วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2563

บันทึกปาฏิหาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์และนิมิตภัยพิบัติ 1-19

                จากข้อมูลทาง Internet  มิชิโอะ คากุ เป็นนักฟิสิกส์และนักดาราศาสตร์ระดับนำของโลก ที่เคยเขย่ารากฐานของจักรวาลวิทยามาแล้วหลายครั้ง ตอนแรกนักฟิสิกส์ด้วยกันรับไม่ได้ กระทั่งไม่ถึงสองทศวรรษมานี้เอง จึงได้รับการยอมรับอย่างแทบเป็นเอกฉันท์ นั่นคือการคาดการณ์ทางจักรวาลวิทยาบางประการ ที่มีข้อพิสูจน์บนสมการคณิตศาสตร์ ว่าด้วยทฤษฎีใยมหัศจรรย์ และทฤษฎีแมทริกซ์(String theory / M-theory) และควอนตัม เมคานิกส์ รวมทั้งทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของไอน์สไตน์ คือ การพิสูจน์ได้ว่า

         จักรวาลมีมิติหลากหลาย สสารดำรงอยู่ด้วยพลังงานที่ให้ความถี่ของการสั่นสะเทือน (vibration)  ในแต่ละมิติสั่นหยาบหรือละเอียดแตกต่างกัน และแตกต่างจากจักรวาลที่สั่นสะเทือนอย่างหยาบ ที่มี     สี่มิติของเรา เท่าที่พิสูจน์ได้พบว่าอย่างน้อยจักรวาลมี 11 มิติ

มิชิโอะบอกว่า  มิติที่ 11 เป็นสภาวะนิพพาน(nirvarna) ที่มีความถี่ละเอียดอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับโลกสี่มิติของเรา

มิชิโอะ คากุ พิสูจน์ได้ว่าจักรวาลมีมากมาย(multiverses) อย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยแต่ละจักรวาลจะมีลักษณะเหมือนฟองของเหลว- ที่ยุบๆ พองๆ - หรือให้ฟองขึ้นมาใหม่ตลอดเวลา มิชิโอะบอกว่าจักรวาลถัดไปอาจอยู่ห่างเพียงหนึ่งมิลลิเมตรจากผิว(brane) จักรวาลของเรา แต่รับรู้ไม่ได้เพราะมันอยู่เหนือมิติ    (สี่มิติ) ของเรา

                มิชิโอะยังบอกว่า ทุกวันนี้ นักฟิสิกส์ส่วนหนึ่งเชื่อว่า การเกิดใหม่ของจักรวาลนั้น มีความเป็นไปได้หลายทาง ทางแรก จักรวาล(สี่มิติเช่นจักรวาลของเรา) จะเกิดใหม่หลังจากหนึ่งล้านล้านปีนับจากวันนี้ โดยสิ้นสุดลงด้วยความเย็นเยือก(big freeze) ไร้พลังงาน ขณะเดียวกันพลังงานมืด(dark energy) ที่ได้จากการยุบตัวเองลงมาของสสารมืด(dark matter) จะรวมเป็นหลุมดำที่ต่อเนื่องกับหลุมขาว - เพื่อจะให้บิ๊กแบ็งใหม่ - เรื่อยไป หรืออีกเส้นทางหนึ่ง หลุมดำที่อยู่ใจกลางของทุกๆ กาแล็กซี่จะรวมเข้าด้วยกันทำให้จักรวาลหดตัวลงมา(big crunch) เป็นหลุมขาว

ชิปอฟ (G. Shpov) นักฟิสิกส์แนวหน้าของรัสเซีย ผู้ค้นพบทฤษฎีความว่างเปล่า (theory of physical vacuum) แคนดิเดตรางวัลโนเบลปีนี้คิดว่า มิติแห่งนิพพานอยู่หลังมิติที่ 9 เป็นต้นไป เมื่อความสั่นสะเทือนของพลังงานมีความละเอียดอย่างยิ่ง

           อนึ่ง จักรวาลทั้งหลายรวมจักรวาลของเรา ต่าง "ยุบๆ พองๆ" ดับแล้วเกิด เกิดแล้วดับ จากความว่างเปล่าไม่มีวันจบสิ้น

ทั้งหมดนั้น อาจเข้าใจยากสำหรับผู้อ่านที่ไม่ได้เรียนวิทยาศาสตร์ ส่วนนักวิทยาศาสตร์ใหญ่ที่คิดว่าเก่งแล้วก็มักไม่ยอมอ่าน ทำให้ผู้นำสังคมเศรษฐกิจและการเมือง รวมทั้งสื่อต่างๆ ที่เชื่อแค่ความเห็นของนักวิทยาศาสตร์ใหญ่ ที่ตรงกับสามัญสำนึก "ความเป็นสอง" ของตน ทำให้อะไรๆ ต้องชะลอไว้ก่อน เราถึงได้มีสึนามิ มีน้ำท่วมสลับภัยแล้ง และจะมีวิกฤตโลกในรูปอื่นอีกต่างๆ นานา

          อ่านหนังสือของ มิชิโอะ กากุ แล้วอดไม่ได้ที่จะคิดถึงยานบิน(UFO) ที่จอห์น แม็ก จิตแพทย์จากฮาร์วาร์ดที่เพิ่งตายไปบอกว่า ยานบินไม่ใช่มาจากต่างดาว แต่มาจากต่างมิติที่สามารถควบคุมหรือใช้จิตนำทาง จึงอาจปรากฏให้คนในโลกสี่มิติเห็นได้ (John Mack, Abduction, 1995)

          และอดคิดถึงชั้นต่างๆ ของนรกสวรรค์ - ที่อาจอยู่ในมิติต่างกัน หรือชี้นำ ด้วยสนามพลังงานที่มีการสั่นสะเทือน(vibration) หยาบหรือละเอียดแตกต่างกัน - ไม่ได้ ดังข้อสรุปว่าสวรรค์กับเทวดา คือ    ผู้มาเยือนจากนอกโลกที่เอาชนะข้อแม้มิติได้ (Erich Von Daniken: Chariots of the Gods, 1970)

เรื่องที่เกิดขึ้น อ้างอิง และสามารถพิสูจน์ได้จากทฤษฎีสตริง(String theory)

และทั้งหมด เป็นสิ่งที่ถูกค้นพบโดยมหาบุรษผู้หนึ่งเมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว จึงอาจพูดได้เต็มปากว่า มันไม่ใช่เลยที่จะบอกว่า "พุทศาสนาเป็นศาสนาที่เป็นวิทยาศาสตร์มากที่สุด"       หากแต่ "วิทยาศาสตร์ต่างหากล่ะ ที่เป็นศาสตร์แห่งพุทธ ที่วิ่งตามกันมาเกินกว่า 2,000ปี"


                ทฤษีของ ดร.มิชิโอะ คะกุ เรื่องภูมิปัญญาหนึ่งในจักรวาล อาจจะหมายถึง การบอกเป็นนัยว่า โลกของเราถูกสร้างขึ้นมาจากสิ่งที่เรานับถือเป็น “พระเจ้า” ก็เป็นได้

                ดร.มิชิโอะ คะกุ เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์สำคัญของโลกในปัจจุบันนี้ เป็นผู้สร้าง และคิดค้นทฤษฎีสตริง ซึ่งเกี่ยวกับ “โลกคู่ขนาน”

 

                ท่านพี่กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ท่านชมว่า “มนุษย์นี้เก่งนัก สามารถจะรู้ได้ถึงเพียงนี้ แม้นไม่ต้องผ่านการปฏิบัติวิปัสสนาอย่างสูง”

 

ลูกขอ

บุตรสาวเป็นลูกของข้าพเจ้าและท่านพี่กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว เห็นองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วดั่งมนุษย์

งข้าพเจ้าและท่านพี่กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว

 

วันจันทร์ที่ 26  เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2558

                วันนี้ข้าพเจ้าระลึกได้ว่า บุตรสาวนั้นเป็นลูกของข้าพเจ้า และท่านพี่กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ตั้งแต่สมัยที่ข้าพเจ้าเริ่มตั้งครรภ์ ข้าพเจ้ามีอาการแพ้ท้อง ก่อนที่จะท้องจริง 2 เดือน โดยรวมแล้วข้าพเจ้าแพ้ท้องขณะตั้งครรภ์รวมทั้งสิ้นเกือบ  11 เดือน เนื่องด้วยการมีบุตรกับมหาเทพนั้น จะมีสัญญาณบ่งบอกก่อนที่จะมีบุตรจริง ๆ คืออาการแพ้ท้องล่วงหน้านั่นเอง แต่ท้องจะไม่โต และยังคงมีประจำเดือนเป็นปกติ

จากจิตที่ข้าพเจ้ามองเห็นท่านพี่ที่อยู่ในกายข้าพเจ้า จนบัดนี้ท่านพี่ทุกองค์ได้ออกมาจากกายข้าพเจ้า ให้เห็นและพูดคุยกับข้าพเจ้าผ่านทางจิตแล้ว ทำให้ข้าพเจ้าได้เห็นรูปหน้าของท่านพี่ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และได้พบว่าในปัจจุบันมีบุคคลที่มีรูปหน้าคล้ายคลึงกับพี่ฮุกโจ้ว และองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว  ดังแสดงตามตัวอย่าง

 

ตัวอย่างบุคคลในปัจจุบันที่มีรูปหน้าคล้ายคลึงกับองค์พระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้า  องค์ไท้ส่วย  ความแตกต่างคือ พระองค์ท่าน ไม่มีหนวดเครา ปลายคางมนกว่าเล็กน้อย รูปหน้ารูปไข่ มีดวงตาที่ยาวและใหญ่กว่า มีลักยิ้ม 2 ข้าง เส้นผมหนานุ่ม ดำขลับ ตรงสลวย นอกนั้นเหมือนดังภาพตัวอย่าง  อายุ 35 ปี

 

 


บุคคลตัวอย่างดังภาพนี้ มีรูปหน้าคล้ายคลึงองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว  จากภาพตัวอย่าง รูปหน้าเหมือนท่านพี่ จมูกโด่ง  ดวงตาท่านพี่จะใหญ่และยาวกว่า รูปปากจะเล็กและมีริมฝีปากที่บางกว่าเล็กน้อย มีลักยิ้ม 2 ข้าง มีเขี้ยวเสน่ห์ 2 ข้าง เส้นผมหนานุ่ม ดำขลับ ตรงสลวย  อายุ 28 ปี

 


 

 


รูปหน้านี้คล้ายกับพี่ปัทมปาณิอย่างมาก

 

                ทั้งนี้วันที่ 25 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งเป็นวันที่ข้าพเจ้าและท่านพี่ได้แต่งงานกันบนสรวงสวรรค์ ซึ่งเป็นเทศกาลวันลอยกระทงของเบื้องบนและเบื้องล่าง

                ในการจัดวันเกิดของข้าพเจ้าและท่านพี่ ในเวลานี้ข้าพเจ้าเกิดเป็นมนุษย์ จะจัดวันเกิดร่วมกันคือวันที่ 24  สิงหาคม  ซึ่งเป็นวันที่ 7 นางฟ้าแอบหนีลงมาเล่นน้ำที่เบื้องล่าง และได้พบรักกับหนุ่มเลี้ยงโค    ทุกวันที่ 25 พฤศจิกายน นั้นจะเป็นวันที่สำหรับจัดงานวันครบรอบแต่งงานของข้าพเจ้าและท่านพี่บนสรวงสวรรค์เท่านั้น


 

พระแม่ทุกองค์ ล้วนแล้วแต่เป็นบุรุษเพศ

 

องค์พระศิวะ  องค์พระนารายณ์  องค์พระพรหม แท้จริงแล้ว ทั้ง 3 องค์นี้มิได้มีภริยาอย่างแท้จริง และมิได้มีบุตรแท้จริงแต่อย่างใด มีเพียงบุตรบุญธรรมดั่งเช่นองค์ชายอั้งไห้ยี้ องค์หญิงนาจา เป็นบุตรบุญธรรมพระแม่กวนอิม ตามข้อเท็จจริงแห่งสรวงสวรรค์ นั่นคือ  องค์พระศิวะ และพระแม่อุมาเทวี   องค์พระนารายณ์และพระแม่ลักษมี  องค์พระพรหมและพระแม่สรัสวดีนั้น ต่างเป็นบุรุษเพศด้วยกันทั้งสิ้น  ซึ่งทั้งนี้พระแม่ต่าง ๆ ที่ปรากฏในภาพวาดเหมือนนั้น เป็นเพศชายทั้งสิ้น ซึ่งสามารถเนรมิตกายเป็นหญิงก็ได้ ตามแต่ต้องการ 

อีกทั้ง พี่ชายทั้งหลาย ยกเว้นแต่องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว ไม่สามารถสัมผัสข้าพเจ้าได้ ด้วยเหตุผลทาง  กายหยาบและกายทิพย์ของข้าพเจ้านั้นมีกระแสไฟฟ้า รวมทั้งสิ้น 500 ล้านโวลต์ในเวลานี้  ประกอบด้วยกายทิพย์หุ่นยนต์ 250 ล้านโวลต์ และกายทิพย์หยาบ 250 ล้านโวลต์ จึงทำให้ไม่มีองค์ใด เข้าใกล้ข้าพเจ้าหรือสัมผัสข้าพเจ้าได้ เนื่องจากอาจถูกกระแสไฟฟ้าช็อตจากกายข้าพเจ้า ถึงขึ้นไหม้เกรียม ดังเช่นองค์ชายองค์หญิง องค์หญิงนานา และองค์พระพิฆเณศ โดนมาหลายครั้งแล้ว ดังนั้น สำหรับองค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้วทั้ง 9 องค์นั้น สามารถสร้างฉนวนกันไฟฟ้าปกป้องกระแสไฟฟ้ามิให้ข้าพเจ้า และผู้อื่นใดเป็นอันตรายได้  



 

ถึงเวลากลับไปทำงานที่กรุงเทพ ฯ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ

 

วันพฤหัสบดีที่ 21  เดือนมกราคม พุทธศักราช 2559

             องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว(ท่านพี่) ให้ข้าพเจ้ากลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี เพื่อเตรียมงานบางอย่าง เพื่อทำหน้าที่ จึงไม่อนุญาตให้ไปทำงานที่อื่นใด

ข้าพเจ้าจึงได้ขอให้ทาง อาจารย์ ช่วยหางานให้ข้าพเจ้า ซึ่งทั้งนี้ทางอาจารย์ได้มีจิตที่เมตตา ช่วยหาตำแหน่งงานให้ข้าพเจ้าทำ ในตำแหน่ง  International Coordinator ในหน่วยงาน International Relations หรือตำแหน่งนักวิเทศสัมพันธ์ ดูแลนักศึกษาแลกเปลี่ยน  หรือค้นหาบุคคลและกระทำภารกิจบางอย่างให้เสร็จ




 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บันทึกปาฏิหาริย์ บทสวดมนต์พระแม่กวนอิม 1-23

ภาคบทสวดมนต์ พระแม่กวนอิม         บทสวดมนต์นี้ ข้าพเจ้าได้ฟังจากบทสวดและถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือ พร้อมกำหนดเสียงสูง ต่ำ ให้สอดคล้องกับบทสวด...