วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บันทึกปาฏิหาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์และนิมิตภัยพิบัติ 1-13

สัญญาณเตือน ภัยครั้งใหญ่

 

วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

 

ตะวันโพล้เพล้ของค่ำวันนี้ ข้าพเจ้าออกไปเดินเล่นหน้าบ้าน กับอาม่า  ในขณะที่กำลังเงยหน้ามองท้องฟ้า ทันใดนั้นรู้สึกได้ถึงความสงบของท้องฟ้าซึ่งเป็นความรู้สึกที่น่าสะพรึงกลัวและตกใจอย่างมากกับความนิ่งสงบนี้   ได้บอกว่าอาม่าว่า ทำไมวันนี้ท้องฟ้าเงียบสงัด ผิดปกติ ดูแล้วน่ากลัวมาก อาม่าบอกว่าใช่จริง ๆ ด้วย ดูแล้วรู้สึกน่ากลัว  อาม่าหันไปคุยกับอากง อากงก็บอกว่าใช่ ข้าพเจ้ารู้สึกว่ากำลังจะมีภัยครั้งใหญ่ในเร็ว ๆ นี้

เช้ามืดของอีกวัน ขณะอากงกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่นั้น ได้ฝันว่า กำลังคุยกับอาม่าเรื่องท้องฟ้าเมื่อวานนี้ อากงถามอาม่าว่า ท้องฟ้ายังเงียบสงบอยู่เหรอ สักครู่ อากงก็ได้ยินเสียงใครบางคนมาบอกว่า “ตั่วแจ๋ ตั่วล้าย”  แปลเป็นไทยคือ “ยิ่งสงบ ยิ่งหนัก(ยิ่งมาแรงและเยอะ คือมาเป็นชุดใหญ่)” นั่นเอง




ตัวอย่างภาพ

นิมิตเห็นบุตรชายจากร่างแยกองค์ชาย และท่านยมบาล

 

วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

 

วันนี้พาองค์ชายองค์หญิงไปอยู่ที่ร้านด้วย เนื่องจากช่วงนี้เศรษฐกิจย่ำแย่ มาก ๆ ค้าขายลำบาก คนระดับรากหญ้าเดือดร้อนกันเป็นส่วนใหญ่ บ่ายโมงครึ่งของวันนี้ ขณะที่กำลังถักไหมพรมปลอกหมอนให้องค์หญิงนานา ทันใดนั้นรู้สึกง่วงนอนมากจนทนไม่ไหว ต้องรีบนอนหลับสักงีบ พอหลับตาลงได้สักพัก ได้มีนิมิตเห็น ชายหนุ่มอายุราว 25-26 ปี หน้าตาหล่อเหลามาก ไร้ที่ติ ได้มายิ้มให้  สักพัก ก็ได้เห็นท่านยมบาล (หน้าตาองค์ท่านเหมือนกันกับภาพวาดที่ข้าพเจ้าได้วาดไว้) ท่านยังคงหล่อคมเข้มเหมือนเดิม   เมื่อหมดนิมิต ข้าพเจ้ารู้สึกหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง ครั้นจะหลับต่อก็หลับไม่ลง จึงตื่นมาถักปลอกหมอนต่อ 

เมื่อถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้ง ชายหนุ่มนั้นคือบุตรชายของข้าพเจ้าซึ่งเป็นร่างแยกขององค์ชาย กำลังจะมาเกิดในเร็ว ๆ นี้ และท่านยมบาลต้องการบอกว่าภารกิจของพระแม่ใกล้จะมาแล้ว


 

พระแม่ชี้แจ้ง ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านยมบาลสลายพลังไสยศาสตร์

 

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

 ค่ำนี้พระแม่ได้ชี้แจ้ง มีบุคคลบางกลุ่มได้ทำไสยศาสตร์ปิดกั้น เพื่อต้องการลบล้างคำทำนาย ทั้งทำพิธีที่ทุ่งมะม่วงหวาน ทำพิธีมอญแหกค่าย และอีกหลายพิธี เพื่อต้องการล้างคำทำนาย  ทั้งนี้พระแม่ให้ข้าพเจ้าจุดธูป ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านยมบาล ให้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์และท่านยมบาลสลายพลังไสยศาสตร์ที่มีคนทำปิดกั้นไว้ พร้อมทั้งให้องค์ท่านช่วยปราบผู้ที่รับทำไสยศาสตร์ดังกล่าว 


 

นิมิต บุตรชายข้าพเจ้าออกบวชตอน 4 ขวบ

 

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

 

เที่ยงกว่าวันนี้อยู่ที่ร้าน อากาศร้อนอบอ้าวมาก ข้าพเจ้ารู้สึกง่วงนอนมาก เนื่องจากทานยา    แก้แพ้  ขณะที่กำลังหลับตาลง ได้มีนิมิตเห็นเด็กผู้ชาย หน้าตาน่ารักมาก บวชเป็นเณรน้อย มีพระพี่เลี้ยงอยู่ดูแลตลอด ยิ้มเห็นฟันขาวซี่เล็ก ๆ จำได้ว่าหน้าตาคล้าย ๆ จะเคยเห็นมาก่อน นึกออกว่าคล้ายองค์ชาย

พระแม่ชี้แจ้ง นั่นคือ องค์ชายที่จะมาเกิดกับข้าพเจ้าในอนาคตกับผู้ใดที่องค์กิ้วอ้วงจัดหาให้ ซึ่งจะเป็นตัวแทนขององค์ท่านได้เท่านั้น เมื่ออายุครบ 4 ขวบให้บวชเณร เป็นเวลา 3 เดือน

ในเวลานี้พระแม่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ได้ช่วยสลายพลังไสยเวทย์ให้ใกล้หมดสิ้นแล้ว


 

ว่าด้วยเรื่องของการทำบุญ และการได้รับบุญ

 

วันอังคารที่ 3 มีนาคม  พ.ศ. 2558

วันนี้ได้ฟังข่าวคราวเกี่ยวกับหลักการทำบุญของวัดธรรมกาย ซึ่งข้าพเจ้าพิจารณาแล้ว ไม่ได้ถูกต้องตามหลักของพระพุทธองค์ทีเดียว โดยบุญนั้นทำจากจิตที่ศรัทธาและเมตตา  ไม่ต้องมีสิ่งของตอบแทน ไม่ต้องใช้เงินทองมากมายในการทำบุญ ไม่ต้องทำบุญกับพระกับวัดเสมอไป ดังนี้

หลายปีก่อนข้าพเจ้าได้เคยกล่าวไว้ว่า ข้าพเจ้าเคยทำงานที่ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อยู่หลายปี ซึ่งข้าพเจ้าได้รับความสะดวก ได้รับความเมตตาจากผู้บริหาร คณาจารย์ และมิตรสหายในคณะ ตลอดการทำงานที่ผ่านมา

ดังนั้นข้าพเจ้าจึงต้องการแบ่งผลบุญที่ข้าพเจ้าได้สร้างสมมา ซึ่งในเวลานี้ข้าพเจ้าบรรลุในระดับมหาเทพสูงสุดแห่งสรวงสวรรค์แล้วองค์หนึ่ง ให้กับทุกคนในคณะฯ จึงได้ส่ง  E-mail (จดหมายอิเล็กทรอนิคส์) จำนวน 2 ฉบับ ให้กับทุกคนในคณะ โดยฉบับแรกนั้น ส่งให้เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม 2558  ได้ส่ง E-mail      บทสวดมนต์พระแม่กวนอิม   และในวันพฤหัสบดีที่  26  มกราคม 2558  ได้ส่ง E-mail  บอกกล่าวสุขภาพของข้าพเจ้าในเวลานั้น  ซึ่งก็มีบางท่านที่ได้ตอบ  E-mail กลับในฉบับแรก และมีบางท่านที่ได้ตอบครอบคลุมทั้ง 2 ฉบับ ทั้งนี้ได้มีอาจารย์ท่านหนึ่งได้ตอบกลับ เป็นข้อความดังนี้

 

“ สาธุครับ
In return may I wish you good health and happiness too.
Regards,

 

                ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีจากข้อความที่ได้รับนี้  ทั้งนี้พระแม่ชี้แจ้ง ท่านใดที่ได้ตอบกลับ E-mail ข้าพเจ้าด้วยความศรัทธาและเมตตาจิต จาก E-mail ฉบับแรก  และได้แสดงความห่วงใยในสุขภาพของข้าพเจ้าด้วยจิตที่เมตตา  ท่านนั้นจะได้รับบุญจากองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว และมหาเทพทั้งหมด แห่งสรวงสวรรค์  จากพระแม่กวนอิม และจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ที่อยู่กับข้าพเจ้า ซึ่งบุญที่ได้นั้นเทียบเท่ากับการสร้างวัด 50 หลัง อีกทั้งสามารถลดจำนวนชาติภพได้ถึง 15 ชาติภพ ซึ่งเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่  โดยเฉพาะอาจารย์ 2 ท่านที่ได้ส่งข้อความกลับหาข้าพเจ้า จากข้อความที่ข้าพเจ้าได้นำมาแสดงนี้  หากท่านใดมีเพียงจิตที่ศรัทธา หรือมีเพียงจิตที่เมตตา ก็จะได้รับผลบุญเพียงบางส่วน มากน้อยตามจิตแต่ละคนที่ได้ให้กับข้าพเจ้าในเวลานั้น

                สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการแสดงให้เห็นจากตัวอย่างนี้ เพื่อให้รู้ว่า การทำบุญนั้น หากทำบุญด้วยจิตที่ศรัทธา จิตที่เมตตา โดยมิได้หวังผลตอบแทน มิได้หวังผลประโยชน์เพื่อตนเองแล้ว แต่เป็นการทำบุญเพื่อผู้อื่นอย่างแท้จริง การทำบุญนั้นแม้จะทำบุญกับคนยากคนจน คนไม่มียศศักดิ์ คนที่ไม่ได้อยู่ในทางศาสนา แม้เพียงวาจาที่ช่วยให้ผู้นั้นมีความสบายใจ คลายความกังวลใจได้ เพียงเท่านี้ ก็ได้บุญกุศลแล้ว  บุญใด ๆ ที่ทำไปนั้น หากทำบุญกับผู้ที่มีจิตอยู่ในศีลในธรรมมากเท่าใด ก็ย่อมได้รับผลบุญกลับมากเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นการทำบุญในสิ่งเดียวกันก็ตาม 

                เช่น หากผู้ใดทำบุญด้วยข้าว 1 ห่อ ให้กับบุคคลทั่วไป ก็ได้บุญส่วนหนึ่ง  ข้าว 1 ห่อนี้ หากทำบุญกับพระสงฆ์ที่ยังไม่บรรลุแต่อยู่ในศีล ก็ได้บุญส่วนหนึ่ง  ข้าว 1 ห่อนี้ หากทำบุญกับพระสงฆ์ที่บรรลุแล้วหรือกับ ฆราวาสที่บรรลุ จิตมีศีลธรรมสูง ก็ได้บุญสูงมากขึ้น  ข้าว 1 ห่อนี้ หากได้ทำบุญกับพระปัจเจกพุทธเจ้า หรือพระพุทธเจ้าก็จะได้มหาบุญอย่างมาก เนื่องด้วยองค์ท่านผ่านการปฏิบัติมาอย่างมาก บารมีท่วมท้น การให้บุญภพต่าง ๆ จึงมากมาย ผู้ที่ได้ทำบุญด้วยจึงได้รับอานิสงฆ์บุญตาม

                ดังนั้น การทำบุญ ใช่ว่าทำบุญด้วยวัตถุหรือเงินทองมากจะได้บุญมาก ทำบุญด้วยวัตถุหรือเงินทองน้อยจะได้บุญน้อย อยู่ที่จิตขณะที่ทำ ทำเพื่อสิ่งใด ทำเพื่อใคร  ทำบุญกับผู้ใด ผู้นั้นมีจิตเป็นเช่นไร เป็นสำคัญ เว้นเสียแต่การปฏิบัติกรรมฐาน การตั้งอยู่ในศีลในธรรม ยิ่งปฏิบัติมาก ยิ่งได้บุญมาก



 

นิมิตเหตุการณ์บ้านเมือง

 

วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม  พ.ศ. 2558

 

เช้านี้ได้มีนิมิตก่อนตื่นนอน  เป็นนิมิตฝันว่า ทุกคนในครอบครัวได้ไปทำพิธีกงเต๊กของปู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งในเวลานี้ ปู่ได้เสียเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งปู่มีอายุ 99 ปี ทั้งนี้ครอบครัวจะไปร่วมพิธีศพในวันที่ 10 ที่จะถึงนี้ ส่วนอากงได้ลงไปช่วยงานก่อนแล้ว ซึ่งงานจะเสร็จประมาณวันที่ 12 มีนาคมนี้ 

ทั้งนี้ในฝัน ขณะที่ทุกคนได้ทำพิธีของปู่เสร็จ ทุกคนนอนค้างที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ข้าพเจ้าสังเกตเห็นชายที่พักห้อง   ข้าง ๆ ได้ทำอะไรสักอย่างกระทั่งไฟลุกท่วมขึ้นมา  ข้าพเจ้าจึงบอกให้ทุกคนรีบหนีออกจากโรงแรม ขณะเดียวกันก็มีลมพัดแรงมาก เมื่อทุกคนหนีออกมาอยู่หน้าโรงแรม ได้เห็นตึกระเบิดขึ้น 2 ครั้งอย่างรุนแรง  ขณะเดียวกันฝนก็ตก  รถดับเพลิงได้เข้ามาดับเพลิง กระทั่งเพลิงสงบ ทุกคนจึงกลับเข้าไปในโรงแรม  เมื่อเข้าไปในโรงแรม ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความเงียบสงบอย่างผิดสังเกต และรู้ได้ทันทีว่าแผ่นดินกำลังจะไหว จึงได้ตะโกนเรียกทุกคนให้ออกไปข้างนอกโรงแรม และบอกว่า “แผ่นดินจะไหวแล้ว ให้รีบหนีออกไปเร็ว”  ทุกคนต่างก็รีบหนีออกมาอยู่หน้าโรงแรมในที่โล่ง ซักพักได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอย่างรุนแรง  และข้าพเจ้าจึงตื่นนอน

พระแม่ชี้แจ้ง จะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามนิมิตชนิดติดตามกันมาเลยทีเดียวแทบจะไม่มีเวลาได้หยุดพัก


 

นิมิตจากดวงตาทิพย์ เห็นแผ่นดินไหว ตึกถล่ม มีกลุ่มคนคิด มุ่งปองร้ายข้าพเจ้า

 

วันจันทร์ที่ 9  มีนาคม  พ.ศ. 2558

 

ก่อนตื่นนอนเช้านี้ได้มีนิมิตฝันเห็นมีผู้ชายหนึ่งคน และผู้หญิงอีก 2 คนได้คิดที่จะปองร้ายข้าพเจ้า อีกทั้งในเวลาเดียวกันนั้นได้เกิดแผ่นดินไหว ตึกถล่ม  แต่ท้ายสุดคนที่คิดจะทำร้ายข้าพเจ้านั้นไม่สามารถจะทำการได้สำเร็จ  ภายหลังตื่นนอน พระแม่ชี้แจ้ง เป็นนิมิตจากดวงตาทิพย์ ในเวลาที่ข้าพเจ้าปฏิบัติภารกิจ  จะมีการเกิดแผ่นดินไหว ตึกถล่มตามมา อีกทั้งมีบุคคล ที่คิดจะจ้องทำร้ายข้าพเจ้า  แต่ในที่สุดก็มิได้ทำการใด ๆ เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากท่านยมบาลได้ช่วยข้าพเจ้าไว้ก่อน  และไม่มีใครจะทำร้ายข้าพเจ้าได้


 

นิมิตจากดวงตาทิพย์ เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ลงมาอยู่ที่โลกมนุษย์ กำลังเตรียมงานบางอย่าง

 

วันอังคารที่ 10  มีนาคม  พ.ศ. 2558

 

ก่อนตื่นนอนเช้านี้ได้นิมิตเห็นว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ได้อยู่บนโลกมนุษย์ แล้ว รวมถึง    พระพุทธองค์ด้วย พระแม่ชี้แจ้ง เป็นนิมิตจากดวงตาทิพย์ ให้เห็นว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์กำลังเตรียมงานบางอย่างในเวลานี้ บนโลกมนุษย์นี้



 

นิมิตจากดวงตาทิพย์ หน้าที่เทศนาธรรมเหล่าดวงวิญญาณให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรม

 

วันศุกร์ที่ 13  มีนาคม  พ.ศ. 2558

 

เช้านี้ตื่นนอนเวลา 05.15 น. ครั้นเห็นว่ายังเช้าอยู่จึงได้นอนหลับต่ออีกสักครู่ ขณะที่หลับนั้นได้มีนิมิตเรื่องราวเหตุการณ์เกี่ยวกับดวงวิญญาณ

จากนิมิตในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเสร็จจากการทำธุระข้างนอก เมื่อกลับเข้าบ้าน คนที่บ้านได้บอกว่า บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ใกล้บ้านเราเพิ่งมีผู้หญิงตาย  ครั้นพอตกดึก วิญญาณผู้หญิงที่ตายนี้ได้มาหาข้าพเจ้า  หญิงสาวอายุราว 20 ต้น ๆ หน้าตาสะสวย รูปร่างเพรียวสันทัดสะโอดสะอง  ได้ลอยไปลอยมาตรงหน้าข้าพเจ้า  เนื่องจากข้าพเจ้าไม่อยากเห็นผีอีก จึงได้หลับตาลง แต่พอหลับตา วิญญาณหญิงสาวนี้กลับเรียกชื่อข้าพเจ้าตลอด  ชุติกาญจน์           และยังคงลอยอยู่ตรงหน้าตลอดเวลา ข้าพเจ้าจึงได้ลืมตาขึ้น พนมมือและแผ่เมตตาให้ จากนั้นวิญญาณสาวจึงหายไป


 

คืนต่อมา ได้มีวิญญาณชายกลางคน รูปร่างผอมเพรียว สูงโปร่ง ใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลอ่อน   ลายแทง กางเกงขาวยาวสีดำ อายุราว 40 กว่า ได้มาปรากฏที่หน้าข้าพเจ้าในทันที พร้อมกับบอกว่า  ให้ข้าพเจ้าไปหาวิญญาณหญิงสาวนั้น เพื่อรับรู้เหตุการณ์ที่มาของการเสียชีวิตของหญิงสาว

 


ดังนั้นข้าพเจ้าจึงได้เข้าไปในบ้านใหญ่ร้างหลังนั้น  ซึ่งได้พบกับเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนที่วิญญาณหญิงสาวจะถูกฆ่าตาย โดยมีหญิง 3 คน  2 คนอายุราว 30 ต้น ๆ หญิงอีกคนอายุราว 40 กว่า  และมีชายหนุ่มอายุราว 20 ต้น ๆ หน้าตาหล่อเหล่า นั่งอยู่ที่เก้าอี้ โดยที่หญิง       วัยกลางคนอายุราว 30 ต้นๆ คนหนึ่งได้จับตัวหญิงสาวไว้ (คือหญิงสาวที่ถูกฆ่าตายไปแล้ว )  และได้ถามว่า ตกลงจะยอมรับและแต่งงานกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่หรือไม่  ซึ่งหญิงสาวตอบว่า ไม่  เพราะตนเองมีคู่รักอยู่แล้ว ทันใดนั้นด้วยความโมโห หญิงกลางคนได้ชักมีดสั้นออกมา และแทงหญิงสาวดังกล่าวจนสิ้นใจ  สักครู่ ชายหนุ่มคนรักของหญิงสาวได้กลับเข้ามาที่บ้าน ได้เห็นเหตุการณ์เข้า จึงโดนทำร้ายโดยการใช้มีดด้ามเดียวกันนี้แทงชายหนุ่มคนรักสิ้นใจตามกันไป



พอเหตุการณ์นั้นหายไป ข้าพเจ้าได้นั่งทำสมาธิในที่แห่งนั้น ทันใดนั้นได้มีสมุนของท่านยมบาล แต่งกายชุดดำ ผ้าคลุมดำยาว สวมหมวกมีเขา ได้มาหาข้าพเจ้า และโค้งคำนับ คารวะข้าพเจ้า แบบคนสมัยแต่ก่อน และได้นำพาดวงวิญญาณของหญิงสาว และชายหนุ่มคนรักมา เพื่อให้ข้าพเจ้าช่วยปลดปล่อยดวงวิญญาณทั้งสองดวงนี้

 



ข้าพเจ้าจึงได้เทศนาธรรมให้ดวงวิญญาณทั้งสอง ในเรื่องของการไม่ยึดติดในตัวตน ไม่ว่าจะเป็นตัวของเขา หรือตัวของเรา ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่ของเราทั้งสิ้น เมื่อคิดได้ดังนี้ จิตย่อมไม่ยึดติดในสิ่งใด จึงจะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมได้ ขณะเทศนานั้น ข้าพเจ้าได้สะอึกสะอื้นไปด้วย เมื่อเทศนาจบรอบแรก ดวงวิญญาณหญิงสาวได้เข้าใจ และได้หลุดพ้นจากบ่วงกรรมด้วยดวงหน้าที่สดใส จากนั้นได้เทศนาวิญญาณชายหนุ่มอีกครั้ง กระทั่งวิญญาณชายหนุ่มได้เข้าใจและหลุดพ้นด้วยดวงหน้าที่สดใส เช่นเดียวกัน  

และข้าพเจ้าจึงได้ตื่นจากนิมิตในเวลา 05.45 น. เพื่อเตรียมบุตรสาวไปโรงเรียนซึ่งวันนี้เป็นการสอบวันสุดท้าย

เมื่อตื่นนอนทำงานทุกอย่างเสร็จแล้ว จึงได้สวดมนต์ จากนั้นได้ถามพระแม่ถึงนิมิตดังกล่าว พระแม่ชี้แจ้งเป็นนิมิตจากดวงตาทิพย์  ดังนี้

·       ภายหลังจากเห็นพระแม่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันใกล้นี้แล้ว ข้าพเจ้าต้องมีหน้าที่เทศนาธรรม เพื่อช่วยเหลือปลดปล่อยเหล่าดวงวิญญาณให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรม

·       ทั้งนี้การสะอึกสะอื้นของข้าพเจ้าขณะเทศนาธรรม นั่นเพราะข้าพเจ้าเข้าใจธรรม เข้าใจถึงการหลุดพ้นอย่างแท้จริงนั่นเอง (เช่นเดียวกับเวลาที่ข้าพเจ้าสวดมนต์ บางครั้งจะน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งในขณะที่สวดมนต์ นั่นเพราะข้าพเจ้าเข้าใจในความหมายของบทสวดมนต์อย่างแท้จริง)

สำหรับบุคคลในนิมิตนั้น องค์ท่านได้เนรมิตกายเป็นตัวละครต่าง ๆ ดังนี้

·       ดวงวิญญาณหญิงสาว คือ องค์หญิง

·       ชายหนุ่มที่นั่งเก้าอี้ และไม่สมหวังในความรัก คือ องค์ชาย

·       ดวงวิญญาณชายหนุ่มคนรักของหญิงสาว คือ พระพุทธองค์

·       หญิงวัยกลางคนที่ใช้มีดแทงหญิงสาวและชายหนุ่ม คือ พระแม่อุมาเทวี

·       และหญิงวัยกลางคนอีก 2 คน คือ มีพระแม่กวนอิม และองค์หนี่ออเนี่ยเนี้ย ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ




 

พระแม่ชี้แจ้ง เวลานี้ข้าพเจ้ามีหูทิพย์เริ่มเข้าใจภาษาสัตว์ได้

 

วันศุกร์ที่ 13  มีนาคม  พ.ศ. 2558

 

ค่ำนี้ หลังจากที่ทุกคนในบ้านเดินทางกลับจากงานศพของปู่ที่กรุงเทพ  ข้าพเจ้านั่งคุยกับอากงที่ลานหน้าบ้าน สักครู่ได้ยินเสียงเด็กผู้ชายร้องว่า ครับผ๊ม….  อยู่ 3-4 ครั้ง ข้าพเจ้าพยายามตามหาเสียง และได้เห็นแมวดำตัวหนึ่งผ่านหน้าข้าพเจ้าไป และร้องว่า ครับผ๊ม…..  ข้าพเจ้านั่งงง และมองแต่แมวดำตัวนั้น คิดในใจว่า... แมวพูดได้ 

เมื่อถามพระแม่  พระแม่ชี้แจ้ง แมวดำพูดว่า ครับผ๊ม จริง นั่นเพราะในเวลานี้ข้าพเจ้ามีหูทิพย์เริ่มเข้าใจภาษาสัตว์ได้บ้างแล้ว

 



ภาพตัวอย่าง


พระแม่เมตตา นิมิตเห็นเวลานี้ดวงวิญญาณปู่ช่วยงานพระพุทธองค์และพระแม่  และว่าด้วยเรื่องดวงวิญญาณเร่ร่อน สัมภเวสี

 

วันอังคารที่ 17  มีนาคม  พ.ศ. 2558

 

เสร็จจากงานศพของปู่หลายวันก่อน  เมื่อทุกคนกลับมาถึงที่บ้าน พระแม่ให้ข้าพเจ้ารู้ได้ว่า จากการที่บุตรสาวทั้ง 3 ของปู่ไม่ยอมเชิญดวงวิญญาณเข้าบ้าน แต่ให้ไปอยู่ที่วัดร่วมกับดวงวิญญาณอื่น ๆ นั้น ทำให้ดวงวิญญาณปู่ถูกดวงวิญญาณ อื่น ๆ รังแก ข้าพเจ้าจึงได้ขอพระแม่ ขอท่านยมบาล ขอให้ช่วยดวงวิญญาณของปู่ได้มาอยู่ที่บ้านแทน เพื่อที่จะได้อยู่อย่างสุขสบาย และพระแม่ได้เมตตาให้ตามที่ข้าพเจ้าขอ เนื่องด้วยดวงวิญญาณปู่นั้นไม่มีอำนาจ ไม่มีบารมีพอที่จะมาให้ข้าพเจ้าเห็นได้ในเวลานี้ และไม่สามารถพูดคุยกับข้าพเจ้าได้ จึงต้องขออำนาจจากพระแม่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย

เช้านี้ก่อนตื่นนอน ได้มีนิมิตจากดวงตาทิพย์เห็นปู่ที่เสียแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ร่างกายแข็งแรงมาก และกำลังทำงานอย่างขยันขันแข็ง ร่วมกับดวงวิญญาณอื่น ๆ อีกมากมาย ทำงานชนิดไม่ยอมพักผ่อนเลยทีเดียว ข้าพเจ้าเดินลงมาจากด้านบน เห็นว่าทุกคนทำงานยังไม่ได้พัก จึงบอกให้หยุดพักบ้าง และเดินเข้าไปจะช่วยงานโดยการจะช่วยถือสายยางฉีดน้ำทำความสะอาด แต่ดวงวิญญาณปู่ได้รีบดึงสายยางไปก่อนเพื่อไม่ให้ข้าพเจ้าช่วยทำ และจึงได้ตื่นจากนิมิต

พระแม่ชี้แจ้ง ในเวลานี้พระแม่ทรงเมตตาให้ดวงวิญญาณของปู่ไปช่วยงานของพระพุทธองค์และพระแม่ ร่วมกับดวงวิญญาณอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมีหน้าที่ในการนับเงิน จัดเงิน ตามที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ทำไว้  ซึ่งดวงวิญญาณปู่ทำงานจนไม่หยุดพัก  พระแม่เมตตาเมื่องานของพระองค์ท่านเสร็จสิ้นแล้ว จะช่วยให้ดวงวิญญาณของปู่ได้เป็นเทวดาชั้น 12

อีกทั้งพระแม่ได้ให้ข้าพเจ้า สามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของดวงวิญญาณปู่ได้ ซึ่งในเวลานี้ดวงวิญญาณปู่รู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่ตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่ไม่เคยใส่ใจ ไม่เคยดูแลครอบครัวที่บ้านเลย ซึ่งที่บ้านต้องอยู่อย่างลำบากตลอดเวลาที่ผ่านมา อีกทั้งรู้สึกเสียใจที่บุตรสาวอันเป็นที่รักทั้ง 3 คนไม่ยอมเชิญดวงวิญญาณเข้าไปอยู่ที่บ้าน และรู้สึกซาบซึ้งใจที่ครอบครัวข้าพเจ้ามีเมตตาช่วยเหลือดวงวิญญาณปู่ในครั้งนี้

                ว่าด้วยเรื่องของดวงวิญญาณและสัมภเวสีนั้น  โดยปกติเมื่อยังมีชีวิตอยู่หาก ไม่เคยได้สร้างสมบุญ สร้างแต่กรรมเป็นส่วนใหญ่ เมื่อตายแล้วดวงวิญญาณจะไม่มีอำนาจ ไม่มีบารมีพอที่จะได้ยินเสียงของใครเลย ดังนั้นเมื่อขณะมีชีวิตอยู่ได้อยู่ร่วมและผูกพันกับใคร ครั้นพอตายแล้ว จิตของดวงวิญญาณจะกลับไปอยู่กับบุคคลที่ผูกพันนั้น ๆ  หากคนในครอบครัวที่ผูกพันไม่อนุญาตให้เข้าบ้าน ไม่เชิญเข้าบ้าน ดวงวิญญาณนั้นก็จะกลายเป็นดวงวิญญาณเร่ร่อน เป็นสัมภเวสีตามกรรม และอาจถูกดวงวิญญาณอื่นรังแก  ต้องแย่งของกินกับสัมภเวสีอื่น ๆ จะอยู่อย่างทุกขเวทนายิ่งนัก  

                โดยเฉพาะบุคคลใดที่ฆ่าตัวตาย ถือว่าเป็นกรรมหนัก เมื่อตายแล้ว ไม่ว่าใครทำบุญให้ก็จะไม่สามารถรับได้ นอกเสียจากพระอริยะเจ้าเท่านั้น จึงจะสามารถแผ่ส่วนบุญไปให้ได้  อีกทั้งยังมีกรรมที่ต้องฆ่าตัวตายไปอีก 500 ชาติ ยกเว้นเสียแต่ในชาติใดก็ตาม ได้พบผู้มีบุญบารมีช่วยให้หลุดพ้นจากการฆ่าตัวตาย จึงจะพ้นจากกรรมนั้นได้

 



 

นิมิตดวงตาทิพย์ เห็นเหตุการณ์มหาภัยพิบัติ ร่างกายข้าพเจ้าบางส่วนสามารถรักษาคนป่วยจากสารกัมมันตรังสีทั่วโลกได้

 

วันพฤหัสบดีที่ 19  มีนาคม  พ.ศ. 2558

 

เช้านี้ก่อนตื่นนอนในเวลา 7.15 น. ได้มีนิมิต เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดมหาภัยพิบัติ แผ่นดินไหวรุนแรง ฝนฟ้าพายุรุนแรง ท้องฟ้าเป็นสีแดงเจือดำ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดมากมายหลายแห่ง  ผู้คนต่างวิ่งหนีกันอลหม่าน  มีคนตายมากมายนับไม่ถ้วน บ้างก็ร่างกายแยกชิ้นส่วนจนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นของใคร คนที่รอดชีวิต ได้รับสารกัมมันตรังสี ผิวหนังพุพอง มีทั้งเลือด ทั้งหนอง ต่างร้อง        โอดครวญด้วยความเจ็บปวดทรมานทุรนทุราย ข้าพเจ้าได้อยู่ในเหตุการณ์เช่นกัน และได้พาทุกคนในครอบครัวไปยังที่ปลอดภัย และสำหรับข้าพเจ้าได้รีบนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของข้าพเจ้าทุกองค์ใส่กระเป๋าสะพาย แล้วรีบหนีเพื่อกลับไปหาครอบครัวอย่างปลอดภัย

จากนั้นได้มีนิมิต เสียงจากเบื้องบน บอกลงมายังเบื้องล่างตรงข้าพเจ้าว่า น้ำเหลืองของข้าพเจ้าเพียง 1-2 หยด นำไปผสมในอาหารให้ผู้ป่วยกิน จะสามารถรักษาผู้ป่วยได้ ดังนั้นข้าพเจ้า จึงให้แพทย์ทำการดูดน้ำเหลืองจากร่างกายของข้าพเจ้าและให้นำไปผัดรวมในอาหารเพียง 1-2 หยดเท่านั้น และแจกจ่ายให้คนป่วยทั่วทุกสารทิศในโลกนี้ได้กิน จนหายเป็นปกติได้

พระแม่ชี้แจ้ง เป็นนิมิตจากดวงตาทิพย์ เพื่อให้รู้ว่าช่วงที่เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ น้ำเหลืองของข้าพเจ้าเพียง 1-2 หยดนี้ เมื่อนำไปปรุงในอาหารให้ผู้ป่วยทานก็จะสามารถรักษาผู้ป่วยทุกคนในโลกนี้ให้หายเป็นปกติได้

อีกทั้งพระแม่ชี้แจ้ง ในช่วงเวลาเกิดมหาภัยพิบัตินั้น ข้าพเจ้าต้องแยกร่าง 99 ร่างเพื่อไปช่วยเหลือผู้คนในโลกนี้

 



 

 

นิมิต ข้าพเจ้าได้กำจัดของคุณไสยออกจากร่างกายจนหมดสิ้นในระยะนี้

 

วันพุธที่ 1 เมษายน  พ.ศ. 2558

 

เช้านี้ก่อนตื่นนอนเวลา 7.35 น. ได้มีนิมิตจากดวงตาทิพย์ เห็นว่ากายทิพย์ข้าพเจ้าอยู่กับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง มีชายหนุ่ม หญิงสาว เด็ก คนแก่ อยู่ที่บ้านเก่า ๆ หลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของญาติผู้ใหญ่หญิงผู้หนึ่ง ขณะที่ญาติผู้นี้ได้เข้ามาทักทาย ข้าพเจ้าและชายหนุ่มอีกคน ได้เกิดอาการอาเจียนอย่างไม่มีสาเหตุ  สิ่งที่อาเจียนออกมาเป็นของเหลวใส ๆ หนืด ๆ อยู่ที่ปาก เมื่อพยายามเอาออกมาแล้วพบว่า มีสิ่งมีชีวิต  เล็ก ๆ มากมายคล้ายกับปลาตัวเล็ก ๆ ตาดำ ๆ ตัวใส ๆ เป็นกลุ่มมากมาย ว่ายไปมาในของเหลวที่อาเจียนออกมา ซึ่งข้าพเจ้าพยายามอาเจียนออกมาอย่างทรมาน โดยใช้เวลาราว 10 นาทีเห็นจะได้ จึงได้อาเจียนออกมาจนหมด เป็นการอาเจียนที่ทรมานมาก เนื่องจากลักษณะของที่หนืดติดอยู่ในลำคอ กลืนก็กลืนไม่เข้า คายก็คายไม่ออก หายใจไม่ออก ต้องใช้นิ้วล้วงเข้าไปในช่องปากและลำคอ  เพื่อให้อาเจียนออกมาให้หมด และได้ใช้แปรงสีฟันทำความสะอาดปากเพื่อให้สิ่งของนั้นออกมาจนหมดสิ้น ทั้งนี้ชายหนุ่มและ กลุ่มคนที่อยู่ด้วยก็ได้อาเจียนออกมาหมดแล้วเช่นกัน

เมื่อข้าพเจ้านั่งพิจารณาแล้ว จึงรู้ได้ว่าสิ่งที่อาเจียนออกมานั้นคือสิ่งของที่ถูกกระทำจากคุณไสยมนต์ดำ ซึ่งเป็นคุณไสยที่เป็นสุดยอดของวิชาไสยดำ เรียกว่าวิธีการบิดไส้ เป็นลักษณะการเสกสัตว์เข้าท้องหมายเอาชีวิต และพิจารณาได้ว่าผู้ใดกระทำ เมื่อพิจารณาถ่องแท้แล้วจึงได้ถามพระแม่ เพื่อความกระจ่างชัด


พระแม่ชี้แจ้ง ให้ข้าพเจ้าจุดธูปขอองค์ท่านสลายพลังไสยเวทย์ออกจากทุกคน และให้ของ     คุณไสยนั้นกลับคืนไปสู่ผู้ที่สั่ง และผู้ที่กระทำคุณไสยทั้งหมด


 

 

 


ภาพตัวอย่างของคุณไสยที่ถูกถอนออกมาจากร่างกายข้าพเจ้า ลักษณะเป็นเมือกใสเหนียว ๆ คล้ายน้ำลายเอเลี่ยน มีสัตว์ตัวเล็ก ๆ คล้ายปลาสร้อย ลำตัว   ใส ๆ ว่ายอยู่ในน้ำเมือกมากมายนับ       ไม่ถ้วน  



พระแม่ชี้แจ้ง มูลเหตุอาการเจ็บป่วยด้วยข้ออักเสบเรื้อรังของข้าพเจ้า

 

วันอังคารที่ 7 เมษายน  พ.ศ. 2558

 

วันนี้ข้าพเจ้าได้นั่งพิจารณาถึงอาการป่วยด้วยข้ออักเสบเรื้อรัง ซึ่งในเวลานี้พระพุทธองค์และพระแม่ ได้ช่วยรักษาให้หายขาดแล้ว เมื่อราว 5 ปีที่ผ่านมาในช่วงที่ข้าพเจ้าทำงานที่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ อาการป่วยนั้นรุนแรงมาก ถึงขั้นที่แพทย์ที่ทำการรักษาข้าพเจ้าได้แต่เพียงบอกให้ข้าพเจ้าสวดมนต์ นั่งทำสมาธิ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย จึงจะรอดได้

เนื่องด้วยในเวลานั้น เม็ดเลือดแดง และเม็ดเลือดขาวต่ำมาก เม็ดเลือดขาวเหลือเพียง 1,500 ซึ่งเป็นขนาดที่ต่ำที่สุดของร่างกาย หากต่ำกว่านี้ก็อาจเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้ ช่วงนั้นข้าพเจ้าอาการหนักถึงขั้นหน้ามืดทุก ๆ ครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ รู้ตัวเองว่าหากอาการเป็นดั่งนี้ไปอีก 1 สัปดาห์ชีวิตคงไม่รอด แต่เนื่องด้วยยังมีภาระมากมาย จึงได้พยายามลุกขึ้นมาเพื่อสวดมนต์คาถาชินบัญชร และได้ขอองค์หลวงปู่โตฯช่วยให้อาการดีขึ้น เนื่องจากยังไม่พร้อมที่จะตายในเวลานั้น รุ่งเช้าจึงเกิดปาฏิหาริย์ จากที่อาการหนักมาก กลับรู้สึกแจ่มใส เหมือนไม่เคยเป็นอะไรเลย มีหน้ามืดเพียง 1-2 ครั้งในช่วงระหว่างวันที่ทำงาน จากนั้นข้าพเจ้าพยายามทานผัก ปลา และผลไม้ กระทั่งเม็ดเลือดขาวกลับมาเป็นปกติ  อีกทั้งในช่วงที่ตั้งครรภ์บุตรสาวอยู่นั้น ได้เกิดเหตุการณ์เฉียดตายถึง 2 ครั้ง


ทั้งนี้พระแม่ชี้แจ้งเพิ่ม บุคคลที่ทำคุณไสยแก่ข้าพเจ้า ในเวลานี้องค์ท่านได้ส่งกลับคืนไปยังผู้ทำ และผู้สั่งทำ อีกไม่นานนี้ บุคคลเหล่านั้นจะได้รับผลกรรมอย่างแสนสาหัส ชนิดที่ไม่เหลืออะไรเลยในชีวิตหรือแม้แต่ชีวิต ซึ่งใช้เวลาไม่นานนัก เมื่อสิ้นชาติภพต้องไปรับกรรมในนรกโลกันต์เท่านั้น


 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์เล่นน้ำกับข้าพเจ้า

 

วันพุธที่ 9 เมษายน  พ.ศ. 2558

 

    ปีนี้ได้สระน้ำใหม่ เนื่องจากกิจการที่ร้านซบเซามาก 9 วันที่ผ่านมาขายของได้ 1200 บาท เนื่องด้วยอากาศที่ร้านร้อนอบอ้าวมาก  อีกทั้งหน้ายังรักษาไม่หายดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์งดไปร้านกับข้าพเจ้าเพราะจะเล่นน้ำที่บ้าน ข้าพเจ้าจึงหยุดร้านยาวช่วงสงกรานต์นี้ และเล่นกับคนที่บ้านและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประมาณล้านองค์ ภาพที่นำมาแสดงนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น  ถ่ายภาพโดยบุตรสาว จากมือถือของข้าพเจ้า


 

 

 

 

 

 

 

 


 

นิมิตดวงตาทิพย์ เห็นวิธีการแยกร่างและบุคคลที่สามารถเห็นและพูดคุยกับร่างแยกของข้าพเจ้าได้

 

วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน  พ.ศ. 2558

 

เช้านี้ก่อนตื่นนอนเวลา 7.20 น. ได้มีนิมิตเห็นเหตุการณ์ข้าพเจ้าได้แยกร่างออกมา โดยข้าพเจ้าเองยังไม่รู้สึกตัว พอรู้ตัวอีกทีก็เห็นมีข้าพเจ้าอีกคนหนึ่ง ซึ่งอาม่าก็สามารถเห็นได้  จากนั้นร่างแยกบอกแก่ข้าพเจ้าว่าอยากไปซื้อสีไม้มาระบายสี ให้ข้าพเจ้าขี่รถจักรยานยนต์ไปและร่างแยกข้าพเจ้าซ้อนท้าย เมื่อไปถึงร้านขายเครื่องเขียน ชายผู้ที่ขายของไม่สามารถมองเห็นร่างแยกข้าพเจ้าได้ จากนั้นเมื่อออกจากร้านเครื่องเขียนได้พบชายผู้หนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักมาก่อน นุ่งห่มขาว เป็นผู้ปฏิบัติดี สามารถเห็นและพูดคุยทักทายกับร่างแยกข้าพเจ้าได้ จากนั้นได้พบว่าองค์พระเทพฯทรงเสด็จมาที่แห่งนั้นพอดี พระองค์ท่านสามารถเห็นและพูดคุยกับร่างแยกข้าพเจ้าได้

พระแม่ชี้แจ้ง  การแยกร่างของข้าพเจ้านั้น ร่างที่แยกออกมาสามารถจะแยกร่างใหม่ได้ต่อ ๆ กันไป  ซึ่งบุคคลที่จะสามารถเห็นและพูดคุยกับร่างแยกข้าพเจ้าได้ ต้องเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า หรือเป็นผู้ที่ปฏิบัติถึง มีบุญบารมีถึงแล้วเท่านั้น บางคนจะสามารถเห็นและพูดคุยได้  บางคนไม่สามารถพูดคุยแต่สามารถเห็นได้ บางส่วนจะไม่สามารถเห็นได้เลย

ทั้งนี้ร่างแยกของข้าพเจ้าแต่ละร่าง จะมีจิตที่ไม่เสมอกัน  บางร่างจิตจะดีมาก บางร่างจิตดีพอสมควร  บางร่างจิตนั้นยังมีโมหะได้  แต่ละร่างจะมีนิสัย อารมณ์ที่แตกต่างกันไป มีความคิดที่แตกต่างกันไปได้ แต่รูปร่างและหน้าตาจะเหมือนกันหมด และร่างแยกทุกร่างยกเว้นข้าพเจ้าเป็นบุรุษเพศทั้งสิ้น

การแยกร่างของข้าพเจ้าสามารถแยกร่างในอิริยาบถ ทั้งยืน นอน และนั่ง โดยจะแยกในขณะที่จิตนั้นเป็นสมาธิในทุกอิริยาบท ทุกเวลา

สำหรับการกลับเข้าร่างเดิมนั้น ร่างใดแยกมาจากร่างใด ก็จะกลับเข้าสู่ร่างนั้นตามเดิม

การแยกร่างทั้ง 99 ร่างนั้นจะแยกสำหรับการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ เท่านั้น ทุกร่างสามารถมี อาวุธเป็นของตนเอง องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วและพระแม่ทรงมอบให้สำหรับการปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง และจะมีประชาชนบางส่วนที่จะสามารถเห็นได้

 

 

บททำนายนารีขี่ม้าขาว (ข้อมูลจาก internet )                                 

 ๐ คำทำนายที่เคยมีมาช้านานนัก              เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้
หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยทำนาย                เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา
ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง          น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา                    เป็นประชาชนเต็มพระนคร

ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน                ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร                    องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน
ชาวประชาจะปีติยิ้มสดใส                       แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น
จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน                       เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา

จะมีการต่อตีกันกลางเมือง                   ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา                   ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร
ข้าราชการตงฉินถูกประณาม                   สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป                   โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี

ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว                   ถ้วนทุกทั่วจะมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี                        เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน
พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ                     มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน               พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย

แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก  เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย          เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน
ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช             ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
ทั้งพฤฒาจารย์ลือระบิล                       จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม

ความระทมจะถมทับนับเทวศ                ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม                        ส่วนคนชั่วหัวร่อทำท่าดัง
จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว                      ควงคทามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง          สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ

ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม                     หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป                  เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น                แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา          ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ


มังกรทองของพระแม่ องค์ชายและองค์หญิงมาเล่นน้ำกับข้าพเจ้า

 

วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน  พ.ศ. 2558

 

เย็นนี้ข้าพเจ้าเล่นน้ำ และได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เมื่อพิจารณาภาพถ่ายพบว่า เห็นเล็บปรากฏที่ขอบสระ 3 นิ้ว คล้ายเล็บมังกร พระแม่ชี้แจ้ง เป็นมังกรทองของพระแม่และองค์ชายองค์หญิง ในเวลานี้ ข้าพเจ้าหน้าบวมเป็นผื่นยังไม่หายเป็นปกติ





 

บริวารท่านยมบาล บริวารท่านพญาครุฑ ท่านพญานาค และท่านมังกร มาเล่นน้ำกับข้าพเจ้า องค์เทวดามาแสดงความเคารพ

 

วันอังคารที่ 14  เมษายน  พ.ศ. 2558

 

บ่ายนี้ได้ขอพระแม่ ขอให้ท่านยมบาล ท่านพญาครุฑ ท่านพญานาค และท่านมังกรทองของพระแม่และองค์ชายองค์หญิง มาร่วมเล่นน้ำและถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก เพื่อให้ผู้คนทั่วหล้าได้เห็น  ได้เชื่อและศรัทธาต่อองค์ท่าน ซึ่งพระแม่ชี้แจ้งได้ 

                ค่ำนี้ข้าพเจ้าเล่นน้ำ และให้อาม่า บุตรสาวใข้มือถือข้าพเจ้าถ่ายรูปให้ พระแม่ชี้แจ้ง ท่านยมบาล และท่านพญาครุฑ ไม่ว่างมา จึงให้บริวารท่านมาแทน ส่วนท่านมังกร องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วและท่านพญานาคได้มาเล่นน้ำด้วย ปรากฏดังภาพ

 


 ภาพหน้าบริวารท่านยมบาล

 



ภาพท่านมังกรทองที่พระแม่ และองค์ชายองค์หญิงใช้ขี่ตลอด

ภาพที่ปรากฏคือส่วนหัวของมังกร และภาพตัวอย่างจาก internet



ภาพท่านมังกร ส่วนหัวหันหน้าตรง


 

ภาพองค์ชายขี่บนเศียรท่านพญานาค และตัวอย่างภาพจาก internet


 

ภาพบริวารท่านพญาครุฑ ส่วนหัวเป็นนก


ภาพบริวารท่านยมบาล ปรากฏส่วนหัว มี 2 ท่าน

 

 


 


ภาพองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วกำลังเล่นน้ำอยู่ข้าง ๆ ข้าพเจ้า

                บุตรสาวบอกว่าเห็นท่านยมบาล ทำหน้าเซ็งอารมณ์ บอกว่า สงกรานต์ทั้งที แทนที่จะได้เล่น  สระน้ำที่บ้าน  กลับต้องมานั่งทำงานเยอะแยะไปหมด

                ก่อนนอนในคืนนี้ ขณะที่กำลังจะหลับตานอน ได้มีนิมิตจากดวงตาทิพย์ เห็นเทวดาชั้นต่าง ๆ มาแสดงความเคารพเบื้องหน้า โดยค่อย ๆ ปรากฏมาทีละองค์อย่างงดงาม


พระแม่ชี้แจ้ง พบสถานที่นิมิตทดสอบจิตครั้งแรก

 

วันพฤหัสบดีที่ 16  เมษายน  พ.ศ. 2558

เวลา 15.30 น. วันนี้นั่งเล่น internet อ่านข่าวสารต่าง ๆ จากนั้นได้ดูภาพต่าง ๆ ของพระแม่ ได้พบสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าดูแล้ว ระลึกได้ว่าเป็นสถานที่ข้าพเจ้าเคยนิมิต เมื่อครั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทดสอบจิตข้าพเจ้าครั้งแรก  ก่อนปฏิบัติภารกิจเมื่อ วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2557   เนื่องด้วยจำเสา พื้น องค์ที่ทำพิธีได้ ข้าพเจ้าจึงได้ถามพระแม่ พระแม่ชี้แจ้งนิมิตครั้งนั้นเป็นสถานธรรม ศาล      พระโพธิสัตว์กวนอิม ทุ่งพิชัย จ.นครปฐมนั่นเอง


 




ภาพสถานที่ในนิมิตการทดสอบจิตครั้งแรกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ภาพจาก internet  ศาลพระโพธิสัตว์กวนอิม ทุ่งพิชัย จ.นครปฐม กำลังประกอบพิธี  ก้งจู๋เทียง)


นิมิตจากดวงตาทิพย์ เห็นมวลชนมากมายออกมาประท้วงบนท้องถนน หลายสิบล้านคน กำลังปะทะกับกองกำลังทหาร

 

วันเสาร์ที่ 18  เมษายน  พ.ศ. 2558

                เที่ยงวันนี้ขณะอยู่ที่ร้าน อากาศร้อนอบอ้าวมาก ลูกค้าไม่มีเข้าร้าน ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังจะนอนหลับสักพัก ได้นิมิตเห็นมวลชนมากมายออกมากันเต็มท้องถนน มวลชนมากจนข้าพเจ้าตกใจสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นมา ขณะที่กำลังหลับตาลงอีก 2-3 ครั้ง ทุกครั้งก็จะปรากฏภาพมวลชนมากมาย ซึ่งกำลังพยายามดันแผงกั้นเหล็กให้ล้มลง ในขณะที่ฝ่ายของทหารได้พยายามสกัดกั้นตลอดแนว ซึ่งมวลชนนั้นไม่มีแบ่งแยกว่าเป็นเสื้อแดงหรือเสื้อเหลือง แต่เป็นมวลชนจากหลาย ๆ กลุ่ม

                พระแม่ชี้แจ้ง เหตุการณ์จะเกิดในอีกไม่นานนี้ มหามวลชนทั้งฝั่งเสื้อเหลืองและเสื้อแดงต่างฝ่าย ต่างออกมาประท้วงปะทะกับกองกำลังทหาร ซึ่งมีมวลชนหลายสิบล้านคน  (ประมาณการที่เห็นในนิมิต)

 

 

นิมิตดวงตาทิพย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ใส่สร้อยประคำข้อมือ และสวมสร้อยพระที่พระพุทธองค์มอบให้ เนื่องด้วยมีผู้ทำไสยศาสตร์หมายเอาชีวิตข้าพเจ้า

 

วันจันทร์ที่ 27  เมษายน  พ.ศ. 2558

เช้านี้ได้มีนิมิตก่อนตื่นนอน ได้นิมิตเห็นเหตุการณ์ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเดินซื้อของให้บุตสาวในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ได้มีหญิงสาวผู้หนึ่งคล้ายกับเพื่อนคนหนึ่งสมัยเรียนมัธยมได้เข้ามาทักทาย และก่อนที่หญิงสาวจะเดินจากไป ได้บอกว่า ให้สวมสร้อยประคำข้อมือ และสวมสร้อยพระพุทธชุนราชที่เคยได้รับมา ตอนนี้มีคนทำไสยศาสตร์ขั้นสูงสุดเพื่อจะเอาชีวิตไปให้ได้  จากนั้นได้เห็นชายผู้หนึ่งได้กล่าวถึงวันเกิด และได้ขอวันเกิดข้าพเจ้า เพื่อไปดูดวงว่าเป็นคนอย่างไร

พระแม่ชี้แจ้ง มีคนทำไสยศาสตร์ป้องร้ายข้าพเจ้าหลายคน บ้างก็ใช้วันเกิดของข้าพเจ้า ก็สามารถทำคุณไสยได้


 

นิมิตดวงตาทิพย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์อนุญาตให้ข้าพเจ้าดำเนินการกับกลุ่มคนที่สั่งและทำไสยศาสตร์ที่กระทำกับข้าพเจ้าทุกคน

 

วันพุธที่ 29  เมษายน  พ.ศ. 2558

เมื่อวานนี้ขณะอยู่ที่ร้านกับอาม่า ซึ่งอากาศร้อนอบอ้าวมาก ข้าพเจ้าต้องใช้ผ้าขนหนูชุปน้ำคลุมศรีษะไว้ตลอดเวลา เพื่อลดความร้อนจากร่างกาย ลูกค้าก็ไม่มีเข้าร้านเลย เศรษฐกิจย่ำแย่มาก ข้าพเจ้านั่งพิจารณาถึงการกระทำของกลุ่มคนที่มุ่งปองร้ายในตัวข้าพเจ้าและทุกคนในครอบครัว ทั้งนี้ข้าพเจ้าได้บอกกับอาม่า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ ข้าพเจ้าต้องการดำเนินการกับกลุ่มคนเหล่านี้ให้หมดทุกคน เนื่องด้วยข้าพเจ้าและทุกคนในครอบครัวไม่เคยปองร้ายหรือคิดร้ายต่อใคร แต่กลับเป็นผู้ถูกกระทำตลอดมา เพียงเพื่อสนองกิเลสความต้องการ ความละโมบโลภมาก ความอิจฉาริษยาของบางคนเท่านั้น จึงทำให้ข้าพเจ้าต้องทรมานกับการเจ็บป่วย และความยากลำบากตลอดมา  กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังทรมานกับการปวดหน้า ซึ่งเป็นผลพวงจากอำนาจคุณไสยแต่เดิม ซึ่งพระแม่จะช่วยให้หายก่อนได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

เช้านี้ได้มีนิมิตก่อนตื่นนอน เห็นพระแม่มาบอกกล่าว อนุญาตให้สะสางกับกลุ่มคนเหล่านี้ได้

เมื่อถามพระแม่เพิ่มเติม พระแม่ชี้แจ้ง เมื่อข้าพเจ้าเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์แล้ว พระองค์ท่านอนุญาตให้ข้าพเจ้าสะสางกลุ่มคนที่สั่ง และทำคุณไสย ที่มุ่งหมายในการปองร้ายถึงชีวิตข้าพเจ้าและคนในครอบครัว  ให้ดำเนินการให้เรียบร้อย


  

นิมิตดวงตาทิพย์ พระแม่ชี้แจ้งเวลานี้ภายในร่างกายข้าพเจ้าเต็มไปด้วยพระธาตุ

 

วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม  พ.ศ. 2558

ก่อนตื่นนอนเช้านี้ในเวลา 7.15 น. ได้มีนิมิตเห็นเหตุการณ์ ข้าพเจ้ากำลังคุยกับคนกลุ่มหนึ่ง  ในนั้นมีหญิงสาว และชายวัยกลางคนอีก 2 คน ต่างนั่งคุยกันเรื่องราวเกี่ยวกับแนวทางบริหารบ้านเมือง สภาพบ้านเมืองในเวลานี้ ควรดำเนินการแก้ปัญหาอย่างไร ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังจะดื่มน้ำในแก้ว ภายในแก้วมีผลึกหินสีดำก้อนหนึ่ง  หญิงสาวได้ถามว่า หินดำก้อนนี้คืออะไร  ข้าพเจ้าตอบว่า ผลึกหินดำนี้เป็นสิ่งวิเศษ จะมีได้เฉพาะคนที่บรรลุอรหันต์แล้วเท่านั้น ซึ่งผลึกนี้แท้จริงอยู่ในตัวเราทั้งหมดนั่นเอง แล้วข้าพเจ้าก็เหาะไปที่อื่น

พระแม่ชี้แจ้ง นิมิตนี้เพื่อให้ข้าพเจ้าได้รู้ว่า ในเวลานี้ ภายในร่างกายของข้าพเจ้าทั้งหมดเป็น พระธาตุทั้งสิ้น  ซึ่งในอีกไม่นานการที่ข้าพเจ้าจะสามารถเหาะเหินเดินอากาศ หายตัวไปในทุกแห่งหน หรือมีอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ นั่นมาจากการที่ร่างกายภายในเป็นพระธาตุแล้วนั่นเอง ส่วนผู้ใดจะเห็นได้หรือไม่สุดแต่บารมีแต่ละคน

ทั้งนี้ในนิมิต หญิงสาวนั้นคือร่างเนรมิตขององค์หญิง  ชายวัยกลางคนที่คุยกับข้าพเจ้า คือ พระพุทธองค์ และชายวัยกลางคนอีกคนที่ยืนข้างหลังข้าพเจ้า คือ หลวงพ่อโสธร 

 



นิมิตดวงตาทิพย์ เห็นการเผาบ้านเผาเมือง น้ำหลากเชี่ยวพัดผู้คนมากมายกลางกรุง

 

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม  พ.ศ. 2558

ก่อนหลับตากำลังจะนอนในเวลา 23.30 น. ได้มีนิมิตเห็นหลายเหตุการณ์

โดยเหตุการณ์แรกข้าพเจ้าเดินออกมากลางถนน บรรยากาศวังเวง และหดหู่ ไร้ซึ่งผู้คน อากาศแห้งแล้ง ถนนหนทางแตกเป็นแห่ง ๆ มีเศษหินกระจายตามพื้นถนนทั่วไป

เหตุการณ์ที่สองเห็นตึกสูงใหญ่มาก กำลังมีไฟลุกทั้งตึก

เหตุการณ์ที่สาม เห็นหมอกควันฟุ้งกระจายเต็มอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

และเหตุการณ์สุดท้าย ข้าพเจ้าเหาะขึ้นไปเบื้องบน มองลงมาเบื้องล่างใจกลางกรุงเทพฯ ได้เห็นน้ำไหลเชี่ยวกรากทั่วทั้งเมือง ผู้คน สิ่งของ ต่าง ๆ มากมาย ต่างลอยไปตามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวนั้น 

พระแม่ชี้แจ้ง เหตุการณ์แรกนั้นเป็นบรรยากาศภายหลังจากที่มวลชนปะทะกันสิ้นสุดลงแล้ว  สำหรับเหตุการณ์ที่สองที่สามนั้นจะมีการเผาบ้านเผาเมืองทั่วไปตามจุดต่าง ๆ ทั่วประเทศ และจะมีมากแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  จากนั้นจึงจะเกิดเหตุการณ์สุดท้ายตามมา ผู้คนเสียชีวิตทั่วประเทศรวมแล้วเกือบสองแสนคนเห็นจะได้ โดยคาดคะเนจากที่เห็น

 


ภาพตัวอย่างนิมิตเหตุการณ์แรก เหตุการณ์หลังการปะทะของมวลชนสิ้นสุดลง


ภาพตัวอย่างนิมิตเหตุการณ์ที่สอง การเผาบ้านเผาเมืองตามจุดต่าง ๆ ทั่วประเทศ

 

 

 


ภาพตัวอย่างนิมิตเหตุการณ์ที่สาม การเผาบ้านเผาเมืองบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

 

 


ภาพตัวอย่างนิมิตเหตุการณ์น้ำไหลเชี่ยวกรากพัดพาบ้านเรือนและผู้คนในกรุงเทพฯ



นิมิตดวงตาทิพย์ เห็นคนในประเทศติดเชื้อไวรัสมากมาย ผู้คนแตกตื่นและหวาดกลัวมาก

 

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม  พ.ศ. 2558

ค่ำคืนนี้อากาศร้อนอบอ้าวมาก ข้าพเจ้าตื่นนอนเวลา 03.55 น. ตื่นมาเปิดเครื่องปรับอากาศ ขณะที่กำลังหลับตาลงได้ยินเสียงบรรเลงดนตรีบทสวดมนต์     มหากรุณาธารณีสูตร เสียงนั้นมาจากที่ไกล เสียงดนตรีใสมาก ไม่เหมือนเสียงที่ข้าพเจ้า และทุกคนในบ้านสวดทุกวันนี้ซึ่งเสียงดนตรีจะทุ้มกว่า และดนตรีที่ได้ยินจะนานกว่า ได้ยินเสียงสวดมนต์หลายเสียงประสานกัน  (สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์สวดมนต์) ข้าพเจ้าจึงสวดมนต์ตามในใจกระทั่งจบบทสวด ได้ยินแต่เสียงบรรเลง จึงหลับไป

ข้าพเจ้าตื่นมาปิดเครื่องปรับอากาศเวลา 05.00 น. แล้วจึงนอนหลับต่อ ก่อนตื่นนอนในเวลา 7.00 น. ได้มีนิมิตจากดวงตาทิพย์ เห็นเหตุการณ์ มีหญิงสาว 2 คนติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ร่างกายมี    ผื่นนูนแดงเลือดเต็มไปหมด เป็นมาแล้ว 24 ชั่วโมง กำลังจะสิ้นใจ หากใครไปสัมผัสถูกหญิงสาวนี้ หรือเข้าใกล้ ก็จะติดเชื้อทันที ซึ่งข้าพเจ้าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย และได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งติดเชื้ออยู่ ได้     ยื่นใบหน้าที่มีแต่เหงื่อมาถูที่แขนของข้าพเจ้า และสักพักข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนจะมีไข้ในทันทีในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง  ผู้คนแตกตื่นวิ่งหนีกันอลหม่าน เพราะกลัวติดเชื้อ แต่เชื้อก็แพร่ไปเร็วมาก แล้วจึงตื่นนอน

เมื่อถามพระแม่  ผู้คนในประเทศไทยมากมายจะติดเชื้อไวรัส (ไม่แน่ใจว่าสายพันธุ์อะไร) ซึ่งการติดเชื้อจะกระจายไปตามภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ

 



ภาพตัวอย่าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บันทึกปาฏิหาริย์ บทสวดมนต์พระแม่กวนอิม 1-23

ภาคบทสวดมนต์ พระแม่กวนอิม         บทสวดมนต์นี้ ข้าพเจ้าได้ฟังจากบทสวดและถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือ พร้อมกำหนดเสียงสูง ต่ำ ให้สอดคล้องกับบทสวด...