข้าพเจ้าและทำหน้างง ข้าพเจ้าจึงได้อธิบายต่อว่า คำว่า กาลเทศะ หมายถึง การทำอะไรก็ตาม ให้ถูก ให้ควร ให้เหมาะสม อีกทั้งการกระทำนั้นต้องไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อทั้งตนเองและผู้อื่น  เมื่อพูดจบเด็กสาวก็หยุดร้องให้และเข้าใจ และเตรียมรอประธาน รองประธานเข้าร่วมประชุม

ในที่นี้ เด็กสาวคือ องค์หญิง  ผู้คนที่ร่วมประชุมคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ประธานคือมหาเทพองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว และมหาเทพอีก 9 องค์ รวมกัน 18 องค์  รองประธานคือพระแม่กวนอิม


 

นิมิตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทดสอบจิตข้าพเจ้า ในด้านคุณธรรม

 

วันศุกร์ที่ 26  ธันวาคม พ.ศ. 2557

 

ก่อนตื่นนอนได้มีนิมิต เห็นว่า มีกลุ่มคนมากมายกำลังนั่งเรียนหนังสือในห้องเรียน  คุณครูสั่งงานให้ทำรายงานมากมายหลายหัวข้อ  ข้าพเจ้าจึงเสนอว่า คุณครูน่าจะมีสรุปหัวข้อรายงานที่ชัดเจนแจกให้นักเรียน เพื่อที่จะได้ทำรายงานได้ถูกต้อง  แต่ปรากฏว่าในห้องเรียน มีเด็กสาวคนหนึ่ง บอกว่า ไม่ต้องแจก ซึ่งดูเป็นเด็กที่มีอิทธิในห้องเรียนมาก ซึ่งนักเรียนและคุณครูต้องทำตามเด็กคนนี้ทุกอย่าง  ข้าพเจ้าจึงประกาศในห้องเรียนว่า “ก็เอาหยั่งงี้สิ  ใครไม่อยากได้ก็ไม่ต้องแจก  แจกเฉพาะคนที่อยากได้ “ ทุนคนในห้องต่างหัวเราะด้วยความพอใจในคำตอบนี้ เพราะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ต้องการแต่มีอิทธิพลมากจนทุกคนในห้องต้องเกรงกลัว  เด็กสาวนี้จึงถามว่า ใครเป็นคนพูด ขอดูหน้าหน่อย  ข้าพเจ้าจึงเอื้อมตัวให้มอง และบอกว่า เราเอง ชื่อชุติกาญจน์  เราก็อยากเห็นหน้าเด็กสาวที่มีอิทธิพลนี้เหมือนกัน  ครั้นพอได้เห็นเด็กสาวคนนี้ ก็คิดในใจ  โอ้ว หน้าตาน่ารักมาก ๆ  และท้ายสุด ก็เป็นอันยินยอมให้มีการแจกหัวข้อรายงานให้กับนักเรียนทุกคนอย่างสันติ 

เด็กสาวในที่นี้ คือ องค์หญิง  นักเรียนในห้องเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทดสอบข้าพเจ้าในด้านคุณธรรม อย่าได้เห็นแก่ผู้มีอิทธิพล แต่ให้เห็นแก่ส่วนรวม เน้นความถูกต้องและความเที่ยงธรรม


 

 

 

 

 

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บันทึกปาฏิหาริย์ บทสวดมนต์พระแม่กวนอิม 1-23

ภาคบทสวดมนต์ พระแม่กวนอิม         บทสวดมนต์นี้ ข้าพเจ้าได้ฟังจากบทสวดและถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือ พร้อมกำหนดเสียงสูง ต่ำ ให้สอดคล้องกับบทสวด...